เปิดปก…อกนักเขียน
“คามิเลียสีชมพู” คนมีของได้ปล่อย “จันทรามนตรา” มาร่ายความสนุกน่าติดตาม
แค่พ่อปู่สมิงตาไฟโผล่มาในเรื่อง “จันทระอสุรา” กับ “ดารกาวายุ” ไม่กี่ฉาก กับผลงานของนามปากกา “คามิเลียสีชมพู” หรือ กิ๊ฟ – ดรุณี ลางคำ ก็พาใจละลาย ละลายขนาดมือลั่นสอย “มันตราสมิง” 2 เล่มจบมาเพราะที่นักเขียนหมด ซึ่งโชคดีได้มาในราคาน่ารัก แต่ยังไม่ได้อ่านเพราะติดพันอ่านจันทระอสุรา ที่พระเอกเป็นยักษ์ ผู้รักเดียวใจเดียวนาม ‘สุระอสุรา’ ชื่อใหม่ที่พ่อปู่สมิงตาไฟตั้งให้ตอนรับเป็นศิษย์ เป็นนิยายแหวกแนวสำหรับเราทั้งเปิดโลกพาเข้าสู่เรื่องราวของคาถาอาคม การถูกคุณไสยครอบงำ อ่านตอนกลางคืนก็หลอนดี ซึ่งมีเวลาอ่านช่วงนั้นเพราะกลางวันลุยงานข่าว เนื้อหาของเรื่องจันทระอสุรา เป็นเรื่องราวความรักของสุระอสุรากับปเรียนทร์จันน์ สาวน้อยบ้านป่าจิตใจงาม ด้วยความบังเอิญนำพาพวกเขาพบกันและค่อย ๆ กระชับมิตรภาพทีละนิด ๆ เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับนางเอกก็จะได้รับความช่วยเหลือจากยักษ์หนุ่มเป็นผลให้หัวใจของปเรียนทร์จันน์เต้นแรงขณะใกล้ชิดพ่อสุระ แม้มารดาของปเรียนทร์จันน์กลายร่างเป็นเสือได้ ทว่าก็ไม่ได้อยู่ช่วยลูกสาวตลอดจึงเป็นหน้าที่ของพระเอก มิหนำซ้ำแม่ของปเรียนทร์จันน์ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะศัตรูได้ส่งพยนต์ สิ่งที่ผู้ทรงอาคมปลุกมาฆ่าจนเกือบเสียท่าโชคดีสุระอสุราไปช่วยไว้ทัน เนื้อเรื่องนอกจากขยับความรักของคนกับยักษ์แล้วยังมีเรื่องของคุณไสยและสอดแทรกดราม่าเรื่องเมียน้อยอิจฉาเมียหลวง ด้วยแม่ของปเรียนทร์จันน์ได้หอบลูกหนีจากพ่อแท้ ๆ มาอยู่ในป่าแต่พ่อของลูกก็ตามหาจนเจอ ขอบอกฉากเมียน้อยโดนสุระอสุราจัดการแทนแม่ของปเรียนทร์จันน์นั้นดีงาม ก็อยากมาทำร้ายดวงใจของพ่อสุระก่อนนี่ ส่วนฉากสุระอสุราต่อกรกับภูตผีชั่วร้ายนักเขียนบรรยายได้สนุกลุ้นระทึก ถือเป็นแนวโรมานซ์ผสมแฟนตาซีแบบไทย ๆ ได้เข้ากันและชวนติดตาม
เมื่ออ่านจบก็เลือกอ่าน “ดารกาวายุ” ต่อ ตอนแรกก็งงเหตุใดพระเอกชื่อไม่ตรงปก แต่พออ่านไปคำเฉลยอยู่ในเรื่อง ‘หมอก’ ที่ป่วยเป็นโรคประหลาดแม้แต่พ่อของดารกาที่เป็นหมอก็ยังรักษาไม่ได้ ‘พายุ’ คือชื่อใหม่ของหมอกพร้อมร่างกายที่แข็งแรงแข็งแกร่งจากได้รับการรักษาจากหลวงตา ความหล่อพ่วงรูปร่างเปี่ยมด้วยมัดกล้ามสะดุดตาสาว ๆ ในหมู่บ้าน แต่ผู้หญิงที่ก้าวเข้ามาในหัวใจของพายุคือ ‘ดารกา’ เพื่อนเล่นตอนเด็กก่อนที่นางเอกจะย้ายไปอยู่ในเมืองตามบิดาและมารดา ทว่าก็มีเหตุให้ดารกากับแม่ต้องกลับมา ทำให้ดารกาได้เจอพายุในรูปลักษณ์ใหม่และคอยปกป้องเธอจากภูติผีปีศาจ ฉากพายุต่อสู้กับภูตผีที่ตัวร้ายใช้คุณไสยปลุกเสกมันขึ้นมาพาให้เห็นภาพการต่อสู้จากนักเขียนบรรยาย อ่านไปก็ขนลุก ยิ่งฉากพายุปลุกผีทั้งป่าช้าขึ้นมาตามหาดารกาที่ถูกคนชั่วจับตัวไป ถ้าพายุไม่รักไม่ห่วงดารกาคงไม่ทำเช่นนั้น รวมทั้งฉากต่อสู้แต่ละครั้งทำให้พายุได้ของที่เป็นของตนเมื่อภพอดีตคืนมา และเมื่อได้ของทุกชิ้นคืนมาจนครบจึงเฉลยว่า ทำไมพายุฝันถึงผู้หญิงที่ชื่อจันทิรา และรู้ว่าชาติก่อนตัวเองรับราชการทหารและมีนามว่า ‘วายุ’ ครั้นพายุได้พบจันทิรา เมียสุดที่รักในชาติก่อนที่กลับชาติมาเกิดอีกครั้งก็พาหัวใจพายุเอนเอียง กระทั่งโกหกดารกาที่เอ่ยปากชวนเขาไปงานรำวงที่วัดแต่พายุปฏิเสธแถมโกหกว่าติดธุระ ทว่าดารกาได้ไปงานวัดเป็นเพื่อนแก้วบังเอิญเห็นภาพพายุกำลังรำป้อจันทิราอยู่ ซึ่งฉากนี้ทำเราเสียน้ำตา เข้าใจดารกาที่เสียใจจนร้องขอให้พ่อปู่สมิงตาไฟฆ่าเธอซะจะได้ไม่ต้องทนเห็นภาพพายุพรอดรักกับจันทิราอีก ร้อนถึงคนรักหลานอย่างพ่อปู่ได้ร่ายคาถากำกับไม่ให้พายุปีนเข้าหน้าต่างห้องดารกาได้อีก กว่าที่พายุจะรู้ว่าหัวใจของเขาคือดารกาก็เกือบจะเสียเธอไป หลังจากอ่านทั้งสองเรื่องจบ สายมูน่าจะชอบนะ พออ่านดารกาวายุจบก็ต้องปรับอารมณ์กันหน่อยก่อนอ่าน “จันทรามนตรา” ซึ่งเรื่องไม่เกี่ยวโยงกับสองเรื่องเลย เป็นโรมานซ์แฟนตาซียุค 2000 ที่มีพ่อมดแม่มดแฝงตัวมาอยู่ร่วมกับมนุษย์ แม้แต่ “โยรุ” หมาป่าตัวมหึมาที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้เมื่อต้องการ ซึ่งชื่อเดิมของโยรุคือ “เฟนริซูลเฟอร์” และฉายาที่น่าเกรงขามว่า “อสุรกายแห่งแม่น้ำวาน” ที่เหล่าพ่อมดแม่มดหวาดกลัว เนื้อหาร้อยเรื่องดี ค่อย ๆ เฉลยความเป็นมาของพระเอกพร้อมเหตุผลที่โยรุมาโผล่ที่บ้านของจีและช่วยเธอจากถูกคนขับแท็กซี่ขี้เมาปล้ำ เรื่องราวปูความเป็นมาของจีและเหตุผลที่เธอไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้าน “จันทรามนตรา” ที่คุณอารัญ อดีตยมทูตเป็นเจ้าของ ในร้านจันทรามนตรามีเรื่องเกิดขึ้นมากมายและเป็นชนวนให้จีรู้ว่าเธอมีสายเลือดของแม่มดครึ่งนึง นักเขียนหาข้อมูลมาร้อยเรียงเรื่องได้ดีรวมถึงสร้างภาพลักษณ์ของเฟนริซูลเฟอร์ให้น่ากริ่งเกรง แต่น่ารักขี้อ้อนเวลาอยู่กับนางเอก โยรุจะคอยปกป้องจีให้พ้นจากแม่มดตัวร้ายที่จ้องทำร้าย ฉากต่อสู้นักเขียนถ่ายทอดผ่านตัวอักษรจนเห็นภาพ คามิเลียสีชมพูได้พิสูจน์แล้วว่านิยายแนวที่ไม่ถนัดอย่างจันทรามนตราก็สร้างความสนุกชวนติดตามไม่ต่างกับจันทระอสุราและดารกาวายุ ครั้งนี้ได้เจอนักเขียนถือเป็นโชคชะตาเหวี่ยงเรามาเจอกัน (ยืมคำของนักเขียนนาม นภัสกาลมา) โดยนักเขียนคามิเลียสีชมพูเผยถึงการก้าวสู่เส้นทางนักเขียนว่า
“ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัทค่ะ เขียนนิยายเป็นอาชีพเสริม นิยายเรื่องแรกที่เขียนจบคือ “มันตราสมิง” ค่ะ เป็นนิยายโรมานซ์แฟนตาซีแบบไทย ๆ เพราะพระเอกเป็นเสือค่ะ กระแสตอบรับสำหรับตัวเองคิดว่าดีมาก ๆ เพราะตอนหนึ่ง ๆ นั่งตอบคอมเมนต์จนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน(ฮา) แต่มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ เพราะคุณ ๆ นักอ่านแวะเวียนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องต่าง ๆ เยอะมากค่ะ เราได้แลกเปลี่ยนความเชื่อของแต่ละภาค และความรู้สึกที่มีต่อตัวละครอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่พระเอกนางเอกด้วยค่ะ แล้วก็…มันตราสมิงเองก็เป็นเรื่องแรกที่มียอดวิวในเว็บเกิน 6 แสน(ในธัญวลัย) แล้วก็อีกเว็บน่าจะประมาณ 2 แสนกว่าค่ะ จริง ๆ อยากให้ทุก ๆ คนได้ลองอ่านมันตราสมิงดูเพราะเป็นเรื่องแรกที่เขียนจบและเป็นต้นกำเนิดของจักรวาลเล่มอื่น ๆ ค่ะ
จริง ๆ นิยายแต่ละเรื่องเชื่อมกันหมดเลยค่ะ เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดในจักรวาลเดียวกัน ทำให้บางครั้งภายในเรื่องก็จะมีพระนาง หรือแม้กระทั่งตัวละครเดียวกันกับเรื่องอื่น ๆ แวะเวียนเข้ามาให้คนอ่านได้หายคิดถึงกันค่ะ อย่างเรื่อง “มันตราสมิง” ก็จะมีตัวละครหลัก ๆ ที่ทุกคนล้วนคิดถึงนั่นก็คือพระเอกของเรา “พ่อปู่สมิงตาไฟ” เป็นฉายาที่ชาวบ้านเรียกท่าน ส่วนคุณ ๆ นักอ่านจะเรียกท่านว่า “พ่อปู่” แต่ชื่อจริง ๆ ของท่านคือ “สมิงหิรัณยกาย” แปลว่าเสือผู้มีกายสีทอง หากใครที่อ่านเรื่องอื่น ๆ อย่างเรื่อง “จันทระอสุรา” แล้วเจอฉากหนึ่งที่พ่อปู่ปรากฏตัวก็จะเอ๊ะ นี่มันพ่อปู่นี่นา! ประมาณนี้ค่ะ เพราะสุระอสุรา(พระเอกของจันทระอสุรา) เขาเองก็เป็นลูกศิษย์ของสมิงหิรัณยกายค่ะ ความรู้สึกมันจะเหมือนกับว่า เราได้เจอกับคนที่เรารู้จักในเรื่องอื่น ๆ อีกเรื่องที่อยากยกตัวอย่างก็คือ “ไอยรีสิตามัน” ค่ะ จริง ๆ แล้วหากใครเคยอ่านมันตราสมิงและจันทระอสุรา หรือแม้แต่กระทั่งดารกาวายุ ก็จะคุ้นเคยกับไอยรีสิตามัน นางพญาช้างเผือกขยายยาวช้างนี้ค่ะ ท่านเป็นแม่เกิดของมันตรา(นางเอกจากมันตราสมิง) และที่สำคัญตามเนื้อเรื่องแม่เป็นเหมือนผู้ปกครองพื้นที่ทางทิศเหนือด้วยเช่นกันค่ะ นอกนั้นก็จะต่อยอดกันไปด้วยความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร อย่างเช่น สหายของไอยรีสิตามัน ก็คือ ไวษวาหะ(จากเรื่องดวงใจไวษวาหะ) เป็นต้นค่ะ
