เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์ อาสาพาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมพุทธสถาน-หน้าโบสถ์กันวันนี้ครับหลังจากที่ผมจัดรายการกินเที่ยวทั่วไทยเสร็จ 10.00-11.00 น. ที่คลื่นข่าวfm 100.5 mhz ก็ขับรถไปในกรมชลประทาน ถนนติวานนท์ ตำบลบางตลาด อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เพราะรู้ว่ากรมชลประทานติดแม่น้ำเจ้าพระยา และมี “พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์” ที่นับได้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และน่าสนใจใคร่รู้อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนนทบุรีกันนะครับ ลองมาฟังเรื่องที่ผมอยากจะเล่าสู่กันฟังให้เป็นประโยชน์กันดูนะครับ เอาแบบเข้าใจง่ายๆ ครับ
เรื่องที่ 1 เมื่อครั้งอาณาจักรแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี บริเวณนี้เป็นชุมชนใหญ่มีบ้านเรือน มีเรือนแพค้าขายทางน้ำ แล้วก็มีด่านขนอมหรือด่านเก็บภาษีในสมัยนั้นครับ วัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์ ถือว่าเป็นวัดสำคัญเมื่อครั้งกระนั้นด้วยครับ
เรื่องที่ 2 เข้ามาในปี พ.ศ. 2306 เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนปลายมีกองกำลังทหารพม่าเข้ามายึดครองพื้นที่ในวัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์ ทำให้พระภิกษุสามเณรหนีภัยสงคราม สองวัดนี้จึงกลายเป็นวัดร้างไปในที่สุด
เรื่องที่ 3 เข้ามาสมัยแผ่นดินกรุงธนบุรีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดฯให้ชาวมอญหรือชาวรามัญมาตั้งบ้านเรือนริมน้ำเจ้าพระยาหรือปากคลองบ้านบางตลาด แล้วให้ชาวมอญช่วยกันบูรณะวัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์ขึ้นมาใหม่โดยให้เป็นวัดของชุมชนชาวมอญหรือชาวรามัญ
เรื่องที่ 4 เข้ามาในสมัยแผ่นดินอาณาจักรกรุงรัตนโกสินทร์ในปี พ.ศ. 2498 หน่วยงานภาครัฐคือกรมชลประทานได้ทำท่าเรือเพื่อเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจัดเก็บไว้บริเวณนี้เมื่อครั้งกระนั้นได้ขออนุญาตคณะสงฆ์สมัยนั้นแล้วเวนคืนที่ดินวัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์ บ้านบางตลาดและบ้านท่าทรายเพื่อจัดสร้างอาคารต่าง ๆ บริเวณนี้จึงกลายเป็นหน่วยงานภาครัฐคือกรมชลประทาน ด้วยเหตุนี้ทำให้ วัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์ หมดสภาพการเป็นวัดแต่ก็ยังเหลืออยู่ให้เห็นร่องรอยของวัด
เรื่องที่ 5 ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ทางกรมศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรีได้เห็นความสำคัญของสถานที่ของวัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์ จึงได้ดำเนินการบูรณะให้เป็นโบราณสถานเพื่ออนุรักษ์ไว้โดยนำ 2 วัดรวมกันเป็นหนึ่งเดียวครั้งนี้ พระคุณเจ้าพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวาได้กรุณาตั้งชื่อให้ว่า “พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์” บริเวณนี้เงียบสงบตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาวิวทิวทัศน์สวยงามมากครับ
น่าสนใจไปท่องเที่ยวมากๆ ครับ “พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์” จุดเด่นชัดคือตัวโบสถ์ด้านหน้าประดิษฐานพระพุทธรูปเรียก “หลวงพ่อเสือหรือเสือดำ” ชาวกรมชลประทานเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์มานั่งสมาธิและขอพรได้ เช่น สอบเข้ารับรายการ เรื่องขายที่ดิน หน้าที่การงานหรือเรื่องโชคลาภ เป็นต้น สำหรับเรื่องราวของการแก้บนนั้นขอให้เป็นผลไม้และดอกไม้เท่านั้นครับ
ส่วนในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยชาวบ้านเรียก “หลวงพ่อโต” พุทธลักษณะงดงามเก่าแก่น่าจะมีมาตั้งแต่ครั้งแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาและยังมี “หลวงปู่เริ่ม” อดีตเจ้าอาวาสวัดหน้าโบสถ์ประดิษฐานด้วย
ส่วน “ศาลเจ้าพ่อเสือ” มี 2 ศาลบริเวณปากคลองด้านซ้ายของโบสถ์หรือจะข้ามสะพานไปอีกด้านหนึ่งมีศาลเจ้าเก่าอยู่ 3 ศาล เป็นศาลเจ้าไม้เล็ก ๆ คือ
1.ศาลเจ้าแม่กวางทอง
2.ศาลเจ้าพ่อเสือและ
3.ศาลเจ้าพ่อจุ๊ปากคลอง
สำหรับ “ศาลเจ้าพ่อเสือ” มีเรื่องราวเล่าขานว่ายามค่ำๆ รปภ. จะเดินตรวจตราความปลอดภัยแต่ก็เล่าว่าบางครั้งก็เห็นเสือเดินอยู่บริเวณนี้บ่อยครั้ง องค์เจ้าพ่อเสือท่าน ก็เป็นได้ ก็เป็นเรื่องราวเล่าขานกันเองนะจ๊ะ จริงเท็จอย่างไรก็บอกไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละท่านครับ
การเดินทางไป “พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์” ใช้เส้นทางถนนติวานนท์ไปปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรีแล้วเข้าเส้นทางโรงพยาบาลกรมชลประทานตรงไปสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์อยู่ด้านขวา ท่องเที่ยวกันเองนะครับ หนุ่ม’ สุทนได้ไปมาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องมาบอกให้ท่านผู้อ่านไปเที่ยวกันเองครับ ณ พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์ “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป…กับ…ผมหนุ่ม’ สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับ
เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์
แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/
#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น.
#ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค
#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน
