วัดประดู่ฉิมพลีหรือแต่เดิมชื่อวัดสิมพลีหรือประดู่นอกตั้งอยู่ริมคลองบางกอกใหญ่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2367 สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
วัดประดู่ฉิมพลีทุกวันนี้ยังคงร่องรอยความเป็นวัดเก่าแก่แต่ก็พัฒนาให้ดูน่าเข้าน่าไปวัดล่ะครับ อย่าเช่นการจัดสถานที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์จัดได้สวยงามและเหมาะสมกับพื้นที่ มาวัดฉิมพลีแล้วก็ควรแวะเข้ากราบบูชาองค์พระพุทธรูปซึ่งเป็นองค์พระประธานคือ “หลวงพ่อสุโขทัย” ปางมารวิชัยหลวงพ่อสุโขทัยอัญเชิญมาจากกรุงสุโขทัยประดิษฐาน ณ วัดบางอ้อยช้างเมืองนนท์ต่อมาสมเด็จพระยาบรมหาพิชัยญาติทรงให้อัญเชิญมาประดิษฐานในอุโบสถวัดประดู่ฉิมพลี นอกจากนี้ยังมีองค์พระพุทธรูปทรงเครื่ององค์เล็กๆ ประดิษฐานด้วย สำหรับตัวอุโบสถนี้ก็สวยงามแบบศิลปะจีนผสมผสานศิลปะสยามไม่มีช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ ส่วนใบเสมารอบอุโบสถสร้างด้วยหินแกรนิตของจีนแผ่นดินใหญ่เรียกว่าหินอับเฉา แปลกตาดีครับโดยมีเรื่องราวเล่าขานว่าเมื่อครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีการติดต่อค้าขายกับจีนแผ่นดินใหญ่เรือสินค้าได้บรรทุกหินวางไว้ใต้ท้องเรือเรียกว่าไม่เห็นเดือนเห็นตะวันก็เลยเรียกว่าหินอับเฉาครับ
จุดที่ 2 คือวิหารประดิษฐานองค์พระพุทธรูปยืนหลายองค์และรูปหล่อยืนหลวงปู่โต๊ะด้วย
ไปต่อกันที่จุดที่ 3 ครับคือองค์พระเจดีย์ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ก่อนจะมาชมความงามของวิหารประดิษฐานองค์พระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์สร้างในปี พ.ศ. 2375 สุดท้ายผมขอพาไปที่ศาลาประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทางคณะศิษย์ของหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวณโณได้จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2544 เพื่อรำลึกถึงเมื่อครั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี
วัดประดู่ฉิมพลีแห่งนี้ยังเป็นวัดสำคัญเมื่อครั้งหลวงปู่โต๊ะหรือพระราชสังวราภิมณฑ์ เป็นเจ้าอาวาสท่านเป็นพระปฏิบัติกรรมฐานศึกษาพระธรรมวินัยมาตั้งแต่บรรพชาสามเณรเมื่ออายุ 17 ปี พออายุครบ 20 ปี ก็อุปสมบทที่วัดประดู่ฉิมพลีเมื่อได้เวลาออกธุดงค์ไปภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคใต้เพื่อแสวงหาบุญกุศลด้วยการปฏิบัติธรรมกรรมฐานในป่า แล้วก็กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีในปี พ.ศ. 2456-2524 ชาวประชาชนให้ความเคารพนับถือมากโดยเฉพาะเหล่าทหารเรียกหลวงปู่โต๊ะว่าปาฏิหาริย์บารมี หลวงปู่โต๊ะท่านมรณภาพในวันที่ 5 มีนาคม ปี พ.ศ. 2524 สิริอายุ 93 ปี อุปสมบทมา 73 พรรษา
โควิดยังไม่ซาแต่ก็ไปวัดวากันพอได้นะครับ สงบจิตใจกันที่วัดประดู่ฉิมพลี ริมคลองบางกอกใหญ่เขตบางกอกใหญ่ในกรุงเทพนี้ล่ะครับ สำหรับการเดินทางไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษมเข้าซอยเพชรเกษม 15 ควรใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถตู้ไปเป็นหมู่คณะเพราะไม่มีรถเมล์ประทางเข้าในซอยนะจ๊ะ “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป…กับ…ผมหนุ่ม’สุทน” ขอบคุณและสวัสดี
เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์
แฟนเพจเฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/
#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น.
#ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ 086 999 2756
#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน