เปิดปก…อกนักเขียน : “เอส ดับเบิ้ลเอส” – (แป้ง) “สุภาภรณ์ เสือคำ”

เปิดปก…อกนักเขียน

เอส ดับเบิ้ลเอส”ปล่อยผลงานแนวฟิลกู๊ด “รักเกินกว่าจะร้าย” ที่นักอ่านต้องอมยิ้ม

              ผู้ชายพูดหยาบไม่ใช่ไม่ ‘รักจริง’ ดูอย่างเรื่อง “เยลของยักษ์” ของนามปากกา “เอส ดับเบิ้ลเอส” ก่อนอ่านเรื่องนี้นักเขียนได้แจ้งก่อนว่าพระเอกพูดหยาบกับนางเอกนะคะ เหมือนกลัวเราตกใจ เพราะไม่เคยอ่านพระเอกบุคลิกแบบนี้ถือเป็นเรื่องแรก ปกติอ่านพระเอกเผด็จการ หื่นห่าม 555 พอได้อ่านตอนแรกชอบเลยล่ะ ไม่บ่อยจะเจอพระเอกเป็นตัวเดินเรื่องอย่าง คุณใหญ่ หรือ พี่ยักษ์ของเยล ที่ปากจัด หยาบคายใส่เยลตลอด แต่สุดท้ายก็แพ้ทางเด็ก กลายเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อน เนื้อเรื่องมีความน่ารักละมุนละไมแบบฉบับพี่ยักษ์แถมเด็ดขาดไม่ให้ผู้หญิงคนไหนมาเกาะแกะเมื่อเลือกเยล พอจบก็ต้องต่อ “แยมของเล็ก” เพราะเป็นตัวละครที่โผล่มาเติมสีสัน ชอบบุคลิกดุ เด็ดขาดของคุณเล็กเวลาอยู่กับแยม ดุเอาดุเอา ปากก็ดุแยมไปอย่างงั้นแต่พอรู้ใจตัวเองก็เดินเส้นทางเดียวกับพี่ชายคือ ‘หลงเมียเด็ก’ นักเขียนปูเรื่องดี มีเหตุมีผล มีความกลมกล่อมของเรื่องราว ไม่ใช่แนวรักใส ๆ หรือโคแก่กินหญ้าอ่อน ทว่านักเขียนได้ซ่อนบางอย่างเอาไว้ให้เราตามหา คราวนี้ถึงเวลาอ่าน “ธีรเธียร คนเถื่อนที่รักเธอ” เสียที ทั้งที่เป็นปกที่ทำให้ได้เจอนักเขียนแต่พี่ยักษ์มาดึงความสนใจไปเสียก่อน เปิดตอนแรกก็ชวนติดตามแล้ว จะบอกว่าไม่ใช่แค่ความรักของธีรเธียร มีความรักของครอบครัว ความรักให้ผู้หญิงคนเดียวคือ ลันตาแต่ไม่มีการแย่งชิง ทั้งยังความรักของเพื่อนที่ยอมให้อภัยเพื่อน หากแต่ซ่อนปมอิจฉาริษยาเอาไว้ได้เกินคาดเดา จบอย่างสวยงาม สมแล้วที่ธีรเธียรนักอ่านให้การต้อนรับดีมาก เป็นการลองเขียนและก้าวแรกของ 3p ที่ประสบความสำเร็จของนักเขียน พอจบเรื่องราวของพ่อแม่ก็ต้องต่อลูกของธีรเรื่อง “ลลิต แค่เพียงหนึ่งใจรัก” เป็นความรักที่เก็บซ่อนไว้ของ สมุทรที่ต้องสวมรอยเป็นเขื่อน แต่ความรักย่อมได้รับการอภัยกับเหตุผลที่สมุทรปิดบังลลิต นอกจากบทพิสูจน์ความรักของสมุทรที่มีต่อลลิตแล้วยังสอดแทรกความรักของครอบครัว ความรักของพี่น้องที่ยามทุกข์สุขไม่มีวันทิ้งกัน อีกทั้งความรักของเพื่อนคนนึงที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของสมุทร มันซับซ้อนดีนะ ซับซ้อนจนเราอ่านจบแล้วคิดว่า…นักเขียนเข้าใจผูกเงื่อนของเรื่องราวแล้วแก้ทีละปม ๆ มาที่ทำมือเรื่องสุดท้ายทำเราบ่อน้ำตาแตกกับ “ฝากหัวใจไว้กับเกียร์” เรื่องราวความรักของพี่เกียร์กับทิวา สาวน้อยแสนซื่อ เซื่องแต่ซื่อสัตย์กับพี่เกียร์และหัวใจตัวเอง ไม่ว่าจะเจอบททดสอบอะไร ‘ทิวารักพี่เกียร์’ ส่วนฉากที่ทำเราน้ำตาแตกคือ ฉากพี่เกียร์สมเพชตัวเองที่ไม่มีเงินพาทิวาไปกินอาหารดี ๆ เพราะพ่อล้มป่วยทำให้พี่เกียร์โหมงานหนักเพื่อหาเงินรักษาพ่อ แม้แต่ยอมปล่อยทิวาไปเพราะไม่อยากพานางเอกมาลำบากด้วย พี่เกียร์อยู่ในวัยเรียนแต่ก็มีความคิดความอ่านแบบที่ รักคนเดียว แบบพี่เกียร์เลือกทิวาเป็นคู่ชีวิต ความรักของพวกเขาเหมือนความรักของหลาย ๆ คู่ในชีวิตจริงที่ต้องสร้างฐานะ ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้กัน ซึมซับความรักของกันโดยมีอุปสรรคเป็นตัวทดสอบ ขอบคุณนักเขียนที่กลั่นกรองเรื่องราวดี ๆ ออกมาเป็นตัวอักษรและขอบคุณที่ให้สัมภาษณ์ สำหรับเรื่องใหม่ล่าสุดที่วางจำหน่ายเรื่อง “รักเกินกว่าจะร้าย” เชื่อว่ามีนักอ่านที่รออ่านนามปากกานี้ที่ตัวจริงคือ “สุภาภรณ์ เสือคำ” หรือ แป้ง ได้เปิดอกพูดคุยอย่างหมดเปลือกกับงานที่รักว่า…

