พอเห็นข่าวประชาสัมพันธ์งาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 50 และ สัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 20” ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม – วันพุธที่ 6 เมษายน 2565 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ สถานีกลางบางซื่อ ในฐานะสื่อมวลชนประจำสถานีข่าวงานสัปดาห์หนังสือมาทุกปีจึงไม่พลาด จะเว้นก็ปีที่แล้วที่งดจัดงานเพราะโควิดระบาดหนัก พองานกลับมาจัดให้คอหนังสือได้กระเป๋าฉีก รวมถึงเราที่เป็นนักอ่านก็เตรียมตัวไปทำข่าวและหาหนังสือที่ชอบ แต่ดันลืมเอากระเป๋าลากไปเพราะไม่คิดว่าจะเปย์หลายเล่มดีมีผู้เปย์และผู้ช่วยถือแถมยังเป็นช่างภาพจึงได้ภาพบรรยากาศงานมาฝากเรียกน้ำย่อยหนอนหนังสือไม่พลาดงานนี้กัน
ซึ่งบูธหนังสือก็สำนักพิมพ์หน้าเดิม ๆ ที่เคยมาเปิด แต่ต้องขอติคนจัดงานตั้งป้ายซะใหญ่โตในสถานีรถไฟใต้ดินชี้บอกทาง แต่ป้ายมาหายเหลือป้ายขึ้นไปชั้นฉีดวัคซีนแทน คนที่มางานพอเห็นป้ายฉีดวัคซีนใครจะขึ้นเพราะต่างมางานหนังสือกันทั้งนั้น เลยพากันยืนงงเหมือนเราอยู่ชั่วขณะ จนกระทั่งผู้ร่วมทางเดินไปสุดทางไปเจอเจ้าหน้าที่บอกให้ขึ้นไปชั้นฉีดวัคซีนนั่นแหละ พอขึ้นไปก็ได้เจอบูธต่าง ๆ จากหงุดหงิดที่ป้ายบอกทางไม่ชัดเจนพลอยยิ้มออกพร้อมกระเป๋าเงินสั่นพั่บ ๆ แต่ต้องทำงานก่อนเลยเก็บภาพบูธต่าง ๆ ซึ่งที่เห็นเด่นชัดบูธแรกก็ บูธของเนชั่น จึงเข้าไปทักทายพีอาร์สนิทที่ส่งหนังสือมาลงข่าวโปรโมตในคอลัมน์แกะซีลหนังสือดีไม่เคยขาด พอได้เจอกันพีอาร์ขวัญก็ให้หนังสือมาโปรโมตเดี๋ยวนั้นเลย ก่อนไปไม่ลืมแชะภาพสองพีอาร์ที่คบหาร่วมงานกันมานานหลายปีมาลงข่าว จากนั้นไปเก็บภาพบูธต่อก็เจอบูธหนังสือลดหนัก 50% ซึ่งบูธนี้ไปกี่ปีก็ต้องจัดหนังสือกลับมาปีนี้ก็ไม่พลาดจัดมาหลายเล่มเลย แล้วก็ไปต่อบูธนิยายเจอบูธแจ่มใส บูธศูนย์หนังสือจุฬา บูธสำนักพิมพ์ที่เห็นเยอะสุดคงเป็นนิยายวายก็เลยสอยนิยายวายลดเหลือเล่มละ 50 บาทมา 2 เล่มเป็นเรื่องที่อยากอ่านพอดี แต่ก็ไม่ลืมแชะภาพมาฝากเผื่อสาววายจะแวะไปสอยบ้าง
จากนั้นไปลงทะเบียนสื่อมวลชนได้บัตรสื่อมาทั้งสองคน แล้วก็เก็บภาพบรรยากาศที่เดินแล้วรู้สึกพื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศปลอดโปร่งโล่งสบายก็เก็บภาพบูธหนังสือท่องเที่ยว บูธหนังสือเด็กที่พ่อแม่จูงลูกหลานเข้าไปดูหนังสืออย่างสนใจไม่แพ้บูธนิยายวายที่บังเอิญเจอบูธของสำนักพิมพ์ BOOKISH HOUSE ที่ ‘น้องมุก’ เจ้าของสำนักพิมพ์มาประจำบูธเลยแชะภาพพร้อมแนะนำตัว น้องมุกสนใจนำนิยายมา 3 เล่ม (หนักอัก) ให้นำไปลงข่าวโปรโมตในคอลัมน์แกะซีลหนังสือดี แถมบอกอีกว่าจะส่งมาให้ลงข่าวเรื่อย ๆ เมื่อเสร็จจากบูธของน้องมุกก็คอหายเลยไปต่อแถวกับช่างภาพส่วนตัวที่ต่อแถวรอซื้อโกโก้เย็นที่ตู้ ‘เต่าเย็น’ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชมเข้าชมงานยืนรอแถวยาวเพื่อจัดเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น ของเราจัดโกโก้เย็นกับชาเย็นมาคนละแก้วก็ใช้เวลาพอสมควรแต่ไม่นานเท่าพวกเครื่องดื่มร้อน สำหรับหนอนหนังสือที่จะไปงานเตรียมแค่กระเป๋าลากส่วนเงินที่งานมีตู้เอทีเอ็มหลายธนาคารให้กด กระทั่งอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายแต่ตั้งอยู่ด้านนอกอาคารเพราะกันกลิ่นของอาหารมารบกวนกลิ่นหอม ๆ ของหนังสือนั่นเอง
จากที่ทำข่าวมาเกือบสามชั่วโมงก่อนถึงเวลารับเสด็จประธานเปิดงานก็เห็นชัดถึงความต้องการของนักอ่านยุคนี้ที่หันมาอ่านนิยายวายมากขึ้น บูธนิยายชายหญิงก็มีแต่น้อย แต่การอ่านหนังสือไม่ว่าแนวไหนถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากคนไทยอ่านหนังสือน้อยกว่าเล่นมือถือ ซึ่งเราในฐานะนักข่าวยังเปิดใจอ่านและยอมรับเนื้อหาและภาษาของนักเขียนวายแต่ละเรื่องไม่เช่นนั้นจะทำข่าวสัมภาษณ์นักเขียนไม่ได้ถ้าไม่เปิดใจอ่านก่อน และบอกเลยว่าคอหนังสือต่างอัดอั้นจากปีที่แล้วจึงแห่กันไปงานอย่างเนืองแน่นพร้อมกระเป๋าลาก เพื่อตามหาหนังสือที่ชอบที่ใช่ที่ตั้งเรียงรายกว่า 583 บูธ ภายใต้มาตรการการควบคุมโควิด-19 มีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้ร่วมงานก่อนเข้างานด้วย