ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ผนึกกำลัง 9 สำนักงานฯ แถลงแผนงานและกิจกรรมฯ ปี 2564 ฟื้นฟูและส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว Lifestyle Travel @ ภาคกลาง  

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง พร้อมขับเคลื่อนแผนงานและกิจกรรม ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “Lifestyle Tavel@ภาคกลาง” ส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ระยะใกล้ เดินทางสะดวก เน้นการเดินทางท่องเที่ยวแนวใหม่ (New Normal) เสนอกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศให้หันกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เน้นเส้นทางระยะทางใกล้และเดินทางสะดวก

นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ได้กล่าวใน งานแถลงข่าวส่งเสริมการท่องเที่ยว Lifestyle Travel @ ภาคกลาง ว่า ภูมิภาคภาคกลางมีความหลากหลาย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม มีอาหารรสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ มีเกจิอาจารย์ที่เป็นเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของผู้คนมาช้านาน

            ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง เล็งเห็นถึงความสำคัญในการฟื้นฟูและส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว  จึงได้เร่งส่งเสริมและกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจะเริ่มจากการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศระยะใกล้ เดินทางสะดวก พร้อมนำเสนอแนวทางการเดินทางท่องเที่ยวแนวใหม่ (New Normal) และนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศให้หันกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

            ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้จัดเตรียมโครงการและกิจกรรมสำหรับส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม โดยมีโครงการที่โดดเด่นที่จะดำเนินการดังต่อไปนี้

โครงการแรก คือ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Lifestyle Travel @ภาคกลาง  ดำเนินการภายใต้แนวคิด “Camping and Camper @ River Legacy”  เพื่อสนับสนุนนักท่องเที่ยวที่สนใจการพักค้างแคมแบบกางเต็นท์หรือพักค้างแรมบนรถบ้าน(Camper van) ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมและลดความเสี่ยงจากการสัมผัสหรือพบปะผู้คนจำนวนมาก สอดคล้องกับนโยบาย Social distancing ของภาครัฐ และแนวคิด “เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ผ่อนคลาย ใกล้บ้านเรา”  โครงการนี้จะแบ่งเป็น 6 กิจกรรม ได้แก่

  1. กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ในรูปแบบ Road trip ในวันที่ 26-27 มีนาคม 2564 เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี เพื่อร่วมทำกิจกรรม CSR ปลูกต้นกัลปพฤกษ์ร่วมกับชุมชนในพื้นที่ โดยจะมีผู้เข้าร่วมจำนวน 120 คนพร้อมรถยนต์ประเภทต่างๆ ที่เป็นสายแคมปปิ้ง เช่น Camper van, car camp, caravan, rooftop เป็นต้น
  2. ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Agent Fam trip ในวันที่ 19-20 มีนาคม 2564 ณ จังหวัดเพชรบุรี โดยมีบริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมจำนวน 60 ราย
  3. ร่วมกับนิตยสาร Time out Bangkok จัด Camping & camper The River Legacy วันที่ 17-18 เมษายน 2564 ณ ปาท่องโก๋แคมปิ้ง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดประสบการณ์ Clamping 2 วัน 1 คืน สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสชุมชนวิถีเกษตร รับประทานอาหารสไตล์ Chef’s Table ที่รังสรรค์เมนูเด็ดจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ปิดท้ายด้วยบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำใต้แสงดาว
  4. จัดกิจกรรมเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ ภายใต้ชื่อ Camping & Camper @ River Legacy วันที่ 24-25 เมษายน 2564 เส้นทางกรุงเทพฯ – อ่างทอง – ชัยนาท
  5. กิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ในรูปแบบ Live streaming ร่วมกับเพจท่องเที่ยว Sneak out ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 นำเสนอขายดีลพิเศษที่พักสายแคมป์ในพื้นที่ภูมิภาคภาคกลางทั้ง 17 จังหวัด
  6. กิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ event marketing ภายใต้ชื่องาน “Camping & Camper Mart #ตอนโชว์ของ(ไม่)ลับ กำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564

