เมื่อวันที่ 12 ส.ค.64 เวลา 13.00 น. ณ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 จ.ขอนแก่น โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผบก.ตอท. และคณะ ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเถื่อนทางออนไลน์ โดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้นโกดังซุกซ่อนอาวุธปืนเถื่อน ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น 3 จุด และ พื้นที่ จ.เชียงราย 2 จุด และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน (จ.ขอนแก่น 1 คน / จ.เชียงราย 2 คน)
โดยผู้ค้าอาวุธปืน ทั้ง 2 ราย ได้เสนอจำหน่ายอาวุธปืนผ่านช่องทางเว็บไซด์และเพจเฟสบุ๊คในหลายช่องทาง จากการการตรวจค้น พบของกลางจำนวนมาก มีอาวุธปืนยาวไม่มีเครื่องหมายทะเบียน 1,600 กระบอก, อาวุธปืนสั้นไม่มีเครื่องหมายทะเบียน 173 กระบอก และกระสุนปืนตะกั่ว 977,510 นัด
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา 1 ราย ในจุดตรวจค้นพื้นที่ จ.ขอนแก่น พบว่าได้ทำการค้าขาย มากว่า 5 ปี สั่งซื้ออาวุธปืนมาจากผู้ค้าในพื้นที่ กทม. และพื้นที่ภาคใต้ โดยปืนดังกล่าวนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย, สวีเดน, สหรัฐอเมริกา, ตุรกี, สเปน และจีน โดยขนส่งทางเรือ ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ชำระเงินผ่านธนาคาร ส่งของให้ผู้ซื้อผ่านบริษัทขนส่งเอกชน
ในส่วนอุปกรณ์ส่วนควบ และกระสุนปืนนั้น จะสั่งซื้อมาจากร้านค้าในเขตพื้นที่กทม. เมื่อได้รับของมาแล้วจะนำมาซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ที่ถูกตรวจค้น เพื่อรอจำหน่าย โดยได้สร้างเว็บไซต์ เพื่อโพสแสดงโชว์สินค้า เมื่อมีลูกค้าสนใจจะติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ให้ลูกค้าชำระเงินผ่านธนาคาร และจัดส่งสินค้าผ่านบริษัทขนส่งเอกชน โดยมีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศไทย กัมพูชา พม่า และประเทศลาว อีกด้วย ทำการค้าขายมาประมาณ 5 ปี มีลูกค้ามากกว่า 50,000 คน รายได้เฉลี่ย 300,000 บาทต่อเดือน
ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย ในจุดตรวจค้นพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่าค้าขายมากว่า 4 ปี มีลูกค้ากว่า 20,000 คน รายได้เฉลี่ย 100,000 บาทต่อเดือน โดยได้สั่งซื้ออาวุธปืนมาจากผู้ต้องหาที่ 1 จากนั้นจะนำมาซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ที่ถูกตรวจค้น เพื่อรอจำหน่าย โดยได้สร้างเว็บไซต์ เพจเฟสบุ๊ค และช่อง YouTube ใช้รีวิวสินค้า เมื่อมีลูกค้าสนใจ จะทำการติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ให้ลูกค้าชำระเงินผ่านธนาคาร และจัดส่งสินค้าผ่านบริษัทขนส่งเอกชน โดยมีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศไทย
ข้อกล่าวหา
- 1.มีและจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท
- จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนแก่ผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000-20,000 บาท
- ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่านำเข้ามาโดยไม่ถูกต้องตามพิธีการทางศุลกากร” ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากสถิติคดีอาชญากรรม พบว่า มีคดีประเภทความผิดที่มีความเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน 20,000-30,000 คดีต่อปี โดยอาวุธปืนที่ถูกนํามาใช้ในการก่อเหตุนั้นมีหลากหลายชนิด ซึ่ง 70-80% เป็นอาวุธปืนชนิดประกอบขึ้นเอง ซึ่งถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในกลุ่มของเยาวชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะราคาไม่แพง สามารถเข้าถึงได้ง่ายตามอินเตอร์เน็ต ซึ่งความร้ายแรงของอาวุธปืนประเภทนี้ สามารถใช้ยิงทําอันตรายได้ถึงชีวิต เทียบเท่าอาวุธปืนมาตรฐาน
สมชาย/อ๊อด…รายงาน