              “กับชื่อเล่นตั้งแต่มาเขียนนิยายชายหญิงใช้นามปากกา เอส ดับเบิ้ลเอส เลยเรียกแทนตัวเองว่า เอส แทนค่ะ ^^  ปัจจุบันนี้อาชีพ ๆ คือกรีดยาง เป็นอาชีพหลักของที่บ้านเลยค่ะ ส่วนนิยายจะเขียนเวลาที่ว่างค่ะ  นิยายก็แค่รู้สึกว่าอยากเขียน อยากถ่ายทอดสิ่งต่าง ๆ ตามความรู้สึกของเราค่ะ เอสเขียนนิยายมา 8-9 ปีได้มั้ง แต่จะมีช่วงที่หยุดไปด้วยเพราะเหนื่อย และได้ทำนิยายเล่มแรกกับสำนักพิมพ์ เมื่อช่วงปี 2556 เพราะนักอ่านนำไปเสนอ (พี่เขาบอกมานะคะ ฮ่า ๆ) ตอนนั้นยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 จะ ปี 4 นี่แหละค่ะ นานจนลืม ๆ ไปบ้างแล้ว  เหตุผลที่เริ่มเขียนนิยายเพราะเอสชอบอ่านนิยายตั้งแต่ ม.3 แล้วค่ะ จนขึ้น ม.5 ที่บ้านมีคอมพิวเตอร์เลยลองเขียนนิยายดู แนวแรกที่เขียนคือชายหญิง วัยรุ่นรักใสใสทั่วไปค่ะ เขียนมาเรื่อย ๆ เขียนบ้างหยุดพักไปบ้าง ไม่ได้จริงจังอะไรมาก จนเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มรู้จักนิยายวายจากการอ่านการ์ตูนและหลงเข้าไปอ่านนิยายเรื่องหนึ่ง ลองผิดลองถูกเขียนมาเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็เขียนจบและได้ทำเล่ม ก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีเลยค่ะ หลังจากนั้นก็หลงเข้าไปในวงการนิยายวายจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ จากที่เขียนนิยายวายแล้วมาเขียนนิยายชายหญิงเพราะเอสลาออกจากงาน ย้ายกลับมาอยู่บ้าน รู้จักแอปหนึ่งเข้าเลยลองเข้าไปสมัคร ตอนแรกก็เขียนนิยายวาย แต่เขียนไม่จบ สุดท้ายเลยมาลองเขียนชายหญิงดูบ้าง สรุปคนอ่านเยอะมาก แล้วก็จบแบบไม่คาดคิด หลังจากนั้นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเขียนนิยายชายหญิงมาตลอด 2-3 ปีนี้เลยค่ะ   แม้ปัจจุบันกระแสนิยายวายมาแรง แต่เอสเขียนนิยายไม่ค่อยตามกระแสว่าแนวไหนจะมาแรงกว่ากัน เอสเขียนเพราะอยากเขียน และเขียนเพราะชอบมากกว่าค่ะ ถึงจะมาแรง แต่ถ้าใจเอสไม่แรงพอ นิยายก็ไม่จบสักแนวค่ะ ฮ่า ๆ

