สำรวจเส้นทางคุนหมิง-ผู่เจ่อเฮย ตอนที่ 2
การเดินทางเพื่อไปยังเมืองชิวเป่ย ในอาณาเขตการปกครองของเหวินซาน เมืองชิวเป่ยห่างจากนครคุนหมิง โดยทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงราว 289 กิโลเมตร ส่วนทางรถยนต์ต้องเดินทางมาทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของมณฑลยูนนาน เมืองชิวเป่ยซึ่งมีอุทยานผู่เจ่อเฮย ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยความสวบงามระดับเทพ ไม่แพ้กุ้ยหลินซึ่งมีแม่น้ำบึงขนาดใหญ่นับหลายหมื่นไร่เลย ดินแดนที่ราบสูงชองชิวเป่ย จึงเป็นที่เพาะปลูก ข้าว ,ข้าวโพด , ยาสูบ , องุ่น , ท้อ อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำ ทำการเกษตรได้อย่างดีมากมาย นับว่าเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่กว้างใหญ่ของจีน
เรามาแวะทานข้าวก่อนจะเข้าพักที่โรงแรม ภัตตาคารอยู่ไม่ไกล ทางไกด์จีนบอกว่าที่โรงแรมแห่งนี้ มีอ่างแช่น้ำแร่ไว้ในทุกห้องเลย หรืออยากลงมาแช่ในบ่อน้ำวนรวมก็มาในสปอร์ตคลับได้ เราทานอาหารเสร็จว่าจะเดิินเที่ยวในเมืองบ้าง หลังจากเช็กอินแล้ว พอดีฝนโปรยปรายลงมา เลยอดไปชมเมือง ว่าจะแช่น้ำแร่สักนิดเกรงใจโรงแรมเสียดายน้ำเลยอาบธรรมดาก็พอ คืนนี้พักผ่อนให้สบาย รุ่งเช้ามาประชุมพบปะผู้ประกอบการจากกรุงเทพ-ภูเก็ตและชิวเป่ย แลกเปลี่ยนกันในเรื่องของการท่องเที่ยวที่จะต้องพัฒนาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวไทยในอนาคตใกล้นี้
หลังอาหารเช้า เราไปที่ทำการของการท่องเที่ยวชิวเป่ย ได้รับฟังการบรรยายพื้นที่ว่าผู่เจ่อเฮย เป็นดินแดนที่ราบสูง สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง อากาศเย็นสบายทั้งปี ไม่หนาวมาก มีฝนตกชุกมาก จึงอุดมสมบูรณ์ภายในอุทยานแห่งชาติผู่เจ่อเฮย มีพื้นที่กว้างกว่า 350 ตารางกิโลเมตร มียอดเขาสลับซับซ้อนกว่า 300 ลูก มีบึงขนาดใหญ่ที่เชื่อมกันยาวบนพื่นที่กว่า 50.000 ไร่ มีชนเขามากมายกว่า 7 ชนเผ่าชาติพันธ์ุ ชนชาวเขาเผ่าอีก้ออาข่า , ม้ง , ปกครองมีวิถีชีวิตของแต่ละชนเผ่าแตกต่างกันไป วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละชนก็ต่างกันถ้าอยากศึกษาก็มีที่ให้เรียนรู้ได้
อุทยานแห่งชาติผู่เจ่อเฮย เปิดให้เข้าไปสัมผัสความงามเมื่อยี่สิบกว่าปี จนมีชื่อเสียงในผู่เจ่อเฮยมีเขามากมาย มีถ้ำที่ค้นพบกว่า 80 ถ้ำ การลงเรือที่ท่ามังกรเขียว เพื่อลงเรือพาย ซึ่งนั่งได้ 6 คนมีคนพายเป็นชาวพื้นเมืองอารมณ์ดีในการพาย ระยะทางกว่าห้ากิโลเมตร ต้องผ่านหมู่บ้านชาวเขาตลาดศาลเจ้าลอดสะพานข้ามบึง การพายเรือจะแยกเป็นสองกลุ่มๆที่เล่นน้ำ กับกลุ่มที่ไม่เล่นน้ำ คือ ประเพณีของชนเขาเผ่าอี๋มักจะเล่นสาดน้ำกันในเวลาพายเรือมาเจอกัน จะใช้กระบอกฉีดน้ำยิงใส่กันหรือใช้ขันสาดน้ำไปที่เรือฝ่าตรงข้าม เล่นสงกรานต์น้ำทางเรือดูแปลกตาไป ถ้าใครไม่เล่นใส่เสื้อกันฝนไว้
กว่าจะพายมาถึงอีกฝั่งใช้ระยะเวลาพายนานมาก เรามาถึงบริเวณหน้าถ้ำคบเพลิง ซึ่งเป็นของชนเผ่าอี๋ ที่มีงานประเพณีของเขาในช่วงหนึ่งของปี จะจุดเพลิงเพื่อบูชาความรัก ถ้ำคบเพลิงภายในถ้ำจึงประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสี การจัดวางเส้นทางเดินบางครั้งแคบ บางครั้งต้องก้มต่ำ บางครั้งต้องข้ามสระน้ำภายในถ้ำ การเดินวันเวย์ไม่กลับทางเก่า ภาพที่เราได้เห็นคือแสงสีสวยงามภายใน ถ้ำวิจิตรอลังการมาก เดินนับได้เป็นกิโลทั้งสูงต่ำปีนป่าย มีให้เห็นครบรสกันเลยทีเดียว
