ภาษานิยายเด็ดสุดโดน
โดย…ไม้เท้าเทวดา
ไม่ได้อ่านนิยายจีนโบราณนานแล้ว แต่สำหรับเรื่อง “บุปผาเขย่าบัลลังก์มังกร3P” ของนามปากกา 爱飛 อ้ายเฟย บังเอิญเจอปกเลยสะดุดตา (สะดุดตาจริง ๆ ใช่มั้ยล่ะ) และได้ขอสัมภาษณ์นักเขียนมาลงคอลัมน์ “เปิดปก…อกนักเขียน” นักเขียนก็ยินดีและสละเวลาตอบคำถาม ตัวนักเขียนจากได้พูดคุยเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี นอกจากนี้ยังสะบัดพู่กันร้อยเรียงเรื่องราวออกมาได้ชวนติดตามตั้งแต่ตอน 1 ถึงตอนที่ 30 กว่า แม้ฉากเลิฟซีนจะมาตอนท้ายเมื่อ ชางฉี นางเอกหนึ่งเดียวได้เปิดใจถามอ๋องน้อยเฉินลู่ และองค์ฮ่องเต้จูอี้เหลียงถึงความสัมพันธ์จึงได้ประโยคที่อ่านแล้วอมยิ้มแล้วอมยิ้มอีก
“เช่นนั้นหม่อมฉันขอถามคำถามแรกเลยนะเพคะ”
ชางฉีพูดพลางกวาดไล้สายตาไปทั่วทั้งใบหน้าของอีกฝ่าย
“เชิญอาฉีถามมาได้เลย”
องค์ฮ่องเต้จูอี้เหลียงเอ่ยขึ้นน้ำเสียงห้าวหาญ
“หลังจากคืนนี้ผ่านพ้นไป ฝ่าบาทและท่านอ๋องจะทรงทำเช่นไรต่อไปดีหรือเพคะ?”
“ขอเจ้าแต่งงาน” ทั้งสองคนเอ่ยขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทำเอาชางฉีถึงกับเผลอลืมตัวกัดริมฝีปากล่างของตนเอาไว้แน่นด้วยความเขินอาย ก่อนจะข่มใจพูดออกไปว่า
“ก็แล้วเหตุใดมิขอวันนี้เลยเล่าเพคะ”
หลังชางฉีกล่าวจบนางก็ถูกบุรุษตัวโตโผเข้ามาจุมพิตเข้าที่แก้มนวลทั้งสองข้างโดยทันที
“เช่นนั้นอาฉีช่วยแต่งงานกันกับข้าคนนี้ได้หรือไม่?”
ทั้งอ๋องน้อยเฉินลู่ และองค์ฮ่องเต้จูอี้เหลียงพูดพลางทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าทั้งสองข้างอยู่ที่พื้น
ทั้งสองคนรอคอยฟังคำตอบอยู่เนิ่นนานมาก ก่อนที่ชางฉีจะเอ่ยออกมาน้ำเสียงสั่นไหวว่า “หม่อมฉันตกลงเพคะ”
หลังจากโฉมงามในดวงใจของตนเอื้อนเอ่ยคำนี้ออกมาให้ได้ฟังก็ทำเอาบุรุษทั้งสองคนถึงกับฉีกยิ้มกว้างไปจนจะถึงใบหูด้วยความดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ยังมิยอมลุกขึ้นมาแต่อย่างใด
ชางฉีเห็นดังนั้นจึงได้ทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของพวกเขาก่อนจะโอบกอดพวกเขาเอาไว้ด้วยความรัก
และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่หัวใจทั้งสามดวงได้เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน และจะผูกกระหวัดรัดรึงไม่พรากจาก
ประโยคเดียวได้ใจความ ‘อิจฉาชางฉีได้บุรุษรูปงามสองคนพากันหลงรัก’