              ณ วันนี้ นักเขียนรุ่นใหม่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดก็ไม่ถือเป็นแรงกระตุ้นเอสให้ตื่นตัวค่ะ ก็อย่างที่บอกไปตอนก่อนหน้า เอสเขียนนิยายเพราะตัวเอง ไม่ได้เลือกกดดันตัวเองในจุดนั้นค่ะ   สำหรับ

กระแสนิยายเรื่องที่ได้รับการตอบรับดีเกินคาด ถ้าที่ทำให้ทุกคนหลงรักและอิจฉานางเอกคงจะเป็นเรื่อง “ธีรเธียร ความรักของคนเถื่อน” เป็น 3p ชายสองหญิงหนึ่ง ที่พระเอกเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน เหมือนเอสได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปอีกขั้นนึง เพราะจริง ๆ ก็ไม่ได้ชอบแนวนี้เลย แต่พอลองเขียนก็โอเค เพราะเราไม่ได้เน้นไปที่ฉากอย่างว่า เป็นสามพีทั่ว ๆ ไปที่ไม่แซบเท่าไหร่ ฮ่า ๆ จะเน้นที่ความรักของพี่น้อง ความรักที่มอบให้ผู้หญิงคนเดียวกัน ความรักของครอบครัว และเพื่อนมากกว่าค่ะ และกระแสแฝดของเอสมีการตอบรับที่ดีมากพอสมควรค่ะ บางส่วนก็ชอบพี่ธีร บางส่วนก็เอนเอียงไปทางพี่เธียร เอสว่าน่าจะพอ ๆ กันนะคะ ส่วนรุ่นลูกน่าจะแล้วแต่นักอ่านชอบมากกว่าเพราะสามารถอ่านแยกได้ ที่เลือกเขียนธีรเธียร เพราะเอสอยากลองเขียน อยากรู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองสุดแค่ไหน และผลตอบรับก็ดีเกินคาดค่ะ ส่วนนักอ่านที่ไม่ชอบ เขาจะเลือกไม่อ่านมากกว่าค่ะ

              จากสถานการณ์โควิดรอบแรกจนถึงปัจจุบันถามว่าส่งผลกระทบกับเอสไหม จะบอกว่าไม่กระทบเลยก็คงไม่ใช่ ถ้าเป็นงานหลักที่ทำคงเป็นเรื่องราคาน้ำยางที่ลงเป็นดิ่งมาก แม้จะมีขึ้นมาบ้าง แต่สุดท้ายก็ลงเหมือนเดิม ส่วนทางด้านนิยาย ถ้ารวมเล่มยอดก็ลดน้อยลงไปบ้างค่ะ แต่ไม่ถือว่ากระทบมาก หากเราไม่คาดหวังเอาไว้มาก ยอดที่ได้ก็ยังอยู่ในระดับที่โอเคอยู่ค่ะ

และเราต้องยอมรับให้ได้ และอยู่กับสิ่งเหล่านั้นอย่างมีสติ รู้จักดูแลตัวเอง ป้องกันตัวเอง การ์ดอย่าตกเด็ดขาดค่ะ เพราะถึงยังไงเราก็ยังต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนานค่ะ   ในเรื่องของนิยายเอสไม่เคยเขียนเรียงลำดับจากที่เปิดเรื่องไว้เลยค่ะ คิดพล็อตไหนออกก็เขียนไปอย่างนั้น เหมือนปล่อยตัวปล่อยใจตามสบาย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าแต่ละวินาทีจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เหตุการณ์ในนิยายที่เลือกเขียนก็เช่นกันค่ะ  กับนิยายเรื่อง “เยลของยักษ์” ที่พระเอกพูดจาหยายคายนักอ่านไม่ตำหนินะคะ เพราะเอสจะแจ้งถึงลักษณะนิสัยของพระเอกเอาไว้ก่อนแล้ว อยู่ที่นักอ่านว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้มากกว่าค่ะ และถ้านักอ่านจำกันได้ในเรื่อง ‘เยลของยักษ์’ กับ ‘ธีรเธียร’ พระเอกต่างทำอาชีพสักเพราะเอสชอบค่ะ เอสคิดว่าคนมีรอยสักเท่ดี แม้ตัวเองจะไม่ได้สักเพราะกลัวเจ็บก็ตาม ฮ่า ๆ

