อดีตให้คิดในอนาคต

เขาค้อ เคยเป็นเทือกเขาป่าดงดิบในอดีต มาโด่งดังเมื่อหลัง 6 ตุลาคม 2519 เมื่อรัฐบาลทหารในอดีต โดนนักศึกษาต้อน การประท้วงรายวัน จนนำกลับมาสู่การยึดอำนาจการปกครอง อีกรอบ

นิสิต นักศึกษา ที่เคยเป็นแกนนำประท้วงตามสถาบันการศึกษา โดนไล่ล่าจับกุม และยัดข้อหา มีการกระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์ ทำให้เขาเหล่านั้น ต้องกลายเป็น “นกสีเหลือง” กางปีกหลีกบินจากเมือง เพื่อเข้าสู่ป่าดิบ ซุกอกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่มีกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทยบริหารจัดการ มีพรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม พรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย คอยสนับสนุน สามารถก้าวข้ามเข้าลาวที่มีพรรคคอมมิวนิสต์ลาวให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เพื่อผ่านเข้าจีนในการเรียน มีเพลงเดือนเพ็ญ ออกมาปลอบประโลม

ภูกระดึง ภูหลวง นาดินดำ นาแห้ว ภูเรือ ด่านซ้าย ท่าลี่ นาอ้อ ปากชม เป็นพื้นที่ยุทธการในจังหวัดเลย กินลามเข้าเทือกเขาภูพาน ภูพานน้อย

เขาค้อทั้งเทือกเขากินลามเข้าชาติตระการของพิษณุโลก ภูทับเบิก ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ยุทธการ สงครามจรยุทธ สงครามประชาชน ที่คนไทยลุกขึ้นจับปืนรบกับคนไทย ทหารตายไปเท่าไหร่ ถามสัปเหร่อ วัดในอำเภอน้ำโสม อุดรธานี ได้ เผาถึงขนาดปล่องเมรุระเบิด

ยุทธการครั้งนั้น ทำให้ทุกตารางนิ้วของเขาค้อเรียกได้ว่ามีศพเรียงเป็นทาง มีร่มไม้สัก ประดู่ ตะเคียนคอยกำบังกายสู้รบในยามวิกาล ที่มีพลุส่องแสงคอยส่องแสงสว่าง และเสียงไซเรนของรถพยาบาลทหาร ดังลั่นในเส้นทางเข้าสู่โรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลยุพราชด่านซ้าย และโรงพยาบาลจังหวัด

        จำได้ว่า หลายครั้ง ที่ผมกำสำลีก้อนใหญ่ เพื่อเช็ดเลือดบนศพทหาร จนเห็นปากแผลรูกระสุน เพื่อถ่ายภาพส่งไปลงหนังสือพิมพ์รายวันในฐานะผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด

พื้นที่ชายเขตแดนสามจังหวัด คืออำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ติดแดนกัน จนทหารต้องจ้างบริษัทยักษ์รับเหมาสร้างเส้นทางยุทธศาสตร์ไว้เปิดยุทธการข้างพระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย เข้าเส้นชาติตระการ และเส้นไปออกหล่มเก่า เพชรบูรณ์

ครั้งกระนั้น ผมควบคาวาซากิ สีฟ้าคู่ใจขนาด 100 ซีซี แต่โมดิฟายเครื่องในระดับ 125 ซีซี ออกตามล่าข่าว ตามแนวตะเข็บจังหวัด บางครั้งล่วงล้ำแดนจังหวัดอื่น เพื่อตามข่าวในเชิงสืบสวนสอบสวน

พระธาตุศรีสองรัก สมัยนั้น มีแต่ป่าดกดื่น ไม่มีพระ ไม่มีร่างทรง มีแต่ม้าชาวบ้านที่มาผูกให้กินหญ้าหนึ่งตัว วัวชาวบ้านสองตัว มาปลูกให้กินหญ้า

         หลายครั้งที่ผมขี่รถเครื่องมาทำข่าว ผมจะแวะมานั่งตีนบันไดทางขึ้นพระธาตุศรีสองรัก ที่มีชาวบ้านศรัทธามากราบไหว้ มีตำรวจมากราบไหว้ และมีทหารเกณฑ์ ทหารหลักมากราบไหว้

คนที่มากราบไหว้ จะเอาเศษปูนที่กระเทาะจากองค์พระธาตุศรีสองรัก ไปหุ้มพลาสติกแขวนในยามออกรบและทุกคนที่ไปแขวนจะแคล้วคลาดรอดพ้นคมกระสุนทั้งอาก้า เซกาเซ่ เคโม หรือกระทั่ง อาร์พีจี แต่หลังจากกลับมา จะต้องรีบนำกลับมาคืน มิเช่นนั้นจะมีอาการฟั่นเฟือน เพี้ยน

ทุกครั้งที่ผมแวะมา จะกำเทียนไขสีเหลือง มา 1 ห่อ จุดทุกช่องเสียบเทียนไขให้สว่างไสว จุดธูป 9 ดอก และกราบสามครั้ง อธิษฐาน และทุกครั้ง ผมจะเดินภายในรั้วปูนล้อมเจดีย์สามรอบ อธิษฐานเสมอ

หลายครั้งที่กลับมาไหว้ เห็นการเปลี่ยนแปลงแหล่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผมเคารพแล้ว เกิดอาการไม่สบายใจ