ในส่วนของฉากที่มารสูรย์คุยกับคุณยายที่สิงอยู่ในต้นทองกวาวถามว่าเขาคุยกันภาษาอะไร ความจริงคุณยายที่อยู่ที่ต้นทองกวาวในเรื่องจันทระอสุราจะออกแนวผีประจำต้นไม้แนว ๆ นั้นมากกว่าค่ะ ไม่ถึงขั้นรุกขเทวดาออกแนวนางตะเคียนที่เป็นผีมากกว่าค่ะ คุณยายท่านพูด “คำเมือง” เป็นภาษาถิ่นของทางเหนือค่ะ คล้าย ๆ กับคนอีสานพูดภาษาอีสานทำนองนั้นค่ะ ถามว่ายากมั้ยการเขียนนิยายแนวนี้แล้วต่อยอดตัวละครออกมา จริง ๆ ส่วนตัวไม่ยากค่ะ แต่ส่วนใหญ่ที่พักมักติดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพมากกว่า อย่างเวลาที่เขียนบทที่เศร้ามาก ๆ ก็จะร้องไห้ไปด้วย ยิ่งเป็นบทที่เศร้ามาก ๆ ก็จะถึงขั้นฟูมฟายและอาการที่จะตามมาคือตาแห้งค่ะ บางเรื่องต้องหยุดเขียนเป็นอาทิตย์ เพราะตาไม่ไหวจริง ๆ (ฮา)
ถ้าถามว่าเรื่องไหนตอบรับดีรองลงมาจาก “มันตราสมิง” ก็น่าจะเป็นจันทระอสุราค่ะ แล้วก็ดารกาวายุ แต่เรื่องที่ต้องตีพิมพ์เพิ่ม ครั้งที่ 2 ตอนนี้มี 3 เรื่องค่ะ จันทระอสุรา(ที่หมดอีกแล้ว) ดารกาวายุ แล้วก็ไอยรีสิตามันค่ะ แต่ความจริงอาจจะเพราะว่าตีพิมพ์มาไม่เยอะด้วยมั้งคะ(ฮา) สำหรับนามปากกา คามิเลียสีชมพูเป็นที่นักอ่านรู้จักน่าจะจากเรื่อง “มันตราสมิง” ค่ะ เพราะหลาย ๆ คนแวะมาพูดคุยกันว่าติดตามมาจากมันตราสมิง นอกจากนามปากกาคามิเลียสีชมพูจริง ๆ มีอีกนามปากกาค่ะ แต่ไม่เคยได้ใช้เขียนเรื่องอะไรเลยค่ะ(ฮา) ชื่อ ‘คุณนายดีแอสตั้น’ จริงๆ เป็นนามปากกาที่ตั้งใจจะเอาไว้เขียนเรื่องราวที่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในต่างประเทศค่ะ แนวๆหลักๆ เป็นแนวมาเฟีย แต่ยังไม่มีโอกาสเขียนเลยค่ะ
คำถามที่ว่ามีแนวโน้มจะชิมลางนิยายวายตามกระแสบ้างไหม จริง ๆ ก่อนหน้าที่จะเขียนมันตราสมิงเคยเขียนนิยายวายมาก่อนเหมือนกันค่ะ แต่อาจจะเพราะว่าตอนนั้นไม่มีการวางแผนเนื้อเรื่อง เรื่องมันก็เลยสะเปะสะปะ จะจบก็จบไม่ลง จะไปต่อก็ไปไม่ได้ ก็เลยหยุดเขียนไปค่ะ แต่ผลตอบรับส่วนตัวคิดว่าอาจจะกลับไปเขียนนิยายวายไม่ได้ เพราะนายเอกในเรื่องที่เขียนส่วนใหญ่มักมีความเป็นหญิงมากกว่า จนรู้สึกว่า ถ้าอย่างนั้นก็เขียนชายหญิงไปเลยไม่ดีกว่าหรือ ประมาณนี้ค่ะ(ฮา) ส่วนนิยายจีน มีแพลนค่ะ แต่ปัญหาติดอยู่ตรงที่ตัวของเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับจีนมากพอ จะด้วยเรื่องของราชวงศ์จีน พระราชวัง หรือวิถีชีวิต ไม่อยากเขียนแล้วทำให้นักอ่านคิดว่า เธอ! นี่มันไม่ใช่จีนนะคะ จีนเขาไม่ทำแบบนี้น่ะค่ะ(ฮา) ส่วนของแพลนเขียนนิยายก็ตั้งใจจะเขียนนิยาย 1 เรื่องให้ไม่เกิน 3 เดือนค่ะ เพราะส่วนใหญ่ที่ทำจะเป็นการเขียนนิยายวันละตอน การเขียน 1 เดือนถ้าไม่เลื่อนอัปเดตก็จะได้ประมาณ 30 ตอนพอดีแต่ความเป็นจริงก็จะลบประมาณ 5-10 ตอน ถ้าเกิดเขียน 