สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก โดย พลตรีสุธี กอรี ผอ.สง.ทท.ทบ.นำทีมเดินทางมายังภาคเหนือ การสัมมนาวิชาการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวกับบุคลากรทางผู้ประกอบการท่องเที่ยว ได้ซึมซับและเข้าใจว่าการท่องเที่ยวในค่ายทหารรุ่นใหม่”อาร๋มี่แลนด์” ดินแดนโปร่งใสย่อมเห็นความเป็นไปได้ในการจัดโปรแกรมทัวร์ในอนาคต หลังจากสัมมนาเสร็จแล้ว ก็ผ่อนคลายด้วยความบันเทิงแบบสุดเหวี่ยง วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ 3 เราจะเดินทางกลับไปเส้นทางเดิมเพื่อเข้าสู่จังหวัดน่าน
รุ่งอรุณหลังจากรับประทานอาหารเช้า การเดินทางยาวไกลข้ามหลายจังหวัดสู่เมืองชายแดนน่าน เป้าหมายอยู่ที่ค่ายสุริยพงษ์ ค่ายนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาให้เจ้าสุริยพงษ์ผลิตเดชฯ เลื่อนฐานันดรศักดิ์ขึ้นเป็นเจ้านครน่าน เป็นองค์ แรกองค์เดียวที่ปกครองน่านในประวัติศาสตร์ ท่านได้สร้างหอคำคุ้มหลวงแทนหลังเดิม และด้านหน้าหอคำมีลานกว้างคล้ายสนามหลวง เพื่อเอาไว้จัดพิธีกรรมต่่างๆตลอดจนจัดขบวนทัพจับศึกขบวนนำเสด็จ หรือ รับแขกเมืองสำคัญ ในปี 2474 เจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่าน ถึงแก่พิราลัย ตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครน่าน ถูกยุบไปด้วย ในปี2511 กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้กองพันทหารม้าที่ 10 ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองปราจีนบุรี ให้ย้ายมาอยู่ที่บ้านน้ำล้อม ต.ในเวียง อ.เมือง จังหวัดน่าน
ค่ายสุริยพงษ์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน โดยมี พลตรีรุศมนตรี จิณเสน ผบ.มทบ.38 ให้การต้อนรับด้วยอาหารมื้อกลางวันในแบบขันโตกล้านนา สร้างความเซอร์ไพร์สให้กับชาวคณะเป็นอย่างมาก อิ่มอร่อยกับอาหารมื้อนี้ เราเดินทางเข้าสู่ค่ายทหารพรานซึ่งอยู่อีกอำเภอ แค่ข้ามแม่น้ำน่านเราก็ได้มาศึกษาวิถีชีวิตของทหาร 4 หน่วยหลัก ที่รับผิดชอบร่วมกัน สร้างฐานการเรียนรู้ กับเศรษฐกิจพอเพียงเดินตามรอยพระราชดำริ พร้อมทั้งได้เห็น ฐานปฏิบัติการทหารพันธุ์ดึแม้ว่าเพิ่งจะตั้งได่ไม่กี่ปี ตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพฯทรงดำริให้ค่ายทหารได้มีกิจกรรมเหล่านี้เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์พืช เพื่อทำการแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไป เราได้เรียนรู้ถึงความหลากหลาย ของการจัดสรร แบ่งพื้นที่ในการปลูกพืชสวนหลากชนิดเพื่อนำมาบริโภค และนำออกจำหน่ายให้กับกำลังพลและประชาชน สินค้าเกษตรกรรม ถูกทึมงานเหมาซื้อกันอย่างมากมาย ก่อนทีาจะอำลาเมืองน่าน ไปสู่จังหวัดแพร่
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการมากราบไหว้วิหารจุตรมุขของวัดภูมินทร์ วัดคู่บ้านคู่เมืองน่าน แล้วคณะเราก็ออกเดินทางเพื่อไปยังค่ายพระยาไชยบูรณ์ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเด่นชัด จังหวัดแพร่ ใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง ก็มาถึงค่ายพระยาไชยบูรณ์ โดยมีพ.อ.จักรชัย สำเภา ผบ.ม.พัน.12พล.ม.1 ให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม พวกเราสักการะพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและศาลพระยาไชยบูรณ์ ตามประวัติพระยาไชยบูรณ์ เป็นฃ้าหลวงกำกับราชการเมืองแพร่คนแรก และเป็นผู้มีความกล้าหาญจงรักภักดีและมีึความซื่อสัตย์เมื่อเกิดเหตุการณ์กบถพวกเงี้ยวที่แข็งเมืองได้จับตัวท่านและบังคับให้ยอมจำนน แต่ท่านไม่ยอม จึงถูกพวกเงี้ยวทรมานและฆ่าท่านจนเสียชีวิตอย่างทารุณ จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ความซื่อสัตย์ ทางกองทัพบกจึงยกย่องท่าน และนำมาเป็นชื่อค่ายพระยาไชยบูรณ์เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของท่านกับสถานที่เสียชีวิตคือที่ตั้งของค่ายพระยาไชยบูรณ์
คณะของเรามาถึงค่ายพระยาไชยบูรณ์ ในช่วงเย็นมากเลยไม่ได้รู้รายละเอียดหรือกิจกรรมในค่ายนี้สักเท่าไหร่ รับประ ทานกาแฟของว่างแล้วเดินทางย้อนกลับไปยังตัวเมืองแพร่ เพื่อพักผ่อนในคืนนี้แล้ว พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะแวะค่ายพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์ จะมีอะไรคืนนี้เราพักผ่อนเอาแรง ต้องเดินทางไกลกลับสู่กรุงเทพฯ ผ่านมา3วันเราได้อะไรจากการมาทริปทัวร์อาร์มี่แลนด์นี้มากมาย ด้วยมิตรไมตรีที่ดีเยี่ยมของทุกคนให้ความอบอุ่นเทคแคร์กัน ถ่ายรูปมอบให้กันด้วยธรรมชาติที่น่ารัก ขอขอบคุณ พลตรีสุธี กอรี ผอ.สง.ทท.ทบ.และทีมงานทุกคนช่วยกันสร้างสรรค์กิจกรรมครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์ สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่สัมผัสครั้งแรกกับทริปทัวร์ค่ายทหารอาร์มี่แลนด์ และ คนที่เคยร่วมเดินทางมาหลายครั้งยังคงประทับใจไม่ลืมเลือน แม้ว่าเวลาจะสั้นแต่การมาครั้งนี้ จะอยู่ในความทรงจําอีกนานเท่านานขอขอบคุณ.