สกู๊ปพิเศษ… : “Frerozy” ถ่อมตัวนักวาดโนเนม วาดด้วยใจรักเรื่องราคาคุยกันด้าย

สกู๊ปพิเศษ…

 “Frerozy” ถ่อมตัวนักวาดโนเนม วาดด้วยใจรักเรื่องราคาคุยกันด้าย

              ท่ามกลางวิกฤตโควิดและเศรษฐกิจที่วงการนิยายสั่นสะเทือน สำนักพิมพ์บางแห่งต้องปิดตัวลง แต่วงการนักวาดร้อนระอุด้วยนักวาดผุดขึ้นราวดอกเห็ดเหมือนนักเขียน จึงเกิดกรณีที่นักวาดตั้งกฎราคาที่เรียกว่า ‘เชิงพาณิชย์‘ จนเป็นกระแสในหมู่นักเขียนตั้งกระทู้ถามว่า ใช้มาตราฐานใดในการตั้ง   เรตราคา? เราทำหน้าสื่อมวลชนมากว่าสิบปีมันอยู่ในสายเลือด บังเอิญเจอนักวาดปกนิยายจึงได้ขอสัมภาษณ์ เธอคือ ฟรีส – ธิชากร เตือนวีระเดช เชื่อว่าลายเส้นของนักวาดท่านนี้คงผ่านตานักเขียนบ้าง แม้นักวาดถ่อมตัวว่าไม่ใช่นักวาดดัง แต่งานวาดปกนิยายทำเพราะใจรัก เรื่องงบประมาณนักวาดบอกว่า ‘สามารถคุยกันได้หลังไมค์ แบบที่นักวาดรับไหวก็จัดปกให้ได้ไม่มีปัญหา’ โดยฟรีสเปิดอกพูดคุยถึงการก้าวสู่เส้นทางนักวาดและงานอดิเรกดูไพ่ทาโรต์ด้วยว่า…

              “เพิ่งเริ่มดูไพ่ทาโรต์ได้สองสามปีค่ะ ตอนนั้นได้รับบรีฟให้วาดไพ่ทาโรต์ชุด Bossa Tarot แล้วทางพี่เจ้าของไพ่เขาให้ฟรีสมาลองใช้ดูค่ะ เลยรู้สึกชอบแล้วติดใจมาก หลังจากนั้นก็มีรับดูดวงไพ่ทาโรต์เป็นงานอดิเรกซะส่วนใหญ่ เพราะเน้นดูเพื่อช่วยคลายความกังวลของลูกค้ามากกว่าค่ะ ในส่วนของของวาดปกนิยายเริ่มวาดจริง ๆ จัง ๆ ได้เกือบปีแล้วค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นงานกราฟิกเป็นงานหลัก งานปกรองลงมา ส่วนไพ่เป็นอาชีพเสริมค่ะ ซึ่งงานรองทั้งสองทำเพราะชอบจริง ๆ เลยพยายามหาโอกาสเรียนรู้และฝึกฝนค่ะ สำหรับใครที่อยากให้ฟรีสดูไพ่ทาโรต์ให้ก็ติดต่อได้ที่เพจหรือแชทเฟซ Frii’ze Thichakorn

หรือเพจเฟซบุ๊ค Frerozy / https://www.facebook.com/frezinfrozen ได้เลยค่ะ ส่วนใหญ่จะแม่น 60-70% นะคะ เพราะจะบอกลูกค้าตลอดว่าอย่ายึดติดมาก เน้นดูให้สบายใจและเชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ค่ะ ส่วนลูกดวงที่ได้ดูบางคนก็กลับมาดูซ้ำบ้างค่ะ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่ยังไม่คลี่คลายและปัญหาคาใจ หรือมีสิ่งที่ต้องเลือกแล้วเลือกไม่ได้ค่ะ^^  ปัจจุบันฟรีสเป็นฟรีแลนซ์ด้านการออกแบบค่ะ โดยรับงานกราฟิกดีไซน์เป็นหลัก วาดภาพประกอบบทความ ออกแบบลายผ้า และรับวาดภาพประกอบปกนิยายเป็นงานเสริมที่เราชอบและใฝ่ฝันอยากทำมานานค่ะ

