แถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย กระทำความผิดล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก เยาวชน หรือสตรี ทางอินเตอร์เน็ต ใช้อินเตอร์เน็ตซื้อขายทางลามกอนาจารเด็ก บริการซื้อขายทางเพศ บังคับใช้แรงงาน ค้ามนุษย์ กรรโชกทรัพย์ พยายามรีดเอาทรัพย์
วันที่ 26 ม.ค.64 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาญชากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ณ หอประชุมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมืองทองธานี
โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.ฯ, พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์รอง ผบช.ฯ, พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.ฯ, พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.คมกฤช สุขไทย, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ, พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผบก.สอท.1,พ.ต.อ.ศราวุธ จุณณวัฒน์, พ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์, พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รองผบก.สอท.5, พ.ต.อ.วีระวิทธ์ ผลประสิทธิ์ ผกก.3 สอท.1 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1
พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2, พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.1 บก.สอท.2, พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต, พ.ต.ท.ยงยุทธ รักสัตย์ รอง ผกก.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เยาวชน ทางอินเตอรเน็ต ในลักษณะการกรรโชกทรัพย์ นำเข้าข้อมูลลามกทางคอมพิวเตอร์ เผยแพร่สื่อลามกบนโลกออนไลน์ การใช้อินเทอร์เน็ตในการซื้อขายทางลามกอนาจาร และค้ามนุษย์ จำนวน 2 คดี
คดีที่ 1 จับกุมผู้ต้องหาชาย อายุ 25 ปี ตามหมายศาล จับได้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ในความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์ นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศ สําหรับตนเองหรือผู้อื่น ส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น เพื่อประสงค์แห่งการค้าฯ, จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน เพื่อจะช่วยการทําให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทําให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทําผิด, โฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือกระทําให้แพร่หลายในลักษณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องเพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น
จากการสืบสวนของ กก.3 บก.สอท.1 ทราบว่ามีกลุ่มผู้ผลิตสื่อลามกอนาจารเด็ก ที่เผยแพร่ในรูปแบบสตีมมิ่ง (Streaming) โดยผู้เสียหายได้รับข้อความทางแอพพลิเคชั่นบีโก้ไลฟ์ (BIGO LIVE) จากผู้ต้องหา ชักชวนให้ผู้เสียหายวิดีโอคอลส่วนตัว เต้นโป๊เปลือย ยั่วยุให้เกิดอารมณ์ทางเพศ หรือให้สําเร็จความใคร่ให้ผู้ต้องหาดูเป็นเวลา 15-30 นาที จ่ายค่าตอบแทนครั้งละ 25,000 บาท แล้วส่งเครดิตการพูดคุยกับผู้อื่นๆ ถ่ายรูปบัตรประชาชน ส่งหลักฐานโอนเงินค่าจ้างให้ผู้เสียหาย เพื่อให้เห็นว่าจ่ายเงินให้จริง ก่อนทําการวิดีโอคอลส่วนตัว หลังจากนั้นผู้เสียหายทราบทีหลังว่าถูกหลอกลวง มีการบันทึกคลิปไว้ระหว่างวิดีโอคอล จึงทักไปยังผู้ต้องหาให้ลบคลิป แต่กลับถูกข่มขู่เรียกเงินเป็นค่าลบคลิป หรือขอมีเพศสัมพันธ์ เพื่อแลกลบคลิป ต่อมาคลิปวิดีโอของผู้เสียหายปรากฏในแอพพลิเคชั่น VK ซึ่งได้รับความอับอายเสียหายอย่างมาก
คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาหญิง อายุ 27 ปี ตามหมายศาล จับได้ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มผู้ผลิตสื่อลามกอนาจารเด็กที่เผยแพร่ในรูปแบบสตรีมมิ่ง ผ่านแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดีย ชื่อว่า เอ็มไลฟ์ (Mlive) แสวงประโยชน์จากผู้ที่เข้ามาชม โดยจะนําเด็กผู้เสียหายหลายรายมาไลฟ์สดโชว์ลามกอนาจาร ประกาศโฆษณาลักษณะชักชวน เรียกร้องติดต่อค้าประเวณี โดยผู้รับชมต้องจ่ายเงินซื้อคูปอง 13,000 คูปอง (มูลค่า 250 บาท) เพื่อเข้ารับชมต่อครั้ง จะมีผู้เข้ารับชมไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย โดยขณะไลฟ์สด ผู้จัดสามารถเรียกรับประโยชน์ผลตอบแทนจากผู้เข้าชมผ่านผู้ให้บริการเจ้าใหญ่แห่งหนึ่งได้อีกด้วย โดยมีฐานความผิด “
1.ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น เพื่อประสงค์แห่งการค้าฯ, จ่ายแจก หรือแสดงอวดแก่ประชาชน เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก”
2.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