              ในส่วนของเนื้อหาจากที่จบรุ่นพ่อแล้วต่อรุ่นลูก ที่เอสเขียนส่วนใหญ่เขียนเพราะตัวเองมากกว่าไม่ใช่นักอ่านเรียกร้องค่ะ ส่วนลักษณะนิสัยจะไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมือนกันไปซะทุกอย่าง แค่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็น่าจะโอเคแล้วค่ะ   พี่ถามถึงฉากที่ยากหรือหินสำหรับเอสคือ Nc เลยค่ะ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังเขียนไม่เก่งเหมือนเดิม และไม่ค่อยชอบเขียนเลย เวลาจะเข้าฉากแบบนี้ นิยายจะหยุดชะงักไปทุกทีเลยค่ะ   กรณีของพวกละเมิดลิขสิทธิ์ที่ปราบไม่หมดนั้น เอสไม่เคยโดนละเมิดค่ะ หรือเคยแต่เอสไม่รู้ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน… อยากฝากถึงคนที่ชอบละเมิดงานคนอื่น อยากเขียนเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ถ้าจะดีกว่านี้หากเราเขียนทุกอย่างขึ้นมาจากความรู้สึกและจินตนาการของตัวเอง ไม่ใช่ลอกคนอื่นมา

              ที่ผ่านมาเอสไม่เคยวางว่าปีหนึ่งจะออกนิยายกี่เรื่อง แล้วแต่ว่าตัวเองจะไหวที่กี่เรื่อง ถ้ากดดันตัวเองและตั้งเป้าหมายมากจนเกินไป กลัวจะทำไม่สำเร็จค่ะ  ส่วนตัวเองกับคำถามที่ว่าบุคลิกพระเอกแบบไหนที่ไม่มีวันตาย คือ รักคนเดียวค่ะ

              มาถึงนิยายล่าสุดที่เพิ่งเขียนจบและจำหน่ายเรื่อง “รักเกินกว่าจะร้าย” แนววัยรุ่นทั่วไปค่ะ เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเยียวยาจิตใจตัวเองเพราะเหนื่อยและท้อมาก แต่พอได้เขียนเหมือนมีกำลังใจขึ้นมาซะงั้น เป็นฟีลกู๊ดค่ะ พระเอกนางเอกไม่มีดราม่าปวดตับมากมายค่ะ  มาถึงตรงนี้หากว่านักอ่านต้องการติดตามผลงานของเอสหรือสั่งซื้อหนังสือได้ที่ Fb : เอส ดับเบิ้ลเอส (Supancha) / แฟนเพจ นิยายตามใจ เอส ดับเบิ้ลเอส

              ตอนนี้กำลังเขียนเรื่องของ “ฟ้าคราม” เป็นรุ่นลูกเล่มสุดท้ายของ ธีรเธียร ให้จบค่ะ และอีกเรื่องที่อยากนำเสนอ “Hug #กอดของพี่หมี” ส่วนแพลนออกน่าจะยังไม่มีค่ะ ด้วยสถานการณ์โควิดด้วยค่ะ เอสขอบคุณทุกคนที่ติดตามผลงานของเอส และฝากติดตามเรื่องต่อ ๆ ไปด้วยนะคะ”

              เฉลยคำถามนิยายล่าสุดของนาม “พันพราย” : My Twin Butlers บัตเลอร์ที่รัก

              คำถามนิยายล่าสุดของนาม “เอส ดับเบิ้ลเอส” ชื่อเรื่อง?

ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

เปิดปก…อกนักเขียน

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 

ผู้ตอบถูก 3 ท่านได้รับนิยายของ “เอส ดับเบิ้ลเอส” (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

หมดเขตส่งคำตอบ 31 สิงหาคม 2564

Related posts