เป็นความบังเอิญที่อิ่มอกอิ่มใจที่ได้เจอนักเขียนเจ้าของนามปากกา “TJ tommys” นานนนจะได้สัมภาษณ์นักเขียนวายผู้ชายสักคน ก็ดีใจตามประสาคนทำข่าวอย่างเรา และที่ตื่นเต้นเพราะผลงานถูกนำไปทำซีรีส์จะออนแอร์ในปีหน้าถึง 2 เรื่อง ก็คือ “ศิลปะหลงกล” (Art adore en) และ “ตรวนธรณี” (Chains of heart) ซึ่งได้บวงสรวงเปิดกล้องไปเรียบร้อยแล้วพร้อมเปิดเผยนักแสดงในเรื่องมาให้แฟนคลับของนักเขียนได้เห็นหน้าคร่าตา แต่ก่อนจะไปฟินกับซีรีส์มาทำความรู้จักนักเขียนที่เป็นคนถ่อมตัว โดยนักเขียนจบการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งตัวจริงก็คือ “ธนากร จิรยาภากร” (TOM) จบการศึกษาปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ การประชาสัมพันธ์ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) เชียวนะ โดยทอมเผยถึงการก้าวสู่เส้นทางนักเขียนและถูกผู้จัดจีบนิยายนำไปทำซีรีส์ว่า…
“ทอมเขียนนิยายเข้าปีที่ 4 แล้วครับ ส่วนนามปากกาก็ยังใช้ชื่อเดียวไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ “TJ tommys” นิยายเรื่องแรกที่เขียนออกมาเรื่อง ‘นัยน์ตา The eyes of love story’ ครับ จำได้ว่าตอนลงในแพลทฟอร์มออนไลน์ธัญวลัยกับเว็บเด็กดีครั้งแรกใช้ ชื่อเรื่องว่า นัยน์ตาที่รัก ช่วงเวลาครึ่งปีแรกเรียกว่าเงียบกริบ ฮ่า ๆ ๆ แทบไม่มีคนกดอ่านเลยครับแต่ก็มีนักอ่านที่เคารพรักกว่า 20 ท่านคอยเป็นกำลังใจและติดตามทุกตอนที่ผมลงเอาไว้ ตอนนั้นไม่มุ่งหวังอะไรเลยอยากเขียนสิ่งที่เราคิดออกมาเป็นตัวหนังสือและตอบแทนความคาดหวังจากนักอ่านให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทอมต้องบอกก่อนเลยครับว่าวัตถุประสงค์แรกที่ทอมเริ่มเขียนหนังสือก็เพราะอยากถ่ายทอดเรื่องราวในแบบที่เราชอบเท่านั้น ตอนนั้นยอมรับว่าเพิ่งเดินเข้าสู่สายวายมาใหม่ ๆ เลยครับ (ชอบมากฮ่า ๆ ๆ) งานเขียนในช่วงแรก ๆ ก็แบบผิด ๆ ถูก ๆ เยอะมากอ่านเองยังงง กว่าจะปรับตัวเรียนรู้วิธีการเขียนจนกลายเป็นภาษาในแบบของตัวเองก็เกือบปีเลย ส่วนที่ตัดสินใจลองทำนิยายทำมือเพราะอยากท้าทายตัวเองครับ และมีผู้อ่านบางท่านสนับสนุนให้ผมทำตอนนั้นเลยเริ่มทำขายใน Meb Market ตลาดอีบุ๊กก่อนเป็นเจ้าแรก ซึ่งก็แน่นอนว่ายังไม่มีคนซื้อสักคน แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น หลังจากเขียนเรื่องที่สอง “ศิลปะหลงกล” (Art adore en) จบเหมือนฟ้ามีตายอดขายพุ่งขึ้นเป็นร้อยเล่มในเวลาคืนเดียวเลย (หลังจากนั้นก็เงียบกริบเหมือนเดิม ฮ่า ๆ ๆ) ปัจจุบันต้องยอมรับว่านักเขียนนิยายวายหน้าใหม่เยอะและกระแสนิยายวายก็ดีมากครับ นักเขียนทุกคนก็มีแนวมีความชำนาญในแบบของตัวเอง การอ่านนิยายก็เปรียบเหมือนกับรสนิยมในการทานอาหาร บางคนก็ชอบรสจัดจ้านเผ็ดร้อน บางคนก็ชอบแบบนุ่มนวลทานได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ ดังนั้นอย่าไปแข่งขันกับใครเลยครับแข่งกับตัวเองก็พอ ส่วนของอิมเมจพระเอกนายเอกต้องเป็นดารานักแสดงไหม ไม่มีเลยครับ ส่วนตัวค่อนข้างเคารพและให้เกียรติอิมเมจของนักแสดงทุกท่านครับ ยิ่งเรามาเขียนนิยายวายที่อาจจะต้องมีฉากเลิฟซีนด้วยแล้วบางครั้งอาจดูเป็นการละเมิดสิทธิ์นักแสดงบางท่านด้วย ทอมเลยเน้นเขียนเฉพาะนิยายออริจินอลครับ สำหรับพล็อตนิยายไม่ได้มาจากชีวิตจริงเลยครับ เพราะชีวิตนักเขียนคนนี้จืดสนิทมาก ฮ่า ๆ ๆ แต่พล็อตก็มาจากความรู้สึกลึก ๆ ครับว่าเราอยากเป็นยังไง อยากทำอะไร อยากมีเพื่อนแบบ จึงถ่ายทอดสิ่งที่เราเป็นเองไม่ได้ออกมาเป็นตัวหนังสือแทน แต่ถ้าเรื่องคาแรคเตอร์ของตัวละครนี่หาไม่ไกลครับคนรอบตัวทั้งนั้นเลย แต่จุดที่คิดว่ายากที่สุดในการเขียนนิยายคงจะเป็นเรื่องของเวลามากกว่าครับ บางตอนต้องหาข้อมูลนานมากทั้งเรื่องสถานที่ อาชีพของตัวละคร หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยอย่างอื่นทอมก็พยายามเก็บรายละเอียดให้มากที่สุด เพื่อจะได้มีจุดผิดพลาดน้อยที่สุดครับ จากเขียนนิยายมากระแสเรียกร้องบุคลิกพระเอกและนายเอกนี้บอกยากครับแล้วแต่คนชอบเลย แต่ส่วนใหญ่ขอจบแบบ Happy ending ซึ่งก็เข้าทางทอมเลยครับ
ทอมมีบุคลิกพระเอกนายเอกที่อยากเขียนแต่ยังไม่ได้เขียนคือ แบบคนโรคจิตครับ เอาจริงแอบอยากเขียนนะ แต่กลัวโดนด่ามากฮ่า ๆ ๆ ถามว่านักอ่านจดจำลายเซ็นของนักเขียนตรงไหน ทอมว่าน่าจะเป็นสำนวนที่ใช้เขียนครับ อีกอย่างนิยายทุกเรื่องที่เขียนตัวละครก็จะมีความเกี่ยวพันเรียกว่าอยู่ในจักรวาลเดียวกันก็ได้ครับ
มาที่เรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานที่กี่ปีก็ปราบไม่หมด ทอมอยากฝากถึงผู้ละเมิดว่า เลิกได้เลิกนะครับ เห็นใจคนเขียนหน่อยกว่าจะเขียนได้ตอนหนึ่งช่างยากเย็นยิ่งนัก…ย่อตัวไหว้งาม ๆ
ผลงานที่ถูกนำไปทำซีรีส์ตอนนี้ที่แคสนักแสดงเอาไว้แล้วมีสองเรื่องจากสองโปรดักชันครับคือเรื่อง “ศิลปะหลงกล” (Art adore en) จาก N Entertainment และเรื่อง “ตรวนธรณี” (Chains of heart) จากบริษัท แม็กซิม่อน โซลูชั่น จากนิยายถูกนำไปทำซีรีส์ถามว่ามีความกดดันไหม ในส่วนนี้ก็มีกังวลอยู่บ้างนิดหน่อยครับ แต่ทอมค่อนข้างเชื่อมั่นในความสามารถของทางผู้จัด ผู้กำกับ และนักแสดงทุกท่าน ตรงจุดนี้แน่นอนว่านักเขียนย่อมมีคาแรคเตอร์ของตัวละครอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการนำนิยายมาทำเป็นซีรีส์นั้นก็ต้องมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้านเพื่อให้ซีรีส์ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตอนที่ผู้จัดติดต่อขอนำนิยายไปทำซีรีส์ บอกตรง ๆ ว่ามีกลัวบ้างครับ กลัวว่าทำออกมาจะเป็นยังไง กลัวว่าเขาจะนำนิยายเราไปทำจริงไหม แต่ถ้าไม่ลองดูจะรู้ได้ยังไงล่ะ ส่วนจะลงจอเมื่อไหร่อันนี้ถามทางผู้จัดดีกว่าครับ ตอนนี้นิยายทั้งสองเรื่องเปิดเผยรายชื่อนักแสดงไปแล้วครับสามารถติดตามทางเพจผู้จัดได้เลย ส่วนฉากเลิฟซีนในนิยายแต่พอทำซีรีส์จะใส่ได้เท่าในนิยายไหม ทอมคิดว่าไม่น่าจะใส่ได้เหมือนกับเขียนเป็นตัวหนังสือครับ ไม่งั้นไม่ผ่าน ก.ว.บ. แน่นอน เอาเป็นว่าคงมีฉากเลิฟซีนพอให้ชาววายได้แช่มชื่นแล้วตัดเข้าโคมไฟตามสเต็ป
ถามว่าทอมคาดหวังกับกระแสตอบรับนิยายที่นำไปทำซีรีส์อย่างไร อันนี้แล้วแต่บุญแต่กรรมเลยครับฮ่า ๆ ๆ ขอแค่นักอ่านไม่ทิ้งนักเขียนตัวน้อย ๆ แต่อายุมากคนนี้ก็พอ อีกอย่างบางคนชอบอ่านมากกว่าดูซีรีส์ในขณะที่บางคนชอบดูซีรีส์มากกว่าการอ่าน ดังนั้นอย่าไปคิดเยอะครับ เชื่อว่าทุกคนเองก็ทำงานกันเต็มที่แล้ว
ทอมฝากติดตามผลงานหรือสั่งซื้อนิยายได้ที่ พิมพ์หาชื่อ TJ tommys ในเฟซบุ๊กได้เลยครับ หรือสามารถติดตามผลงานได้ทั้งในเว็บ ธัญวลัย และReadawrite ครับ”