              ฟรีสเริ่มวาดภาพปกแรกซักห้าปีก่อน ได้มีโอกาสวาดปกนิยาย Ebook ให้กับนักเขียนที่ทักมาในเพจของฟรีสค่ะ แต่เป็นภาพสไตล์สีน้ำนะคะ หลังจากนั้นก็แทบไม่ได้วาดเลย มีแต่วาดพวกลายผ้าพันคอและแพทเทิร์นต่าง ๆ ภาพคนเหมือน ภาพเปลี่ยนคนเป็นการ์ตูนใน IG บ้าง ไปจนถึงสติ๊กเกอร์ไลน์ค่ะ จนผ่านมาหลายปีก็เพิ่งมากระตุ้นตัวเองให้กลับมาลองวาดภาพแนวปกนิยาย โดยการวาดดิจิตัลอีกรอบค่ะ ในเรื่องของราคาวาดภาพปกนิยาย สำหรับฟรีส แรก ๆ เลยจะคิดราคาเป็นจำนวนตัวละครค่ะ โดยคำนวณจากรายละเอียดความยากง่ายในการวาดและระยะเวลาที่ใช้ จะอยู่ที่ 500-750 บาทต่อคนค่ะ ส่วนตอนนี้ที่ได้เปิดรับวาดภาพปกอีบุ๊กแบบเต็มตัวก็จะคิดราคาที่เป็นกลางให้เหมาะสมกับคุณภาพงานและระยะเวลาที่เราใช้ฝึกมาตลอดหลายปีค่ะ โดยราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนตัวละคร/ดีเทลชุดเสื้อผ้าและสัดส่วนที่ให้วาด เช่น ครึ่งตัว หรือเต็มตัว ก็จะมีราคาที่เพิ่มลดต่างกันไปค่ะ ซึ่งสำหรับราคาของฟรีสจะเริ่มต้นที่ 750 บาทต่อหนึ่งตัวละครบนปก โดยเป็นระยะของการวาดหัวไปจนถึงช่วงบ่าหรืออก (หรือเรียกกันในวงการว่า  head shot/bust up ค่ะ) ถ้าครึ่งตัวตั้งแต่หัวจนถึงเข่าเริ่มต้นที่ 1000 บาท และแบบเต็มตัวเริ่มที่ 1750 บาทค่ะ โดยของฟรีสจะแถมฟรีทำพวกพื้นหลังแบบง่ายที่ไม่ต้องเพ้นท์รายละเอียดมากค่ะ(แต่ถ้าพื้นหลังมีดีเทลที่ต้องเพ้นท์และวาดเพิ่มเยอะ ก็จะ + อยู่ราว ๆ 500-1500+ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดอีกทีค่ะ)  นอกจากนี้ยังมีไซส์การ์ตูนหัวโต ตัวเล็ก หรือจิบิ ราคาจะอยู่ที่ 250-500 ค่ะ

              ส่วนสาเหตุที่ปกอีบุ๊กเหมือนกันแต่ราคาแตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะราคาจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่ต้องวาดในภาพค่ะ เช่น ภาพตัวละครครึ่งตัวรายละเอียดปานกลาง เริ่มต้นที่ 1000+ บาทค่ะ แต่ถ้าตัวละครใส่ชุดเจ้าสาว มีดีเทลถือดอกไม้ ก็อาจจะบวกเพิ่มในส่วนของการวาดรายละเอียดชุดและวาดดอกไม้เข้าไปค่ะ และนอกจากปกอีบุ๊ก ถ้านักเขียนนำไปทำเล่มหรือทำมือราคาซึ่งในส่วนตรงนี้ ราคาของนักวาดบางท่านจะแตกต่างกันไปค่ะ ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและฝีมือเพราะบางคนจะบวกราคาในส่วนของลิขสิทธิ์ภาพในการทำสิ่งพิมพ์เข้าไปด้วย สำหรับฟรีสเองจะมีการคิดราคาเท่ากับราคาวาดปกอีบุ๊กค่ะ คือยึดราคาเดียวกันเลย เพราะถือว่าคิดค่าวาดเชิงพาณิชย์ไปในตัวแล้วค่ะ แต่ถ้าหากมีสิ่งที่นักเขียนต้องการเพิ่มเข้าไปอีก เช่น ทำฟ้อนต์ชื่อเรื่อง หรือให้จัดการไฟล์วางอาร์ตลงบนขนาดปกทั้งหน้าปก สันปก และหลังปก อันนี้ก็อาจจะมีบวกเพิ่มเป็นค่าดำเนินการอีกราว ๆ 500-1000 แล้วแต่ความยากง่ายค่ะ