3 เดือน มันจะอยู่ราว ๆ 70-80 ตอนซึ่งเวลาตีพิมพ์มันจะเกิน 2 เล่มจบค่ะ(ฮา) สำหรับโครงการเรื่องต่อไปเรื่องที่เพิ่งเขียนจบไปล่าสุดคือ “เกสรราชสีห์” ค่ะ เป็นเรื่องสั้นที่เกิดในจักรวาลเดียวกันกับดวงใจไวษวาหะ แต่เรื่องที่กำลังจะเขียนต่อเป็นเรื่องยาวคือ “ไพลินนิลกาฬ” เรื่องนี้ถ้าใครอ่านไอยรีสิตามันและดวงใจไวษวาหะ ก็จะรู้จักตัวละครนี้ประมาณหนึ่งค่ะ
ในส่วนของการหาข้อมูลเขียนนิยายเรื่องที่หาข้อมูลนานที่สุดคือ “มันตราสมิง” ค่ะ ความโชคดีของเรื่องอื่น ๆ ก็คือทุกเรื่องล้วนมีพื้นฐานข้อมูลที่ต่อยอดมาจากมันตราสมิงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย คาถาอาคม อาวุธ การต่อสู้ สมุนไพร และเรื่องความเชื่อต่าง ๆ ค่ะ แต่ส่วนที่เขียนยากที่สุดเลยก็คือ การบรรยายฉากที่เป็นแฟนตาซีมาก ๆ หลุดออกไปจากโลกแห่งความเป็นจริงอย่างการบรรยายเรื่องป่าหิมพานต์ค่ะ ส่วนนี้จะเห็นในตอนพิเศษของจันทระอสุรา ดวงใจไวษวาหะ และเกสรราชสีห์ค่ะ ยากเพราะต้องเป็นสถานที่ที่มีความแฟนตาซีมาก ๆ ต้องบรรยายออกมาให้คุณ ๆ นักอ่านจับต้องได้ ส่วนตัวก็เลยคิดว่าส่วนที่หลุดเหนือออกไปจากความเป็นจริงแต่อิงความเชื่อจึงเป็นอะไรที่ยากค่ะ แต่พอตั้งต้นได้ก็จะไหลลื่นไปเองนะคะ
จากสถานการณ์โควิดที่ระบาดและยังระบาดอยู่ก็มีผลกระทบอยู่มากค่ะ เพราะนิยายทำมือต้นทุกค่อนข้างสูง ไหนจะทำปก พิสูจน์อักษร จัดหน้าและตีพิมพ์เอง โดยเฉพาะค่าตีพิมพ์ที่ยิ่งพิมพ์น้อยก็จะยิ่งแพงทำให้ราคานิยายของเราแพงขึ้นตามไปด้วย แต่ก็ต้องขอบพระคุณคุณ ๆ นักอ่านที่คอยสนับสนุนคามิเลียสีชมพูตลอดมา หลาย ๆ ท่านแม้จะยังไม่พร้อมจ่าย ณ ตอนที่เปิดก็จะติดต่อมาเพื่อขอจองไว้ก่อนค่ะ สามารถติดตามผลงานของคามิเลียสีชมพูหรือซื้อนิยายได้ที่
Facebook :: @CamelliaPinkku (นักเขียน คามิเลียสีชมพู)
Twitter :: @Camellia_Pinkku
instagram :: camelliapinkku
readawrite :: https://camellia_pinkku.readawrite.com/
ธัญวลัย :: คามิเลียสีชมพู
ขอฝากติดตามผลงานของคามิเลียสีชมพูด้วยค่ะ”
เฉลยคำถามซีรีส์นิยายของ “นิวไม่จิ๋ว” : บันทึกไซด์ไลน์, ราชินีหนังโป๊
คำถามนิยายของนามปากกา “คามิเลียสีชมพู” ที่พระเอกชื่อ “พายุ” และ “โยรุ” มาจากเรื่องใดบ้าง?
ทราบคำตอบเขียน ใส่ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรศัพท์และคำตอบให้ชัดเจน ส่งมาที่
#คอลัมน์เปิดปก…อกนักเขียน
32/15 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ขอบคุณนักเขียนนามปากกา “คามิเลียสีชมพู” ที่สนับสนุนนิยาย 3 เล่มเป็นรางวัล
ส่งคำตอบมาภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565