3.บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด
4.โฆษณา หรือรับโฆษณา ชักชวน หรือกระทำให้แพร่หลายในลักษณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องเพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ให้เร่งรัดปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดบนโลกออนไลน์ ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เนื่องจากเป็นนโยบายที่ทาง ผบ.ตร. และรัฐบาลให้ความสำคัญ ให้สร้างการรับรู้ถึงพิษภัยต่างๆ บนโลกออนไลน์ พร้อมกับแนวทางการป้องกันให้ประชาชนได้รับทราบ
แนวทางการป้องกันการขู่กรรโชกทางเพศ (Sextortion) ดังนี้
1) ระมัดระวังเมื่อจะเลือกรับเพื่อนจากโลกออนไลน์ ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ ถึงแม้ปรากฏว่าเป็นเพื่อนของเพื่อน ก็ควรตรวจสอบว่าเป็นเพื่อนกันจริงหรือไม่
2) การพูดคุย ส่งรูป หรือการไลฟ์สด ควรคิดให้รอบคอบ ไม่ควรส่งภาพส่วนตัวให้ใครดูทางออนไลน์ และไม่ควรหลงเชื่อการชวนให้ทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะอาจถูกนำคลิปหรือรูปภาพส่วนตัวไปใช้ในการขู่กรรโชกเอาทรัพย์ได้
3) คนร้ายใช้อุบายให้เหยื่อที่เป็นเด็กมาถ่ายภาพเพื่อเป็นนางแบบ หรือให้ส่งภาพเปลือยหน้าอก ผ่านทางออนไลน์ แลกกับค่าตอบแทน แล้วใช้ภาพข่มขู่ให้ถ่ายคลิปลามกเพิ่มเติม
4) หากตกเป็นเหยื่อแล้ว ไม่ควรส่งเงิน หรือทำตามที่มิจฉาชีพบังคับให้ทำ จะยิ่งทำให้เป็นเครื่องมือขู่กรรโชกเพิ่มขึ้นอีก โดยเบื้องต้นควรรายงานการละเมิดนโยบายของผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ที่คนร้ายใช้ เพื่อระงับบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของคนร้าย เก็บรวบรวมข้อมูลการขู่กรรโชกทรัพย์ รายละเอียดผู้ขู่กรรโชก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
5) ผู้ปกครองควรใส่ใจบุตรหลาน ให้คำแนะนำ และควบคุมการใช้โซเชียลมีเดีย หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีทัศนคติใช้สื่อออนไลน์ที่ถูกต้อง รู้จักการเลือกรับสื่อออนไลน์ที่เหมาะสม เข้าใจถึงพิษภัยที่มีบนโลกออนไลน์ และป้องกัน หลีกเลี่ยง ได้อย่างถูกต้อง
จึงขอฝากข้อคิดและคำเตือน ไปยังผู้ใช้โซเชียลมีเดีย และสื่อออนไลน์ต่างๆ ว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวข้างต้น เข้าข่ายความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์ฯ, ทําผลิต มีไว้ นําเข้า หรือส่งออก หรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กด้วยวิธีใดๆ การค้า แจกจ่าย การแสดง หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการค้า สื่อลามกอนาจารเด็กฯ, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ ที่มีลักษณะลามกฯ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์, บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรฯ ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก, โฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน เรียกร้องเพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่นฯ ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี หรืออาจจะมีความผิดอื่นๆ
ส่วนคนดู โดยเฉพาะพวกที่สมัครเป็นสมาชิก เพื่อเข้าไปดูภาพลามกเด็กดังกล่าว อาจจะเป็นความผิดฐานครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศของตนเองและผู้อื่น
ปัจจุบันมีผู้เสียหายในคดีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย โปรดใช้วิจารณญาณใช้สื่อออนไลน์ให้มากๆ เพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อ หรือเป็นผู้สนับสนุนเผยแพร่สื่อลามก โดยไม่รู้ตัว
พล.ต.ท.กรไชยฯ ผบช.สอท. กล่าวว่า ในการปฏิบัติการของกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) มุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล และ ผบ.ตร. ที่ให้มุ่งเน้นการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในทุกรูปแบบ ซึ่ง พล.ต.ท.กรไชยฯ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติในสังกัด มีผลการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ให้เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง สร้างความตระหนักรู้ ประชาสัมพันธ์ เพื่อการป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศเด็ก สร้างการรับรู้ถึงภัยของสื่อสังคมออนไลน์ และการกระตุ้นเตือนเด็ก และเยาวชน ที่อาจตกเป็นเหยื่อจากผู้ไม่ประสงค์ดี
บช.สอท. ต้องการสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ให้บริการ โปรดได้คำนึงถึงนโยบายปกป้องและคุ้มครองเด็ก (child protection policy) ในการให้บริการแอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศไทย
สมชาย/อ๊อด..รายงาน