ทางด้าน นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงโครงการ Luxperience @ภาคกลาง และ โครงการ More River Legacy วิถีเมือง ว่า มีวัตถุประสงค์การจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลาง  นำเสนอขายสินค้าใน 2 รูปแบบ คือ สินค้าที่มีมูลค่าสูงในพื้นที่ภาคกลางและสินค้าท้องถิ่น/ชุมชนที่สามารถสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลาง และเป็นกิจกรรมที่เตรียมดำเนินการในช่วงเวลาอันใกล้ ประกอบด้วย

โครงการ Luxperience @ภาคกลาง ประกอบด้วย  (1) โครงการ “เปิดประสบการณ์อาหารถิ่น กินที่บ้าน ร่วมกับ เชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต” เสนอขายวัตถุดิบท้องถิ่นในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งได้รับมาตรฐาน GI (Geographical Indications) และวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารถิ่น  โดยที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับสิทธิ์ในการทำอาหารถิ่นร่วมกับเชฟบุ๊ค ผ่านห้อง Zoom แบบส่วนตัว รวมถึง มีการ Live ผ่าน Facebook เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 8 มีนาคม-1 เมษายน 2564

และ (2) กิจกรรม Live Streamying  ผ่าน Facebook Fanpage Sneak Out ซึ่งมีผู้ติดตามมากว่า 3 ล้านคน    โดยนำสินค้ามูลค่าสูงในพื้นที่ภาคกลาง อาทิ ที่พัก ร้านอาหาร มาเสนอขาย กำหนด Live สด ในวันที่ 31 มีนาคม 2564

ส่วน โครงการ More River Legacy วิถีเมืองรอง นั้น เป็นโครงการที่เน้นกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองภาคกลาง 7 จังหวัด คือ จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท สมุทรสงคราม ราชบุรี  โดยมีกิจกรรมที่จะดำเนินการ 2 กิจกรรม ดังนี้

กิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว  แคมเปญ “เมืองรองภาคกลางศิวิไลซ์” ส่งเสริมการขาย โปรโมชั่น และประชาสัมพันธ์ที่จะช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและผู้สูงวัย เดินทางเข้าพื้นที่เมืองรองของภาคกลาง มีระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนมีนาคม-กรกฏาคม 2564 โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจ

  • กิจกรรมส่งเสริมการขาย เปย์เมืองรองให้หนำใจ นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองภาคกลางผ่านช่องทางออนไลน์  Line @เมืองรองภาคกลาง และช่องทางออฟไลน์กับ กิจกรรมคาราวานนำร่องท่องเที่ยวภาคกลาง 2 วัน 1 คืน ตามเส้นทางจังหวัดสมุทรสงคราม-ราชบุรี จำนวน 20 คัน
  • การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่แคมเปญ “เมืองรองภาคกลางศิวิไลซ์” ผ่านช่องทางออฟไลน์ ในรายการสมุทรโคจร ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และออนไลน์ผ่านทาง Facebook Pageต่างๆ

กิจกรรมที่สอง เป็นกิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองรองภาคกลาง ภายใต้แนวคิด “More River Legacy มรดกแห่งสายน้ำ” ดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวสู่เมืองรอง โดยให้ Blogger & Youtuber ที่มียอดผู้ติดตามสูง อาทิ Happy Channel, Dek Jew  Small  World, เที่ยวแบบกรู, เลี้ยงลูกสุดเหวี่ยง ลงพื้นที่ทำ Content ประชาสัมพันธ์สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองภาคกลาง ดำเนินการรีวิว และประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ ที่ได้รับมาตรฐาน  SHAจาก ททท. ในพื้นที่เมืองรอง 3 เส้นทาง คือ เส้นทางสุพรรณบุรี-อ่างทอง, สมุทรสงคราม-ราชบุรี, และ ลพบุรี-สิงห์บุรี-อ่างทอง  ดำเนินการระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2564

            โครงการเหล่านี้  ททท.ภูมิภาคภาคกลาง พร้อมขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ช่วยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคกลาง ให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างยั่งยืน #

Related posts