สำรวจเส้นทางคุนหมิง-ผู่เจ่อเฮย ตอนที่ 1
บริษัทวีคเอนด์ทัวร์ จำกัด จัดทริปทัวร์สำรวจเส้นทางคุนหมิง-สือหลิิน-ผู่เจ่อเฮย นำโดยคุณสมชาย ชมระกา กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมเชิญบริษัททัวร์ ผู้มีอุปการะคุณทั้งในกรุงเทพและภูเก็ต แล้วยังมีโอกาสเชิญ สื่อมวลชน ร่วมไปสำรวจเส้นทางสายใหม่เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในมณฑลยูนนาน เริ่มจากมหานครคุนหมิง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลนี้ การสำรวจเส้นทางครั้งนี้เป้า หมายอยู่ที่อุทยานแห่งชาติผู่เจ่อเฮย ซึ่งอยู่ในเมืองชิวเป่ย ส่วนเส้นทางผ่านอย่างป่าหิน น้อยซึ่งอยู่ในอำเภอสือหลิน ก็เป็นจุดสนใจของการท่องเที่ยว การเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบินไชน่าอิสเทิร์นแอร์ไลน์ เราเดินทางในบ่ายแก่ๆวันหนึ่ง ไปล่วงหน้าพักใกล้สนามบินคุนหมิง เพื่อรอคณะทัวร์จากภูเก็ตทึ่จะเดินทางมาสมทบถึงเช้าอีกวันหนึ่งแล้วรวมตัวนั่งรถวีไอพีไปด้วยกัน
เมืองคุนหมิงเป็นเมืองเอกของมณฑลยูนนาน มีเรื่องราวเล่าขานกันมาตั้งนานหลายพันปี เมืองนี้อยู่บนเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลสองพันกว่าเมตร อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีหลายเมืองในมณฑลแห่งนี้มีหิมะตกในช่วงฤดูหนาว การปกครองโดยชนเผ่าอี๋ ในแต่ละเมืองจะมีชนชาวเขาระหว่างเผ่าปกครอง เพราะแต่ละเมืองมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลพันกว่าเมตรขึ้นไป เมืองคุนหมิงมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ อุ้ยเสี่ยวป้อ พระสหายของฮ่องเต้ เรื่องราวของอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นเรื่องจริง ก่อนถูกส่งตัวมาปกครองที่คุนหมิงในบั้นปลายของชีวิต คุนหมิงมีความเจริญมาก พิ้นที่กว้างใหญ่พอๆกับประเทศไทย ความเจริญไม่ต่างกัน มีรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟที่แล่นไปถึงธิเบตได้ แหล่งท่องเที่ยวสวยงามมีมากมายจึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในคุนหมิงเพิ่มขึ้นทุกปี วิถีชีวิจิตของคนบนภูเขาน่าสนใจมาก
หลังจากที่คณะทัวร์มาจากภูเก็ตมาสมทบการเดินทางในตอนสายๆเพื่อจะไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลยูนนาน อำเภอสือหลินที่ปกครองโดย
ชนชาติอีก้ออาข่า เรากำลังจะไปสู่เมืองเสาหินมีเต็มไปหมดทั้งเมือง กระจายกันไปมองเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนสือหลินที่เราแวะพักกินข้าวเที่ยง ในหมู่บ้านป่าหินน้อย ก่อนที่เราจะพากันไปชมความงามความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ซึ่งจะมีแท่งหินเต็มไปหมดวางกันอย่างมีระเบียบซึ่งธรรมชาติได้จัดการอย่างสวยงาม ซิงหลินต้ากวนหยวน หรือป่าหินน้อย ห่างจากคุนหมิง 89 กิโลเมตร มีพื้นที่ 350 ตารางกิโลเมตร มีจุดชมหินมากกว่า200 จุดรวมทั้งป่าหินใหญ่ถ้าจะดูทั้งหมดคงต้องใช้เวลายาวนาน มีทั้งจุดปีนป่ายไปสู่จุดสูงเพื่อมองทิวทัศน์ได้รอบตัว 360 องศา การยกตัวจากน้ำทะเลทำให้หินในบริเวณนี้มีอายุมากถึง 270 ล้านปี เป็นหินปูนหรือแคลเซี่ยม นำมาทำปูนซีเมนต์
แต่ป่าหินน้อยมีทัศนียภาพที่แตกต่างกัน ป่าหินน้อยมีจุดท่องเที่ยวหลากหลาย ต้องใช้ไกด์ท้องถิ่นเผ่าอีก้ออาข่าเป็นผู้นำทางในแต่ละจุด ต้องใช้เวลาอีกนาน ถ้าอยากจะชมให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นยอดดอกบัว,สระคมดาบ,และภูเขามืดและทะเลไฟ ป่าหินน้อยมีจุดชมวิิวที่น่าสนใจซึ่งมีเสาหินรูปร่างคล้ายหญิงสาวงามของชนเผ่าอี๋คนหนึ่งชื่อ อาซือหม่า ยอดเสาหินในอุทยานเป็นสีเทาอมขาว เวลาฝนตกลงและหยุดลงจะเปลี่ยนสี วันนั้นเรามีเวลาน้อยแล้วมาเจอฝนตกด้วย ต้องเร่งการเดินทางเพื่อขึ้นไปจุดสูงสุดของยอดเขา แล้วมองรอบ ตัวจะเห็นภูเขาแท่งหินเต็มไปหมด มองเห็นน้ำเต้ายักษ์มีแปดเซียนยืนเหาะบนเขา พอลงจากจุดชมวิว ก็เดินทางลงไป ทางเดินบางครั้งคับแคบเตี้ยต้องเดินก้มตัว ลอดถ้ำออกมาสู่เส้นทางเดิน มาถึงภูเขาที่มีน้ำเต้ายักษ์แปดเซียน เป็นจุดนัดพบรวมพลที่นี่ เพราะเป็นสระน้ำแต่ไม่ใหญ่มาก
พอมาถึงจุดนี้ทางป่าหินน้อย เลยปล่อยน้ำตกลงมาเพื่อต้อนรับ คณะทัวร์จากเมืองไทย ชื่นชมความงามของแท่งหินภูเขาย่อมๆกันแล้ว เราจึงต้องกลับออกมาเพราะจะต้องเดินทางไปยังเมืองชิวเป่ย การเดินทางไปพักที่เมืองนี้ อันเป็นที่ตั้งของอุทยานผู่เจ่อเฮย คือเป้าหมายที่เราจะมา สำรวจแหล่งท่องเที่ยวเมืองนี้ ระหว่างทางไปยังเมืองชิวเป่ย เราจึงเห็นวิถีชีวิตของชนพื้นเมืองที่เขาดำรงชีพทางการเกษตร สือหลิน-ชิวเป่ย มีพื้นที่ทางการเกษตร มีการปลูกข้าว-ข้าวโพด-ยาสูบ-ชา-องุ่น-ท้อ สารพัดพืชเพราะพื้นที่ราบลุ่มทางทิศตะวันออกของมณฑลยูนนานอุดมสมบูรณ์มาก แหล่งเพาะปลูกจึงมีมากขึ้นรวมทั้งพืชสมุนไพรขึ้นชื่อลือชาของคุนหมิงมึแหล่งผลิตจากทิศตะวันออก แม้จะมีเขาล้อมรอบก็อุดมสมบูรณ์.