              คำว่าราคาเชิงพาณิชย์ ถ้าอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ก็คือการนำผลงานที่ได้จ้างผลิตจากนักวาดไปแสวงหาผลกำไรต่อ โดยการนำมาเป็นหน้าปกของนิยายเพื่อขายค่ะ ซึ่งนักวาดแต่ละคนจะคิดราคาที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความพอใจและฝีมือของเจ้าตัวเอง โดยบางคนอาจจะคิดรวมอยู่ในตัวแล้ว หรือจะมีการคูณราคา 1.2 ไปจนถึง 2  เท่าของราคางานจริง เพราะนักวาดถือว่าเป็นการขายลิขสิทธิ์ในการใช้งานของภาพให้แก่นักเขียนถาวรค่ะ ถ้าให้ยกตัวอย่างก็คือ หากเราเป็นนักเขียน และจ้างนักวาดชื่อดังท่านนึงที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศมาวาดภาพปกนิยายเพื่อตีพิมพ์ นักวาดท่านนั้นอาจจะคิดราคาหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน เพราะเป็นราคาที่ตีมาจากชื่อเสียงของตัวนักวาดค่ะ นั่นทำให้นิยายเรื่องนี้จะไม่ได้ขายให้แค่ฐานแฟนคลับนักอ่านที่ติดตามนามปากกาเท่านั้น แต่ยังตามมาจากแฟนคลับศิลปินผู้วาดที่ต้องการสะสมผลงานของเขาอีกด้วยค่ะ (บางคนอาจจะคิดราคาเป็น % จากยอดพิมพ์เล่มก็มีค่ะ)

              สำหรับคำถามที่ว่าการคิดราคาเชิงพาณิชย์จะจำกัดนักเขียนที่สู้ราคาได้เท่านั้น โดยส่วนตัวฟรีสคิดว่าอาจจะขึ้นอยู่กับตัวผู้วาดเองมากกว่าค่ะ ว่าเขาประเมินตีคุณค่าของฝีมือที่ผ่านการฝึกฝนของตัวเองไว้ในระดับไหน โดยประเมินออกมาเป็นราคาของงานค่ะ (รวมถึงราคาที่คูณเชิงพาณิชย์ที่สมเหตุสมผลสำหรับตัวนักวาดแต่ละท่าน) เช่นเดียวกับตัวนักเขียนเช่นกันที่อาจจะต้องประเมินราคาตอนวางขายนิยายค่ะ ว่าจะขายอะไรยังไง เล่มนี้จำนวนหน้าเท่านี้เราจะขายเท่าไหร่ดี หรือหากมีสำนักพิมพ์มาติดต่อเราจะขายลิขสิทธิ์นิยายเราเท่าไหร่ เพื่อให้คุ้มกับความเหนื่อยของเราค่ะ  ดังนั้นในเรื่องของราคาและฝีมือของนักวาดนั้นมีหลากหลายให้เลือกมาก ฟรีสคิดว่าหากนักเขียนที่ขายผลงานน่าจะตั้งงบประมาณของปกในใจเอาไว้ค่ะ ขึ้นอยู่กับการต่อรองราคา การตั้งงบประมาณ และการเสาะหานักวาดที่ตรงใจทั้งราคาและฝีมืออีกที เพราะนักวาดบางส่วนก็อยากจะวาดชิ้นงานให้คุณภาพและราคาสมเหตุสมผลตามงบเพื่อให้นักเขียนแฮ้ปปี้ค่ะ

              คำถามที่ว่านักวาดใช้มาตรฐานใดตั้งเรตราคาวาดปกนิยายในราคาเชิงพาณิชย์ ส่วนใหญ่จะใช้การคำนวณราคาภาพตามชั่วโมงในการทำงานแบบที่สากลทั่วโลกคิดเลยค่ะ เช่น ภาพนี้ประเมินแล้วใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 100-300 บาทโดยประมาณ ดังนั้นราคาก็จะอยู่ที่ 1200-3600 บาทค่ะ ซึ่งบางภาพบางคนใช้เวลา 3-7 วัน ทำวันละ 3-4 ชั่วโมง ก็เหมือนเป็นค่าแรงต่อวันประมาณ 400-1200 บาท หรือในบางท่านอาจจะทำมานานและมีชื่อเสียงพอสมควร ก็อาจจะประเมินค่าแรงต่อวันของตัวเองในเรตที่มากกว่านี้ไปอีกค่ะ ส่วนราคาเชิงพาณิชย์ก็แล้วแต่นักวาดเช่นกันว่าจะประเมินราคาบวกเข้าไปเท่าไหร่สำหรับการนำไปใช้แสวงหารายได้ต่อจากผลงานที่นักวาดสร้างสรรค์ตามบรีฟขึ้นมาค่ะ

