ไม่มีอดีตในอนาคตที่เขาค้อ    โดย….ปัญญา ไกรทัศน์

เขาค้อ เป็นแนวเทือกเขาติดต่อกับภูทับเบิก ภูหลวง ภูกระดึง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งเขาค้อ หล่มสัก ชาติตระการ ด่านซ้าย ภูเรือ ภูกระดึง ภูหลวง ทั้งหมดเป็นอำเภอในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เลยและพิษณุโลก

      อดีตบ้านเมืองแตกแยกทางความคิด อำนาจทางทหารที่เข้ามาครอบงำทางการเมืองและประเทศ ภายใต้หมวกกฏหมายที่ไม่พอใจใครที่มีอุดมการ ความคิดความอ่านรักชาติ อยากพัฒนาบ้านเมือง เรียกร้องประชาธิปไตยแบบอารยประเทศ จึงถูกยัดข้อหา ฝักใฝ่ในลัทธิคอมมิวนิสต์ จับยัดคุกฟรีๆคนจึงทยอยหนีเข้าป่า ลุกขึ้นจับปืน ไล่ยิงทหาร ตำรวจ ในขตพื้นที่ดังกล่าว โดยเข้าไปสังกัดกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย ที่มีพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยดูแล

      สมัยนั้น พรรคคอมมิวนิสต์ไทย แตกสามสาย คือ นับถือลัทธิมาร์กซิสของเลนิน แห่งสหภาพโซเวียต กับนับถือลัทธิคอมมิวนิสต์เหมา เจ๋อ ตง แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และนับถือลัทธิคอมมิวนิสต์ สังกัดเวียดนาม แกนนำนักศึกษาที่นับถือลัทธิใด ได้เข้าไปเรียนวิชาในประเทศนั้นๆ

ตามแนวราวป่าดงดิบที่อุดมด้วยไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้สัก นั่งเฮลิคอปเตอร์ติดกันชิป มองไม่เห็นพื้นดินด้านล่าง ปฏิบัติการตัดป่าล่าคอมมิวนิสต์จึงเกิดขึ้น เขาค้อ ภูทับเบิก ชาติตระการจึงกลายเป็นเขาหัวโล้น ป่าต้นน้ำสายหลักของประเทศไร้น้ำหล่อเลี้ยง ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้สักจากป่าดิบกลายเป็นโต๊ะขาสิงห์ตามป่าคอนกรีต

ภายหลังคำสั่งที่ 66/23 ในยุคพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผู้บัญชาการทหารบกต่ออายุและนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้นักศึกษาทยอยออกจากป่าคืนเมือง มาเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี โท เอกในประเทศหรือต่างประเทศ ออกมาเป็นรัฐมนตรี อาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยมากมาย พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยและกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทยล่มสลายไปพร้อมกับกฏหมายคอมมิวนิสต์ ทหารกับประชาชนเลิกลุกขึ้นจับปืนยิงกัน สัปเหร่อวัดแถวน้ำโสม อุดรธานี พลอยว่างงาน ตกงาน เพราะไม่มีศพมาเผา

ฐานทัพสำคัญของทหาร และเหล่าสหายสังกัดกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เรียนรู้และเตือนใจประวัติศาสตร์สงครามของคนในชาติ แม่ม่ายสงครามประชาชนเต็มค่ายทหาร

     เขาค้อ ไม่ต่างกัน มีค่ายอิทธิ มีฐานปฏิบัติการเก่าที่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สงครามหรืออาวุธ มีซากรถถัง เฮลิคอปเตอร์ให้ดูเป็นอนุสรณ์แห่งการแตกแยกและการสาดโคลนข้อกล่าวหาที่ไม่พอใจใครได้ง่ายๆ

ยุคสมัยนั้น ผมเป็นผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดเลยแต่สังกัดกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ รวมถึงทำหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย เสียงปวงชน และเจ้าของหนังสือพิมพ์เสียงเลย จึงห้อยกล้องควบคาวาซากิเข้าป่าทำข่าวทุกแห่ง

      ด้านข้างจะมีศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทำสวยหรู และศาลตายาย หรือปู่ย่า(แต่วันนี้น่าจะตายายออกไปทำธุระด้านนอกศาล จึงฝากให้หลวงตาแมวเข้าไปนอนเฝ้าศาลไว้ก่อน) ผมมาจุดธูปเทียนไหว้สักการะเพื่อเคารพศาลและวิญญานคนตายที่ขนร่างลงไป แต่วิญญานยังเกลื่อน และเดินบันทึกภาพ ณ จุดชมวิว

ดีใจจังทั้งพื้นที่วันนี้ มีผมเดินคนเดียว ไม่ต้องกลัวติดโควิดจากใครทั้งนั้น

     ทหารรักษาการประจำฐาน ทำหน้าที่จัดเก็บ ทำความสะอาด ใกล้กันมีสถานีโทรคมนาคมทหารอยู่ด้วย ในอดีตละแวกนี้มีกับระเบิดเต็มไปทั่วพื้นที่ มีการตรวจกวาดเก็บ แต่อาจจะหลงเหลือ ทำให้คนเหยียบตื่นเต้นขาขาดเล่นได้ อย่าทำซ่าเดินออกนอกเส้นทาง

     บริเวณตรงนี้ มีลานกางเต๊นท์หน้าหนาวได้ด้วย

ปกติจะมีร้านค้าสวัสดิการทหาร แต่วันนี้ร้านค้าปิดเพราะไม่รู้จะขายใคร

อดีตพื้นที่ตรงนี้มองไม่เห็นพื้นล่าง แต่วันนี้เห็นไกลตามหมอกควันที่ปกคลุม

ป่าต้นน้ำสายหลักที่ไหลหล่อเลี้ยงลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อันเป็นต้นสายแม่น้ำป่าสักแห้งสนิท

ปลายปีหน้าหนาว อย่าลืมไปเที่ยวน่ะครับ

Related posts