ออกจากถ้ำคบเพลิง มาอีกไม่กี่ร้อยเมตรเรามาถ้ำเจ้าแม่กวนอิม ถ้านี้ประดับประดาด้วยไฟแสงสี แต่จุดที่น่าสังเกตคือถ้ำนี้จะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมน้อยใหญ่ วางเรียงรายให้ยก มือกราบไหว้กว่า2.000 องค์ผนังถ้ำยังมีภาพวาดอีกดัวย เดินลัดเลาะไปตามผนังถ้ำอีกไม่นาน ก็มากราบสักการะด้วยธูปยักษ์ที่หน้าถ้ำมีเจ้าแม่กวนอิมอีก สรุปแล้วเป็นถ้ำเจ้าแม่กวนอิม เพราะเข้าปากถ้ำออกจากถ้ำมีแต่เจ้าแม่
คณะเราเดินผ่านตลาดปลาขนาดไม่ใหญ่ของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอาชีพประมง นำปลาและกุ้งตัวโตๆ มาวางขายบางแห่งมีการปรุงอาหารปิ้งย่างกุ้งปูปลาด้วย เราเดินผ่านมาเพราะเรากำลังจะเดินเท้าจากที่นี่ไปยัง เขามังกรเขียว สถานที่ถ่ายทำละครซีรีส์เรื่องยาวของจีน เรื่องสามภพสามชาติดอกท้อสิบลี้ เป็นละครดังทางทีวี ที่สร้างแล้วฉายใน ซีซีีทีวีของจีน ให้สถานที่ในบึงน้ำป่าเขาของเขามังกรเขียวสร้างต้นท้อสีชมพูอมขาวเอาไว้ มองตัดท้องฟ้า ซึ่งมีภูเขาน้อยใหญ่หลายลูกเป็นฉากประกอบอย่างสวยงาม. การเดินทางจากถ้ำเจ้าแม่กวนอิม ผ่านบึงน้ำและเดินเลียบไปตามถนน. ระยะทางไม่น้อยกว่าสามกิโลเมตร ไปกลับคงจะไม่หนีเจ็ดกิโลเมตร ซึ่งทางการท่องเที่ยวชิวเป่ย คงต้องร่วมมือกับทางอุทยานแห่งชาติผู่เจ่อเฮย ยกระดับการท่องเที่ยวที่นี่ให้ก้าวไปสู่ระดับ 5 A หากลดการเดินจากถ้ำเจ้าแม่กวนอิมมาถึงสถานที่ ถ่ายทำละครซีรี่ส์เรื่องยาว ซึ่งบริเวณนี้คือไฮไลท์จุดขายที่แสนสวยงดงามมาก ฉากหลังมีท้องน้ำ ภูเขา ต้นดอกท้อ บึง มีความสมบูรณ์สวยงาม. ถ้าอำนวยความสะดวกมีรถกอล์ฟหรือรถม้าวิ่งเข้าไปถึงสถานที่แห่งนั้น ในเมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมทั้งวัน ควรอำนวยความสะดวกให้มากกว่านี้คงดีไม่น้อย
ก่อนเดินทางกลับ เราแวะมาทางด้านหน้าอุทยานผู่เจ่อเฮย ซึ่งเป็นบึงขนาดใหญ่ที่ทอดยาวต่อเนื่องกันมา บริเวณนี้จะมีบัวสายพันธ์ุต่างๆมากกว่า 27 สายพันธ์ุขึ้นเต็มไปหมดและทางชนเผ่าอีก้อ ชนเผ่าอี๋จะทำสะพานยื่น ยาวออกไปกลางบึงบัว เพื่อเป็นจุดชมบัวและเอาไว้ถ่ายรูปบัวในบึง ซึ่งมีภูเขาสูงต่ำสลับฉากกันอย่างสวยงามในยามเย็นใกล้พระอาทิตย์ตก เป็นอีกจุดชมวิวที่มีชาวเขาเอาเม็ดบัวลูกเป้งๆ ปลาแห้งกุ้งแห้งมาวางขายให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดมือกลับไปบ้าน
จนถึงเวลาอันสมควร เราจะเดินทางกลับเข้าเหวินซาน ไปเมืองชิวเป่ยเพื่อทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารเก่าแก่ของท้องถิ่นนี้ ชิมอาหารประจำถิ่นที่แสนอร่อยในหน้าฝนที่มี สายฝนโปรยปรายเป็นระยะให้เกิดความเย็น ไม่ร้อน เราพักในชิวเป่ยอีกคืน พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับคุนหมิงเพื่อไปสัมผัสกับน้ำตกฝีมือมนุษย์สูงกว่า 12 เมตรยาวกว่า 400 เมตรในสวนสาธารณะของนครคุนหมิง อดใจรอพรุ่งนี้เราจะกลับคุนหมิงแล้ว.