              ด้วยความที่เป็นนักวาดก็ต้องมีนักเขียนที่สนิทหรือวาดกันบ่อยฟรีสก็มีลดราคาให้กันบ้างค่ะ อย่างนักเขียนที่เราได้วาดให้บ่อยและสนิทกันก็จะลดราคาให้ ซึ่งเป็นโปรโมชั่นให้ลูกค้าประจำค่ะ (เหมือนเวลาเราเข้าร้านอาหารในห้าง แล้วสมัครบัตรเพื่อเอามาลดราคาอาหารประมาณนั้นค่ะ) ส่วนเรื่องงบประมาณสำหรับฟรีสคุยได้เสมอค่ะ เพราะถ้าอยู่ในเกณฑ์ที่เราไหวและเราลดปริมาณงานให้เหมาะสมกับราคาก็ไม่มีปัญหาค่ะ

              ที่พี่ถามว่างานวาดปกเลี้ยงตัวและรายได้ดีกว่าทำงานประจำไหม? ในเรื่องนี้ถ้าเทียบด้วยประสบการณ์การทำงานประจำมาก่อนนะคะ เรียกได้ว่ารายได้แกว่ง ๆ ไม่แน่นอนค่ะ สามารถทำเป็นงานเสริมได้ แต่ไม่สามารถวาดปกเลี้ยงตัวเองได้ค่ะ เพราะฟรีสไม่ได้เป็นนักวาดมีชื่อเสียงมากนัก แต่ใช้ความฝันขับเคลื่อนเต็มที่ เน้นที่ความสุข ความสบายใจในการทำงานมากกว่าการไปทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้รักในออฟฟิศค่ะ  ส่วนเรื่องของการเข้างานตามเวลานั้น ของฟรีสเองคือไม่เป็นเวลาเลยค่ะ ๕๕๕๕ เพิ่งจะเข้าใจอารมณ์ศิลปินก็ตอนเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัวนี้ คือเราจัดระเบียบชีวิตตัวเองและมีความรับผิดชอบส่งงานตามกำหนดก็พอค่ะ  งานวาดปกอีบุ๊กที่ผ่านมาน่าจะ 15-20 ปกค่ะ ส่วนปกทำมือลูกค้าบางคนก็เอาปกที่เราวาดแบบอีบุ๊กไปทำเอง อยู่ที่ราว 6-7 ปกค่ะ ฟรีสวาดมาเกิน 10 ปีแล้วค่ะ ชอบวาดตั้งแต่ตอนประถม และมาวาดจริง ๆ จัง ๆ ก็ตั้งแต่มัธยมต้นมีหยุดวาดไปบ้างตอนขึ้นมหาวิทยาลัยค่ะ ตอนปริญญาตรีเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมัณฑนศิลป์ ภาควิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ค่ะ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการวาดการ์ตูนโดยตรง แต่ได้ประสบการณ์และวิธีการคิดเยอะเลยค่ะ แต่ก็เกือบคิดจะเลิกวาดการ์ตูนไปเพราะรู้สึกกดดันและคาดหวังในตัวเองเลยทิ้งการวาดไปนานจนจับดินสอไม่ออก เริ่มวาดไม่ถูกค่ะ เลยหยุดวาดมาตั้งแต่อายุ 18 จนถึง 22 เรียนจบมาก็ทำงานประจำกราฟิกอยู่ 2 ปี จนแบบเริ่มปลงชีวิตในที่ทำงานค่ะ เพราะเราไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำเลยตัดสินใจลาออกไปเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยรังสิต หลักสูตรคอมพิวเตอร์อาร์ต ที่เรียนเกี่ยวกับการ์ตูน 3D และแอนิเมชันค่ะ(ปีนั้นไปสัมภาษณ์และได้ทุนเลยตัดสินใจลาออกค่ะ) ซึ่งมีสอนวาดภาพด้วยในหลักสูตรเลยได้เริ่มกลับมาวาดภาพอีกครั้งจริง ๆ ช่วงหลังนี้ค่ะ สำหรับนามปากกาที่ใช้ Frerozy ค่ะ

