วันที่ 2 ของทริปท่องเที่ยวอาร์มี่ แลนด์ ดินแดนทหาร ของ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว กองทัพบก เรานัดทานข้าวเช้าในห้องอาหารโรงแรมขอนแก่น โฮเต็ล เมื่อคืนหลับสบายๆเพราะเป็นคืนแรก เดินทางมาไกล ทุกคนดูจะแฮปปี้กระชุ่มกระชวยลงมาทานอาหารเช้า สวัสดีทักทายกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะไวรัสโควิดแยกความสัมพันธ์เราห่างกันไปหลายปี อาหารมื้อเช้าเลยอร่อยไม่ธรรมดา กินกันไปคุยกันไปได้อรรถรส
เติมพลังจากอาหารมื้อเช้า ออกเดินทางเพื่อไปยังอำเภอน้ำพอง ที่ตั้งของ พล.ม.3 ค่ายเปรม ติณสูลานนท์ประตูทางเข้าค่ายก็เป็นปริศนาธรรม คือขาประตูค่ายบ่งบอกชัดเจนว่า ชาติ, ศาสนา, พระมหากษัตริย์ ซึ่ง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์มักจะมีสโลแกนประจำตัวท่านคือเกิดเป็นคน ควรทดแทนคุณแผ่นดิน พวกเราเดินทางมาถึงค่ายในตอนสายๆ สักการะรูปปั้น พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่ตั้งอยู่หน้าค่ายโดยมี พลพล.ต.พรชัย มาหลิน ผบ.พล.ม.3 ให้การต้อนรับมอบพวงมาลัยสักการะ เสร็จแล้วก็เข้าสู่หอเกียรติยศของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของท่าน ตั้งแต่วัยเด็ก วัยโต และรับราชการทหารมาทั้งชีวิตอยู่รับใช้ชาติจนสิ้นชีพในตำแหน่งประธานองคมนตรี และมอบทรัพย์สินคืนให้กับแผ่นดินทั้งหมด นับเป็นคุณูปการแก่ชาติ
หลังจากเรียนรู้อะไรต่างๆในหอเกียรติยศแล้วพวกเรามาถึงจุดที่ศาลาเอนกประสงค์ทดแทนบุญคุณแผ่นดิน นั่งรถเพื่อไปเรียนรู้วิชาเกษตรพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และไปดูงานของทหารพันธุ์ดี ซึ่งใช้พื้นที่ในค่ายทหารปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมูเลี้ยงแพะและเลี้ยงกวางเลี้ยงม้า รวมทั้งมียีราฟเลี้ยงไว้ให้เด็กๆเข้ามาเยี่ยมชม เพื่อการเรียนรู้ในเรื่องการดำรงชีพในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง เช่นปัจจุบันนี้ เราหาทางออกด้วยการปลูกผักปลอดสารพิษเอาไว้กินเอง แถมยังช่วยประหยัดรายจ่าย ชอบผักชนิดไหนปลูกได้ดั่งใจปรารถนา ส่วนทหารพันธ์ุดี นอกจะทำสวนครัวปลูกพืชผักหลากหลายชนิด และยังเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนด้วย นั่นคือผลงานและการทำงานของทหารพันธ์ุดี
การดูงานเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ทางค่ายยังเปิดโอกาสให้พวกเราได้มีโอกาสขึ้นรถถังของจริง ที่วิ่งในสมรภูมิจริงๆมาให้เราได้ขึ้นไปนั่งชมรอบสนามฝึกซ้อมของรถถังซึ่งถือว่าเป็นทหารม้า หลายคนได้ขึ้นไปเยี่ยมชมกับแบบถึงอกถึงใจ ถือว่าเป็นวันเด็กสำหรับพวกเราอีกครั้ง เสร็จจากการนั่งรถถัง เราก็มาถ่ายรูปร่วมกันในค่ายทหารพันธุ์ดี และพักทานน้ำก่อนที่จะไปทานข้าวกลางวันที่ห้องทดแทนคุณแผ่นดิน กับอาหารมื้อกลางวัน กับบรรยากาศย้อนยุคสู่สมรภูมิเลือด ที่บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทย ผ่านการบรรยายอย่างลึกซึ้ง จนก้อนสะอื้นมาจุกคอ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกครั้ง หลังจากนั้น เราร่วมร้องเพลงบ้านเกิด เมืองนอน ในเวอร์ชั่นค่ายทหารในการสำนึกรักบ้านเกิดตอบแทนคุณแผ่นดินในจิตสำนึกของคนไทย แต่หลายฝ่ายพยายามสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในยุคนี้จริงๆ
หลังจากบันทึกการร้องเพลงบ้านเกิด เมืองนอนแล้ว พวกเราออกเดินทางไปยังจังหวัดเลย เป้าหมายเราจะไปเมืองทะเลภูเขา ที่มีความงดงามตามธรรมชาติมากมายจนคนหลายคนบอกว่าที่นี่คือดินแดนแห่งสวิสเซอร์เลย เราต้องไปดูกับตา
เราออกเดินทางจากค่ายเปรมติณสูลานนท์ในช่วงบ่ายๆจากอำเภอน้ำพอง เข้ามาทางเขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อผ่านหลายอำเภอของจังหวัดขอนแก่น การเดินทางครั้งนี้ยาวไกลอีกครั้ง เราเดินทางผ่านจังหวัดหนองบัวลำพู ผ่านอีกหลายอำเภอของจังหวัดแห่งนี้ จุดหมายที่เราจะไปกราบพระพุทธรูปสีทอง หลังค่ายศรีสองรัก จังหวัดเลย ค่ายนี้สร้างพระพุทธรูปบนภูพุทโธ บนยอดเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ 360 องศาได้อย่างสุดลูกหูลูกตา กับฉากพระอาทิตย์อัศดงลับเหลี่ยมเขาในวันนี้ การเดินทางไม่สามารถมาตรงเวลานัดหมาย กว่าจะขึ้นไปถึงภูพุุทโธได้ พระอาทิตย์ก็บ้ายบายไป 5 นาทีก่อนหน้านั้น เหลือคราบสีส้มเกาะขอบฟ้า ให้พวกเราได้ถ่ายรูปพอแก้ขัดได้บ้าง ใครเท้าไววิ่งขึ้นมาเร็วก็ถ่ายได้แสงมาก ส่วนผมหงายเงิบเดินช้าลงไปเพราะวัยเป็นต้นเหตุ เลยเก็บภาพไม่ได้ดั่งใจจนต้องแอบหยิบของคนเก่งที่ร่วมทริปมาช่วยแต่งแต้มให้มีสีสันขึ้นมาได้บ้าง ขอบคุณมาช่วงหน้า กว่าที่เราจะลงเขามาก็มืด มาถึงใบบุญแกรนด์ โรงแรมที่เราต้องพักเดี่ยวๆคืนนี้ ใครจะพิสูจน์อะไร นึกกันเอาเองจะนอนหลับสนิทหรือนอนผวา คงแล้วแต่ความสามารถโรงแรมแห่งนี้ไม่มีมอร์นิ่งคอร์ซะด้วยต้องเสี่ยงดวงว่าใครจะหลับลึก ลืมปลุกตัวเอง งานนี้ต้องมีหมู่หรือจ่าแน่นอน.
#มาวันเดียว เที่ยว 3 ภู เลย#
#น้ำพอง/ค่ายเปรม ติณสูลานนท์
#เลย/ค่ายศรีสองรัก/ภูพุทโธ/ใบบุญแกรนด์