       พระอยากจะเข้ามาทำเป็นวัด ก็ทะเลาะกับคนทรง ที่อ้างว่า อยู่มาแต่ดั้งเดิม ทั้งที่ในยุคปี 2522 ที่ผมไปทำข่าว ไม่มีใครกล้าตั้งรกรากในบริเวณพื้นที่พระธาตุศรีสองรัก เพราะ

กลัวโดนยิงตาย

ขนาดแม่ค้าขายขนมจีนที่อำเภอนาแห้ว เคยคุยกับผมว่า วันนึงขายขนมจีนได้สามจาน จานนีงขายนายอำเภอ อีกจานขายตำรวจ อีกจานขายสหาย เพราะไม่มีใครกล้าขี่รถเครื่องเอ้อระเหยลอยชายให้กระสุนไม่ทราบสังกัดเจาะหัว มากิน

ผลประโยชน์เกิดขึ้นในบริเวณพระธาตุศรีสองรัก ทั้งขายดอกไม้ธูปเทียน ล็อตเตอรี่ ซุ้มอาหาร คนทรงจนวุ่นวาย

ผมแวะมากราบอีกหนกับเพื่อนนักข่าวที่คบหากันมามากกว่า 25 ปี

ในวันที่มีข่าวว่า คนติดโควิดเคยแวะมาไหว้พระธาตุศรีสองรัก มีชาวบ้านพื้นถิ่นมาไหว้คนสองคน ไม่มีรถจนจะจอดตรงไหนก็ได้ มีแผงล็อตเตอรี่ของชาวอุดรมายืนขายเจ้าแรก เจ้าเดียว หลังวันหวยออกที่ยังไม่มีล็อตเตอรี่มาวางขาย ในราคาสองใบเหมือนสองร้อยบาท ทั้งที่ปกติจะวางขายเป็นตลาดนัด

ผมได้กราบพระธาตุศรีสองรักในวันที่ไม่มีผู้คนเหมือนเมื่อปี 2522 วันที่มีสงครามจรยุทธ สงครามประชาชนอีกครั้ง ผมได้มีเวลาอธิษฐาน เวลากราบเหมือนเมื่อครั้งนั้น เพียงแต่ไม่ได้นั่งพักเหนื่อยตรงตีนบันไดทางขึ้นเพราะเขาปูหญ้าเทียม

ไม่ต้องกลัวใครหยิบผิดรองเท้าคู่ใหม่เอี่ยมของผมไป

        ถนนโล่ง ขามา ผมมาทางหล่มเก่า ขากลับ ผมเข้าทางชาติตระการ ไปออกเข็กใหญ่ เข็กกลาง เข็กน้อย มหาอาณาจักรแห่งม้งที่เคลื่อนย้ายเข้าออกเขาค้อและลาวเป็นประจำ

         พื้นที่ในถนนสายยุทธศาสตร์ในอดีตของชาติตระการที่เคยเป็นสนามรบ มีแต่รถหุ้มเกราะกับรถเครื่องสหายและรถอีแต๋นวิ่ง วันนี้มีรีสอร์ท ตลาด ไฟแดง เจริญทันสมัยรุดหน้ากว่าแต่ก่อนมากยิ่ง สาวที่เคยใบหน้าบริสุทธ หน้าดำ ผมกระเซิงจากการทำไร่ ทำนา ทำสวน วันนี้คงร้อนวิชาจากการเรียนวาดภาพ ได้หัดวาดภาพบนใบหน้า ใช้แป้งโปะจนหน้าขาวระเรื่อยันชมพู ใช้ดินสอดำหลายบี เขียนเส้นตรงคิ้ว ไม่มีชุดชาวนา ชาวไร่ นอกจากกางเกงที่บ่งบอกภาวะเศรษฐกิจ ขาดเป็นริ้ว เป็นทาง

ในยุคเศรษฐกิจคนละครึ่ง ครึ่งผี ครึ่งคน

ชาติตระการยังคึกคัก พอๆกับพื้นที่ชาวม้งที่วันนี้เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยกว่าคนไทยเจ้าของที่ดิน

ผมขับรถไป สองตามองไป ไม่ค่อยจะมีคนใส่แมสในพื้นที่ละแวกนี้สักเท่าไหร่

ล้อรถบดถนนไป หมาจรจัดนั่งเกาเห็บกลางถนน ไม่แยแสใครทั้งสิ้น ผมต้องขับรถ กลัวเห็บหมาจะมาเกาะล้อรถ รถพ่วงขนแร่วิ่งผ่านเป็นระยะ รถบรรทุกตีรถเปล่า เหยียบเกิน 130 กม/ชม วิ่งห้อบนถนน ผ่านหน้าโรงพัก

เทือกเขาที่เคยเป็นป่าดิบ วันนี้เขาโล้นเลี่ยนเตียนมีไฟป่าให้เห็นเป็นระยะ ไม่มีใครไปดับ เพราะดับไม่ไหว นายทุนกำลังรุกป่าเพื่อหาทางออก สปก 4-01 เพื่อทำไร่เลื่อนลอยก่อนทำรีสอร์ท

ป่าต้นน้ำกำลังหมดไป คนไทยกำลังโอดครวญกับภัยแล้ง

ผมขับรถเรื่อยๆ สองตามองข้างทาง ไม่ต้องระวังรถข้างหน้า และรถข้างหลัง เพราะมีรถผมคันเดียวที่วิ่ง

ซินเซียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้

สุขสันต์วันตรุษจีน

ปัญญา ไกรทัศน์

Related posts