วันที่ 28 มี.ค.2564 ที่หาดแสงจันทร์รีสอร์ท อ.เมือง จ.ระยอง นายสุขุม วงประสิทธิ ผู้ช่วย ฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 22 ในฐานะหัวหน้าคณะสนองปณิธาน 4 ประการ / รักษาการ หัวหน้ากลุ่มรักเมืองไทยแห่งสุวรรณภูมิ / ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัทพรหมชีวาจำกัด รับหนังสือร้องเรียนจาก ดร.วัฒนา บันเทิงสุข ผ.อ.สำนักธรรมนูญสุขภาพ ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน ต.ชากบก ในกรณีร้องขอความเป็นธรรมให้ชาวบ้านในการถูกเวรคืนที่ดินการขยายถนนในชุมชน ทำให้ชาวบ้านเสียทรัพย์เป็นจำนวนมาก โดยมี นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ รองประธานกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พานิชย์ ฯลฯ(สปช.) /ประธานอนุกรรมการ สปช. / กรรมมาธิการวิสามัญ พรบ.การยางแห่งประเทศไทย / นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย / ประธานชุมนุมสหกรณ์เกษตรอุตสาหกรรมยางแห่งประเทศไทย / กรรมการนโยบายยางธรรมชาติ(กนย.)สำนักนายกรัฐมนตรี และ คุณเตือนใจ ขันติยู ประธานกรรมการบริษัทพรหมชีวาจำกัด ร่วมสังเกตการณ์
ดร.วัฒนา บันเทิงสุข ผ.อ.สำนักธรรมนูญสุขภาพ ต.ชากบก กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการสร้างขยายถนนหลายแห่งของชุมชน ใน.ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และมีการขอเวนคืนที่ดินของชาวบ้านที่อยู่ติดกับถนน ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านถูกขอเวนคืนที่ดินมาตลอด เนื่องจากมีการพัฒนาถนน ในการเวรคืนที่ดินเพื่อการพัฒนาถนนชุมชนตนเองและชาวบ้านยินดีที่จะเสียสละที่ดิน ทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนทางการ ที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการพัฒนาดังกล่าวมาโดยตลอด ตนเองและชาวบ้านจึงมายื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายสุขุม วงประสิทธิ ในฐานะ ผู้ช่วยอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่22 ของไทยช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เมตตาชาวบ้านในการช่วยชาวบ้านมีเงินส่วนต่างหรือค่าใช้จ่ายให้ชาวบ้านที่ต้องเสียทรัพย์สินเดิม เพื่อนำไปเป็นต้นทุนในการหาที่ดิน หาที่อยู่ใหม่ หรือ ช่วยในการดูแลชาวบ้านที่ถูกแบ่งผ่าที่ดินไปในการสร้างรั้วให้ใหม่ด้วย
ด้านนายสุขุม วงประสิทธิ ผู้ช่วย ฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 22 ในฐานะหัวหน้าคณะสนองปณิธาน 4 ประการ / รักษาการ หัวหน้ากลุ่มรักเมืองไทยแห่งสุวรรณภูมิ / ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัทพรหมชีวาจำกัด ได้รับเรื่องหนังสือร้องเรียนดังกล่าวไว้ พร้อมกล่าวว่า ตนเองยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาความทุกข์ของชาวบ้าน และพร้อมที่จะผลักดันประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการแก้ไขต่อไปเพื่อช่วยเหลือความเดือดร้อนของชาวบ้านให้เร็วที่สุด ตามหลักวิชา หลักธรรมและหลักฏหมาย และตรงตามปณิธาน 4 ประการ ของ ฯพณฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีต นายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของประเทศไทย อันได้แก่ 1. แก้ไขปัญหาความยากจน (ความเดือนร้อนของประชาชนทุกมิติรอบด้าน) 2. ยกพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาเอกของโลก 8,000 ปี และให้ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ 3. ถวายความจงรักภักดีพระบรมราชจักรีวงษ์ 4.พัฒนาคนไทยให้มีอายุขัย 120-160 ปี ด้วยสมุนไพรไทยโอสถธรรม เพื่อดำเนินกิจกรรมพัฒนาบ้านเมือง สู่ความมีสันติสุข มั่นคง ยั่งยืน โดยจะพัฒนาทั้ง 4 ภาค ตั้งแต่ ล้านนา (ภาคเหนือ) ศรีโคตรบูรณ์ (ภาคอีสาน) อโยธยา (ภาคกลาง) และ ลังกาสุกะ (ภาคใต้) ด้วยยึดหลักสำคัญ ที่ว่า ประชาชน คือหัวใจ