หนังดีติดดาว***
A Warner Bros. Pictures และ Warner Animation Group นำผลงานจาก a Tim Story Film กับสงครามระหว่างแมวกับหนู ใน “Tom & Jerry” ของผู้กำกับ “ทิม สตอรี่” กับเรื่องราวของเมื่อเจอร์รี่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในโรงแรมสุดหรูแห่งเมืองนิวยอร์กก่อน “วันแต่งงานแห่งศตวรรษ” ทำให้ผู้จัดอีเวนท์ต้องจ้างทอมมาช่วยจัดการกับเจอร์รี่ ความวายป่วงจึงเริ่มขึ้น พร้อมทัพนักแสดงอาทิ โคลอี้ เกรซ โมเร็ตซ์, ไมเคิล พีน่า, โคลิน จอสต์, ร็อบ ดีลานีย์, พอลลาวี ชาร์ดา , จอร์แดน โบลเกอร์, แพทซี่ เฟอร์แรน, นิคกี้ แจม, บ็อบบี้ แคนนาเวล, ลิล เรล โฮเวอรี่ และ เค็น จอง
จากเห็นทีเซอร์ก็ตาโต ตั้งใจเลยว่าจะดู “Tom and Jerry” คงไม่ต้องเดานะว่าเราอยู่วัยไหน ก็วัยใสที่ผู้กำกับ ทิม สตอรี่ พาแมวกับหนูมาขึ้นจอและพาไปโลดแล่นถึงนิวยอร์กภายในโรงแรมสุดหรู ภาพที่ชอบและดูผสมกลมกลืนระหว่างตัวการ์ตูนอย่าง เจอร์รี่กับภาพจริงตรงสะพายกระเป๋าเป้ออกมาเนียนมาก ชอบ ในส่วนของเรื่องราวและเพลงประกอบก็ไพเราะดี เปิดเรื่องเป็นนกสันติภาพโฉบไปทั่วนิวยอร์กก่อนจะนำเข้าสู่สงครามแมวจับหนูที่เปิดฉากก็ฉะกันตามที่เห็นในการ์ตูน แล้วผู้แพ้ก็ยังเป็นทอมที่เสียเหลี่ยมหรือโง่กว่าเจ้าหนูเจอร์รี่กันแน่ นอกจากเห็นการต่อสู้ของแมวหนู ก็มีหมาตัวโตฟัดกับแมวจนเกิดทอร์นาโดหมาจับแมวทำโรงแรมพังพินาศสันตะโร เนื้อหาที่นำนางเอกเจอกับสองแสบคือ โรงแรมรับผู้ช่วยในงานแต่งงานของคู่รักคนดัง แต่แมวกับหนูมาป่วนในงาน นักแสดงเล่นกับกราฟฟิศเนียนจนนึกว่าเขาเห็นทอมกับเจอร์รี่จริง ๆ ฉากตื่นเต้นลุ้นระทึกตอนทอมกับเจอร์รี่พักการฟาดฟันมาช่วยให้นางเอกทำให้คู่รักคนดังได้แต่งงานกันจากที่ทั้งสองมีส่วนทำให้งานแต่งของพวกเขาพัง หนังสอดแทรกแง่คิดการร่วมแรงร่วมใจทั้งพนักงานโรงแรมโดยปัดการแก่งแย่งชิงดีทิ้ง ก็เรียกความซึ้งได้ในตอนจบ ถือเป็นแอนิเมชั่นสุดคลาสสิกที่ FC ทอมเจอร์รี่ไม่ควรพลาด
ติดให้ ***
คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “Tom & Jerry” ภารกิจที่ทำให้ทอมกับเจอร์รี่หยุดปะทะแล้วร่วมมือกันคือ?
ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
หนังดีติดดาว
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้รับของรางวัลจาก Warner Bros. Pictures (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
“นิโคลัส เคจ” คลั่งที่สุดในชีวิต VS หุ่นวิปริตในสวนสนุกร้าง กับหนังโหด “Willy’s Wonderland” บอกเล่าเรื่องราว ภารโรงหนุ่มพูดน้อย (นิโคลัส เคจ) รับจ้างไปเฝ้าสวนสนุกตอนกลางคืน ซึ่งสวนสนุกแห่งนี้ มันมีเจ้าหุ่นตัวการ์ตูนที่แสนจะบ้าคลั่ง และโหดร้ายอาศัยอยู่ เมื่อชาวบ้านรู้เรื่องเข้า ก็พยายามจะเตือนเขาเพราะกลัวว่าเขาจะได้รับอันตราย แต่หารู้ไม่ว่า เจ้าหุ่นตัวการ์ตูนได้พบกับคู่ปรับที่บ้าคลั่งไม่แพ้กัน!
ที่ชอบมากคือ วิธีคิดให้ตัวเอกต้องสู้กับหุ่นผีหลายสไตล์หลายตัวในระบบทัวร์นาเมนต์ คือเจอทีละตัวเป็นรอบ ๆ แบบเพิ่มความยากขึ้นเรื่อย ๆ ตามรอบเวรที่พระเอกต้องออกมาทำความสะอาดแต่ละครั้ง ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย และเมื่อตัวเอกดูแข็งแกร่งแบบไม่น่าแพ้อะไรในโลกได้ เขาก็เลยเขียนจุดอ่อนให้พระเอกต้องพักดื่มเครื่องดื่มชูกำลังทุก ๆ รอบชั่วโมงทำงาน คล้ายพวกอุลตร้าแมนที่หากหมดเวลาต่อให้มีคนกำลังถูกฆ่าตรงหน้าพี่แกก็ไม่สนใจ ก็เป็นอะไรที่เหวอรับประทานดีเช่นกัน ยิ่งการโยนเหยื่อกลุ่มเด็กวัยรุ่นเข้าไปให้หนังให้ได้มีคนอ่อนแอได้ถูกล่าให้ผู้ชมได้ลุ้น อาจมองว่าเป็นความคิดที่ควรเป็นไปแบบนั้น ทว่าตัวละครกลุ่มเด็กก็ไม่ได้เป็นรสปรุงที่หลากหลายสร้างความน่าสนใจในตัวเองขึ้นมาเลย จะมีกี่คนก็ดูเป็นแค่เหยื่องี่เง่าที่พร้อมมาตายแบบไม่น่าลุ้นเอาใจช่วยเลยสักนิด เรียกว่าการออกแบบตัวละครนอกจากตัวพระเอก ที่เหลือคือพัง!
ติดให้ *** ครึ่ง
ต้อนรับการกลับมาของ “อัลลิสัน แจนนีย์” นักแสดงสาวมากความสามารถเจ้าของรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม บนเวทีออสการ์ครั้งที่ 90 จากภาพยนตร์เรื่อง I, Tonya ล่าสุดกับ “Breaking News In Yuba County หลัวหาย อย่าเผือกหา” หลังจากสามีของเธอหายไปเป็นปริศนาชีวิตของ ซู บัตตันส์ (อลิสัน แจนนีย์) เธอกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน จากชีวิตแม่บ้านธรรมดากลายเป็นดาวเด่นของทั้งนักสืบหิวผลงาน สื่อกระหายข่าว และคนขาแส่ทั้งเมืองยูบ้าที่ขอเกาะติดทุกชีวิตเธอทุกฝีก้าว แต่เมื่อข่าวของซูยิ่งดังเมืองนี้กลับยิ่งคลั่ง! เพราะมันพัวพันผู้คนที่คาดไม่ถึง รวมทั้งแก๊งมาเฟียเอเชียตระกูลโหด จนเรียกได้ว่างานนี้ใครมีเอี่ยวไม่ดังก็เด๊ด ร่วมด้วยนักแสดงหญิงฝีมือแซ่บ มิล่า คูนิส, อควาฟิน่า, จูเลียตต์ ลิวอิส และ เรจิน่า ฮอลล์
หนังทำออกมาได้ค่อนข้างรวบรัด กระชับได้ดีมาก แต่ละฉากล้วนชัดเจนในสิ่งที่เกิดขึ้น บุคลิกตัวละครแต่ละคนมีเอกลักษณ์ดี กวน ๆ นิดนึงให้ดูไม่ซีเรียสจนเกิดไป นักแสดงแต่ละคน เล่นได้สนุกกับบทที่ตัวเองได้รับมาอย่างดี เนื้อเรื่องสนุกทำมาออกมาลงตัวดีมาก ส่วนของบทภาพยนตร์เยี่ยม ทำให้หนังดูสนุกตลอดทั้งเรื่อง
ติดให้ *** ครึ่ง
“I Remember รักกันแค่วันเดย์” เรื่องราวของ หลี่เฟย (หลี่หงฉี) หนุ่มไอทีแปลกแยกที่ไม่มีใครจำได้เลย เขาตกหลุมรัก จ้าวซีม่าน (แองเจล่าเบบี้) สาวสวยพราวเสน่ห์แผนกการตลาด แต่ในระหว่างทริปเอาต์ติงที่ฟินแลนด์ จ้าวซีม่านได้ประสบอุบัติเหตุสูญเสียความทรงจำชั่วคราวไปหนึ่งวัน นี่เป็นโอกาสเดียวที่ทำให้หลี่เฟยได้ใกล้ชิดกับเธอ และทำให้เขาเชื่อว่าเขาและเธอเป็นแฟนกัน แม้เพียงแค่วันเดียวก็ยังดี
แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว หนังโรแมนติกคอมเมดี้รสแปลกที่ว่าด้วยไอ้หนุ่มเด่นชัย ที่แอบสวมรอยเป็นแฟนกับคุณน้ย ถ้าคอหนังโรแมนติกยังจำได้ ได้ถูกรีเมกเป็นหนังจีน ได้นักแสดงจีนชื่อดังอย่าง หลี่หงฉี มารับบท หลี่เฟย หรือ เด่นชัย ในเวอร์ชันไทย กับ หยางหยิง หรือ แองเจลาเบบี้ (Angelababy) มารับบทคุณนุ้ยเวอร์ชันจีนในชื่อว่า จ้าวซีม่าน เลือกสถานที่โรแมนติกไปที่ซานตาคลอสที่ฟินแลนด์ โดยตัวหนังเวอร์ชันนี้ค่อนข้างเคารพต้นฉบับพอสมควร ในเรื่องของบทและรายละเอียดต่าง ๆ ที่แทบจะถอดแบบมาเลย แต่การผูกปม การเฉลย และการสอดแทรกมุกตลกใหม่ ๆ เข้าไป ทำให้หนังมีความแตกต่างจากต้นฉบับ แต่ถ้าถามหาความซึ้งหรือดราม่าของ 2 เวอร์ชัน ในขณะที่แฟนเดย์เวอร์ชันไทยวางเป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ มีกลิ่นอายตลกร้าย และการเสียดสีสังคมออฟฟิศ ส่วนของเวอร์ชันจีนดูมีความน่ารัก และซอฟต์กว่าเวอร์ชันต้นฉบับ ทำให้แฟนเดย์เวอร์ชันจีนเป็นโรแมนติกกุ๊กกิ๊กที่ดูนุ่มนิ่มกว่า และสองนักแสดงนำถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้ดี
ติดให้ **** ครึ่ง
คำถามภาพยนตร์เรื่อง “I Remember รักกันแค่วันเดย์” สองนักแสดงนำคือใคร?
ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
หนังดีติดดาว
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 3ท่าน ได้รับของรางวัลจาก ไฟว์สตาร์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
“IDEAL HOME” เป็นผลงานกำกับของ “แอนดรูว์ เฟลมมิง” ผู้กำกับมากฝีมือผู้เคยทำหนังรักสุดอื้อฉาวแห่งยุค “Threesome” (1994) ซึ่งว่าด้วยความสัมพันธ์รัก 3 เส้าสุดยุ่งเหยิงของ 2 ชาย 1 หญิงมาก่อน และซีรีส์เรื่องดัง “Emily in Paris” (2020) เฟลมมิงไม่เคยปิดบังตัวตนว่าเป็นเกย์ ด้วยเหตุนี้เขาจึงอินกับเรื่องราวในหนังเรื่องนี้มากทีเดียวตั้งแต่กระบวนการเขียนบท เนื่องจากเอาเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตตัวเองมาดัดแปลงโดยตรง กับเรื่องราวของเชฟและพิธีกรรายการอาหารสุดจี๊ด อีราสมัส บรัมเบิล (สตีฟ คูแกน) กับ พอล มอร์แกน (พอล รัดด์) ผู้กำกับรายการของอีราสมัส พวกเขาเป็นคู่รัก LGBT ที่แม้ภายนอกเหมือนจะชอบกัดจิกกันเองแบบแสบ ๆ แต่จริง ๆ แล้วทั้งคู่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ชีวิตเปี่ยมสีสันของพวกเขาผ่านไปแต่ละวันโดยไม่มีทีท่าว่าจะสะดุด จนกระทั่งวันหนึ่ง อีราสมัสจำเป็นต้องอุปการะ แองเจิล/บิล (แจ็ก กอร์) หลานชายที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนเข้ามาอยู่ด้วย ส่งผลให้วิถีชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือกับความสัมพันธ์ช่วงแรกของอีราสมัสและมอร์แกนอาจดูเป็นพ่อที่ห่วยแตก แต่แล้วเขาก็ตระหนักว่าครอบครัวแสนสุขในอุดมคติสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีปัจจัยสำคัญอยู่ที่เพศ!
โดยหนังสนุกมากเลย มีความ Feels Good แทบจะทั้งเรื่อง ดูไปยิ้มไป มีความสุขกับเรื่องราวที่ทำออกมาในโทน drama นิด ๆ comedy หน่อย ๆ ที่ผสมกันออกมาได้รสชาติพอดี รู้สึกสนุกกับการจิกกัดและจริตแบบเพศทางเลือกได้ตลอดทั้งเรื่อง โดยไม่มีการเหยียดเพศสภาพหรือเอาเพศสภาพมาเล่นในทางต่ำตมหรือเสียหาย เพราะหนังให้ความเคารพเพศทางเลือกอย่างสูงมาก ๆ หนังยาวแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งแม้พล็อตพอจะเดาได้ว่าถ้าชงมาอย่างนี้แล้วจะตบต่อไปยังไง สำหรับคำว่าครอบครัวอาจจะไม่จำเป็นต้องมีพ่อแม่และลูกอย่างที่สังคมยึดถือปฏิบัติ ถ้าหากว่าครอบครัวนั้นมีความรักและความเข้าใจกันอย่างแท้จริง ต่อให้มีพ่อสองคนหรือมีแม่สองคนในการเลี้ยงดูลูกมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องใหม่และไม่คุ้นเคยกันเท่าไหร่ในสังคมไทย แต่ในโลกตะวันตกนั้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กจะเติบโตขึ้นมาในบ้านที่มีผู้ปกครองเป็นคนเพศเดียวกัน
ติดให้ **** ครึ่ง
มงคลเมเจอร์ เปิดตัวอย่างคึกคักกับภาพยนตร์สารคดีของทีมฟุตบอลระดับโลกลิเวอร์พูล “The End of the Storm” จะพาทั้งแฟนหงส์และแฟนหนังไปร่วมสัมผัสประสบการณ์การเดินทางฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่ในฤดูกาลที่โลกไม่เหมือนเดิมไปจนถึงปลายทางความสำเร็จการคว้า “แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20” ผ่านฝีมือการกำกับของ “เจมส์ เออร์สคิน” (Billie, The Ice King, Le Mans: Racing is Everything, One Night in Turin) รวมถึงได้ผู้จัดการทีม “เจอร์เกน คล็อปป์” และตำนานสโมสร “เคนนี ดัลกลิช” มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครรู้ และยิ่งไปกว่านั้นกับสัมภาษณ์สุดพิเศษจากนักเตะชุดใหญ่ของทีมไม่ว่าจะเป็น “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – ซาดิโอ มาเน – โรเบอร์โต เฟอร์มิโน – เวอร์จิล ฟาน ไดก์ – อลิสซอน เบ็คเกอร์”
หนังสารคดีที่เหมาะกับ แฟนบอลหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ทำให้เห็นเบื้องหลังความสำเร็จ ที่รอคอยมานานกว่า 30 ปี กว่าจะก้าวมาถึงจุดที่ใฝ่ฝันในขวบปีนั้น เกิดอะไรขึ้นบ้าง ผ่านเรื่องราวที่ได้ถูกถ่ายบันทึกไว้ทำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง รวบรวม ความคิด ความรู้สึก เรื่องราวจากบุคลากรที่เป็นแกนหลักสำคัญของทีม ทำให้การเดินทางผ่าพายุแห่งการรอคอยความสำเร็จ อันยาวนานนี้ ได้สิ้นสุดลงและได้เห็นท้องฟ้าอันสวยงามสดใส อีกครั้งนึง ซึ่งหนังเรียบเรียงบทภาพยนตร์ได้ดีมาก ไม่ถ่ายจำเจกับสิ่งที่ปกติ แฟนบอลหาดูได้อยู่แล้ว เนื้อหากระชับกำลังดี มุมกล้องการถ่ายทำให้ความรู้สึกวงในสุดๆ แต่ช่วงฉลองความสำเร็จ จุดพีคสั้นมาก ทำให้ได้อารมณ์น้อยไปนิด
ติดให้ ****
“Endings , Beginnings ระหว่าง…รักเรา” เรื่องราวของตลอดชีวิตของ แดฟนี (เชลีน วูดลีย์) เมื่อใดที่มีความรักก็มักจะลงเอยด้วยการเลิกรา และเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง จนในที่สุดเธอตัดสินใจพักเรื่องรักชั่วคราวเพื่อเยียวยาตัวเอง แต่พักอยู่ได้ไม่นาน เธอกลับเกิดความรู้สึกดี ๆ กับผู้ชาย 2 คนพร้อมกันทั้ง แจ็ก (เจมี ดอร์แนน) และ แฟรงก์ (เซบาสเตียน สแตน) แถมทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีกด้วย จนกลายเป็นความสัมพันธ์ยากจะหยั่งรู้ได้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะลงเอยอย่างไร
หนังเล่าเรื่องได้อืดและเอื่อยมากถึงมากที่สุด มีความ slow burn ที่ไม่รู้ว่า slow ไปเพื่ออะไร เพราะดูเหมือนหนังจะล้อเลียนชีวิตนางเอกที่เป็นคน aimless อยู่ในที คือถ้านางเป็นคนไม้หลักปักขี้เลน ตัวหนังเองก็เช่นเดียวกัน เพราะตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 50 นาทีของหนังมันเต็มไปด้วยการใช้ชีวิตที่เลื่อนลอย หาตัวตนไม่เจอ คนนั้นก็ได้ คนนี้ก็ดี สับสนวุ่นวายจับต้นชนปลายไม่ถูก ถึงแม้ว่าตัวหนังจะอืดยืดยาด แต่จริง ๆ แล้วมันก็มีของดีอยู่ในตัวในการพูดถึงความรักสามเส้าของหนึ่งหญิงสองชาย โดยผู้หญิงที่มีความหลงตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง ส่วนชายคนหนึ่งก็เป็นคนที่หน้าที่การงานดี แต่ชายอีกคนก็มาดแบดบอย แต่อย่างไรความรักไม่มีเหตุผลและไม่มีคำอธิบาย พูดง่าย ๆ ความรักไม่มีกรอบและไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน ถ้ารักแล้วยังไงมันก็รักไม่ว่าเค้าจะมาจากไหน จะเป็นยังไง เป็นหนังดราม่าที่ต้องใช้ความอดทนในการดูสูงพอสมควร
ติดให้ *
