นายหน้าชั้นอสังหาลักชัวรี่ชั้นนำจับมือกับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่โตเร็วที่สุดเพื่อสร้างกรณีใช้งานจริงจากโซลูชันการชำระคริปโต เชื่อมต่อโลกอสังหาและสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าด้วยกันในระดับโกลบอล
บิทาซซ่านายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของไทยและ Richmont’s Christie’s International Real Estate ประกาศถึงความร่วมมือใช้งานโซลูชันการชำระด้วยคริปโทเคอรร์เรนซี โดยธุรกิจได้รับเป็นเงินบาทไทยทันทีให้กับลูกค้าผู้สนใจ โดยได้รับความสำเร็จจากกรณีใช้งานจริงแรกที่สร้างประวัตศาสตร์เขย่าวงการด้วยมูลค่าธุรกรรมกว่า 110 ล้านบาทไทย โดยชำระค่าอสังหาที่โครงการ Windshell Naradhiwas ด้วยสกุลบิทคอยน์
ความร่วมมือครั้งนี้ยกระดับให้อุตสาหกรรมทั้งสองฝ่าย
– สร้างประวัติศาสตร์ธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
– สร้างสะพานเชื่อมโลกแห่งการลงทุนระหว่างอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการเคลื่อนไหวอย่างไร้รอยต่อและเชื่อมนักลงทุนและลูกค้าภาคส่วนอสังหาจากทั่วโลกเข้ามาสู่ประเทศไทยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มความน่าสนใจ
Richmont’s เป็นบริษัทในเครือของ Christie’s International Real Estate ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกด้วยบริการชั้นนำและเครือข่ายความสัมพันธ์กับโลกศิลปะและธุรกิจ พร้อมเข้าถึงอุตสหากรรมอสังหาและโลกองค์กรทั้งในนครนิวยอร์ก ลอนดอน ฮ่องกง ลอสแองเจลลิส ชิคาโก และ ปาล์มบีช
ทั้งนี้ Richmont’s ซึ่งเป็นบริษัทในเครือหลักในประเทศไทยและบริษัทในเครืออื่นๆของChristie’s International Real Estate ถือสถิติยอดขายทั่วโลกมากมายด้วยการมุ่งเน้นอสังหาแนวลักชัวรีเท่านั้น โดย Richmont’s ตั้งใจดึงดูดลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ประจวบเหมาะกับการที่บิทาซซ่า ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลที่มอบโซลูชันการชำระด้วยคริปโทเคอร์เรนซีโดยธุรกิจได้เงินบาทที่เดียวในประเทศไทยพร้อมรวมบริการ Over-The-Counter (Blocktrade)
บิทาซซ่านายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) ชั้นนำของประเทศไทย (www.bitazza.com) เปิดตัวบริการ Bitazza Partners เพื่อให้ลูกค้าและผู้ใช้งานแพลตฟอร์มบิทาซซ่าสามารถทำธุรกรรมด้วยคริปโทเคอร์เรนซีสกุลบิทคอยน์ อีธีเรียม และยูเอสดีทีเพื่อชำระสินค้าและบริการโดยธุรกิจร้านค้าได้รับเป็นเงินบาทไทยอัตนโนมัติตั้งแต่พ.ศ. 2563 ในปัจจุบันโซลูชันนี้มีกว่า 300 ธุรกิจและพาร์ทเนอร์ใช้งานอยู่จริง https://partners.bitazza.com
บิทาซซ่า พาร์ทเนอร์ เป็นหนึ่งในโครงการซึ่งเกิดจากความคิดริเริ่มของบิทาซซ่าเพื่อผลักดันให้เทคโนโลยีบล็อกเชนกลายเป็นที่รู้จักและรับรู้ในวงกว้างโดยจะเริ่มจากการใช้งานภายในประเทศไทยเป็นที่แรกก่อนที่ขยับขยายออกสู่ต่างประเทศ บริการนี้ช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจรับชำระค่าสินค้าและบริการแบบใหม่ลดค่าใช้จ่าย โดยปัจจุบันมือผู้ร่วมมือพาร์ทเนอร์กว่า 300 รายจากทั้งอุตสาหกรรมอสังหา ยานยนต์ บริการ อาหารและเครื่องดื่ม ท่องเที่ยว ความสวยความงาม อี-คอมเมิร์ซ ในขณะเดียวกันมอบความสะดวกสบายด้านไลฟ์สไตล์ให้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของบิทาบิทาซซ่าตั้งใจผลักดันให้คริปโทเคอร์เรนซีมาใช้ได้ในชีวิตจริง ให้เกิด “ไลฟ์สไตล์คริปโต” มอบการเข้าถึงโอกาสและผันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของสินทรัพย์ดิจิทัล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธองค์กร
นายเควิน เฮง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธองค์กร กล่าวว่า “บิทาซซ่า ยินดีที่ได้ทำงานร่วมกันกับRichmont’s Christie’s International Real Estate เพื่อมอบบริการ OTC ทั้งนี้ ความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้เป็นไปตามทิศทางที่บิทาซซ่าตั้งใจไว้ ซึ่งคือการผลักดันและขับเคลื่อนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลาย สร้างความคล่องตัวให้กับการลงทุนทกแบบ และที่สำคัญ ให้บริการกับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มของเรา”
กรรมการผู้จัดการ ประจำ Richmont’s Christie’s International Real Estate
นาย ทิม สเควิงตั้น กรรมการผู้จัดการ ประจำ Richmont’s Christie’s International Real Estate กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งใหญ่กับบิทาซซ่า ผมเชื่อว่าธุรกรรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุด และครั้งแรกที่ชาวต่างชาติได้ใช้คริปโทเคอร์เรนซี ชำระค่าอสังหาริมทรัพย์ เราขอบคุณบิทาซซ่าและเครือข่ายต่างประเทศขององค์กรเราในนามของลูกค้าด้วย”
บิทาซซ่าได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker Licenses) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และกระทรวงการคลังและผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยในเดือนตุลาคมปีพ.ศ.2562 และเริ่มปฏิบัติธุรกิจในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน โดยบิทาซซ่ามีพันธะกิจในการสนับสนุนและผลักดันให้เทคโนโลยีด้านสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นที่รู้จักและรับรู้ในวงกว้างผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพอีกทั้งยังมีเป้าหมายในการมอบโซลูชั่นสำหรับธุรกิจการค้าในตลาดมวลชนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ระบบธุรกรรมแบบไร้เงินสดผ่านการใช้เทคโนโลยีคริปโตและการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินบาทไทย นอกจากนี้บิทาซซ่ายังมุ่งมั่นพัฒนากลยุทธ์เพื่อนำเสนอแนวทางในการชำระเงินแบบไร้เงินสดผ่านการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนให้แก่มวลชนเพื่อผลักดันให้เกิดการนำเอาสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ในการซื้อการแลกเปลี่ยนในแต่ละวันทำให้ผู้ขายและผู้ซื้อสามารถเลือกทำธุรกรรมโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินปกติได้ตามต้องการทำให้การใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในชีวิตประจำวันกลายเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
