ภาษานิยายเด็ดสุดโดน
โดย…ไม้เท้าเทวดา
“มาม่าครึ่งซอง” ตีแผ่ชีวิตอันธพาล “เจ้าป่า” คลั่งรัก “ผักขา”
เซ็ตซีรีส์อันธพาลของนามปากกา “มาม่าครึ่งซอง” มี 3 เรื่อง 3 รส ประเดิมด้วย “อันธพาลครองใจ” , “อันธพาลเจ้าชีวิต” และ “อันธพาลล่ามรัก” มีโอกาสได้อ่านเพราะทักขอสัมภาษณ์นักเขียน ซึ่งนักเขียนก็ยินดีคงอีกไม่นานจะได้เห็นถึงการก้าวสู่เส้นทางสายน้ำหมึกขณะที่นักเขียนต้องทำงานประจำด้วย เมื่อได้อ่าน “อันธพาลครองใจ” กับความรักของ “เจ้าป่า’ กับ ‘ผักขา” ที่ผ่านมาก็เคยอ่านนิยายที่พระเอกพูดจาไม่เพราะ ก็ไม่ใช่พระเอกจะพูดไม่เพราะกับนางเอกคนเดียวแต่เป็นบุคลิกดิบ ๆ ของพระเอกของมาม่าครึ่งซองที่แจ้งไว้ก่อนแล้วว่ามีคำพูดหยาบ ๆ ซึ่งพอได้อ่านจบก็เห็นความรัก ความห่วงใยที่เจ้าป่ามีให้ผักขาคนเดียว และถ้าใครทำร้ายผักขาก็จะถูกเจ้าป่าเอาคืนอย่างสาหัสสากรรจ์ และอะไรที่เคยเป็นของผักขาแล้วถูกแย้งชิงไปเจ้าป่าจะทวงคืนในวิธีของเขาก็แสบสันต์ดีวิธีของเจ้าป่า จึงได้เจอภาษานิยายเด็ดสุดโดนที่ว่า
“นี่อีผักขา! บอกผัวแกให้ขอโทษฉันกับแม่เดี๋ยวนี้”
“ทำไมกูต้องขอโทษวะ!”
“หนูขอโทษแทนเขาด้วยนะคะคุณป้า” ไม่ทันขาดคำเสียงหวาน ๆ ก็ดังขึ้น
ผักขายกมือไหว้ นั่นทำเอาเจ้าป่าโคตรหงุดหงิดไปกันใหญ่ เขาแสดงความกราดเกรี้ยวผ่านใบหน้าจนสองแม่ลูกพากันกลืนน้ำลาย แอบใจสั่นกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจ้าป่า
“ไล่ผัวมึงกลับบ้านไปเดี๋ยวนี้!”
“กูไม่กลับ”
“กูจะแจ้งตำรวจ”
“มึง เป็น เจ้า ของบ้านหรอ!” เจ้าป่าสาวเท้าหนาเข้ามาใกล้สองแม่ลูก ผักขารีบดึงแขนอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
“…” ดวงดารากัดฟันนิ่ง เธออยากจะเอ่ยนักว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ถ้าไม่ติดว่ากลัวสายตาดิบเถื่อนคู่นั้นนะ
“ขา พากูไปห้องมึง” เจ้าป่าละสายตาจากสองแม่ลูกแล้วก้มมองคนตัวเล็กข้าง ๆ เขา มือเรียวนุ่มกระชับมือหนาเอาไว้แน่น
“…” เธอมองเขาด้วยสายตาว่าไปทำไม
“ไปดิ กลัวไร” ความเย็นของน้ำเสียงเจ้าป่าทำเอาผักขาดึงแขนเขาให้เดินผ่านตัวบ้านลัดทะลุออกมายังสวนหย่อมที่ด้านหลัง เดินผ่านสวนดอกไม้มาก็จะเป็นบ้านเรือนไม้ทรงไทยเก่า ๆ
“มึงอยู่นี่?”
“อือ ฉันอยู่ที่นี่”
“อ่ะ! อยู่ที่นี่!”
“ผักขา มึงโง่รึเปล่าวะ นั่นบ้านมึง ทำไมไม่อยู่ในบ้านหลังนั้น!” เจ้าป่าเปล่งน้ำเสียงโมโหดังแทบเป็นการตวาด ทำไมเธอแม่งโง่ได้ใจอย่างนี้วะ เขาละเกลียดนิสัยของผักขาจริง ๆ มองโลกในแง่ดีเกินไป อะไรที่เป็นของตัวเองยังให้คนอื่นแย่งได้
“…” ผักขาไม่มีอะไรจะไปเถียงเขา ทำได้แต่ยืนนิ่ง เพราะเป็นอย่างที่เขาพูด บ้านเธอสมบัติเธอ แต่เธอกลับไม่ได้แตะสิ่งของพวกนั้นสักอย่าง
“ไปเก็บข้าวของที่จำเป็น”
“เก็บทำไม?”
“ไปอยู่กับกู”
“…” ดวงตากลมมองไปยังคนตัวสูง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะหลบตาสายอันดุดันนั้นลง เพราะต่อกรกับแววตาพญาราชสีห์อย่างเขาไม่ได้
“เงียบทำไม”
“ฉันรู้ว่านายเป็นห่วง แต่นี่บ้านฉันนะ ฉันอยากอยู่ที่นี่เพราะมันคือบ้านพ่อกับแม่ฉัน” ผักขาเอ่ยเสียงเบา ขยับตัวเข้ากอดคนตัวหนาแน่น อิงแนบหน้าซบแผงอกของเขา เธอรู้ว่าเวลาเจ้าป่าเดือดดาลหรือโกรธต้องทำยังไง
“นะ…” เธอแหงนมองดูเขาก่อนจับแขนหนาเขย่าอ้อนวอน คนอย่างเจ้าป่าเวลาเอาจริงเอาจังละน่ากลัว
“ก็ได้” เจ้าป่ายกมือขึ้นลูบศีรษะมนอย่างอ่อนโยน ไฟเดือดดาลในกายเขาเริ่มลดลงอย่างมาก
“…” ผักขาอมยิ้มออกมา
“แต่กูจะอยู่กับมึงที่นี่”
“เจ้าป่า… คะ คือเราจะอยู่ด้วยกันได้ไง เราไม่ได้เป็น…”
“เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนอยู่ด้วยกันไม่เสียหาย และเพื่อนย่อมปกป้องเพื่อน”
“ก็ได้…” อีกแล้ว เธอยอมเขาอีกแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องไหน ๆ เธอก็ยอมเขา
‘กูจะเอาบ้านหลังนี้คืนให้มึงเอง’ เจ้าป่าขบคิด ก่อนจับศีรษะน้อยลงแนบซุกหน้าอกตัวเองอีกครั้ง
ผักขาโชคดีมีเจ้าป่าคลั่งรักคอยปกป้อง