              สำหรับคำถามที่ว่าเคยเจอดราม่าเรื่องวาดปกนิยายตั้งราคาเชิงพาณิชย์ไหม? เคยเห็นดราม่าอยู่บ้างค่ะ แต่เป็นดราม่าที่มีบางคนไม่เข้าใจเรื่องราคาเชิงพาณิชย์แล้วมาตั้งคำถามในกลุ่ม ซึ่งในนั้นมีนักเขียนที่เข้าใจและเข้ามาช่วยตอบอธิบายเยอะมาก รู้สึกดีใจที่นักเขียนเห็นคุณค่าของนักวาดอย่างพวกเรา ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ  และการตั้งราคาวาดปกสามารถต่อรองด้วยความเสน่หาได้ค่ะ น่าจะมีบ้างแล้วแต่คนนะคะ เพราะบางงานหากตัวนักวาดชอบและปลื้มนักเขียนคนนั้นหรือเป็นแฟนคลับก็อาจจะลดราคาให้ค่ะ  ทางครอบครัวรู้ว่าฟรีสเป็นนักวาดก็โอเคค่ะ ไม่ได้ห้าม และสนับสนุนให้เราทำสิ่งที่ชอบแต่มีกังวลบ้างว่าเราจะเลี้ยงตัวเองได้มั้ยค่ะ  ฟรีสยอมรับว่านักวาดปกเกิดขึ้นเยอะมากค่ะ เพราะทุกวันนี้พ่อแม่เจน x และ y ค่อนข้างเปิดกว้างกับอาชีพนี้มากขึ้น ทำให้มีเด็กที่ชอบวาดภาพเกิดขึ้นมามากค่ะ ถามว่าจะเกิดการแย่งลูกค้ามั้ย คิดว่าคงแล้วแต่คนคิดมากกว่าค่ะ นักวาดเกิดขึ้นเยอะพอ ๆ กับนักเขียนเลยค่ะทุกวันนี้ เพราะมีช่องทางในการโพสต์นิยายได้มากกว่าสมัยก่อน ตัวฟรีสเองพยายามไม่วาดปกเพียงอย่างเดียวแต่รับงานอย่างอื่นด้วย เพื่อกระจายความเสี่ยงให้ตัวเอง มาก (อยากตั้งตัวด้วยการวาดปกจริง ๆ ค่ะ) ในส่วนตัวฟรีสที่ยังวาดภาพเพราะรักในการวาดค่ะ เราอยากสร้างตัวละครในนิยายและปกที่ตรงใจนักเขียน ยังไงก็หยุดวาดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ

              ตอนนี้ฟรีสยังเป็นนักวาดโนเนมค่ะ เลยไม่มีภาพที่สร้างชื่อ ส่วนภาพที่ประทับใจคือชอบทุกภาพที่ทำออกมาค่ะ แต่มีปลื้มงานที่วาดล่าสุดปกของพี่พลอยแก้ว เรื่อง ‘ห้วงเสน่หามาเฟียร้าย’ กับปกของพี่ชะนีติดมันส์ เจ้าของนิยายขายดีเรื่องเมียชั่วคราว ฟรีสได้วาดปกเรื่อง ‘พ่ายรัก’ ที่พี่เขากำลังแต่งค่ะ ส่วนตัวฟรีสถนัดวาดผู้หญิงค่ะ เพราะชอบสรีระของผู้หญิงตอนวาดจะมีส่วนเว้าและส่วนโค้งดูนุ่มนวลค่ะ  หลักการทำงานหลังคุยรายละเอียดในส่วนของฟรีสใช้เวลา 3-7 วัน โดย 1-2 วันแรกเริ่มร่างภาพ จากนั้นจะตัดเส้นและลงสีค่ะ โดยจะส่งให้นักเขียนตรวจเช็กทุกขั้นตอน เพื่อให้ตรงใจนักเขียนค่ะ ถ้านักเขียนต้องการติดต่อวาดภาพ ติดต่อฟรีสได้ที่เฟซบุ๊คหลัก  Frii’ze Thichakorn หรือเพจเฟซบุ๊ก Frerozy / https://www.facebook.com/frezinfrozen

อีเมล thichakorn_freeze@hotmail.com

Line id: frezin115

              ซึ่งนอกจากวาดปกนิยายงานวาดยังไปใช้กับงานโลโก้แบรนด์ / สติ๊กเกอร์ไลน์ / ลายผ้า / มาสค็อตร้านค้า / Vtuber และอื่น ๆ อีกมากมายค่ะ”

Related posts