หนังดีติดดาว***
จากนิยายสยองขวัญ Best seller ชื่อดังของปรมาจารย์นักเขียนเจ้าของฉายา “สตีเฟ่น คิง เกาหลี” สู่จอยักษ์เรื่อง “Contorted บ้านขังผี” ภาพยนตร์เกาหลีที่จะทำให้บ้านในฝันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นำคุณหลอนโดย คิมมินแจ, ซอยองฮี กับเรื่องราวของครอบครัว ฮยอนบิน (คิมมินแจ) ที่พาภรรยาและลูกสาวย้ายเข้าสู่บ้านหลังใหม่ที่ห่างไกลผู้คน เพื่อให้เป็นบ้านแสนสุข แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดังที่หวังเมื่อ มยองฮเย (ซอยองฮี) เริ่มฝันร้ายและได้ยินเสียงแปลกประหลาดจากห้องเก็บของ ไม่นานความหลอนก็คืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ จนทำให้ครอบครัวนี้เหมือนตกนรกทั้งเป็น!
หนังโยนปริศนาใส่คนดูทันทีที่เริ่มเรื่อง ด้วยข้อมูลของตัวละครหลักอย่างกระท่อนกระแท่น เป็นการสร้างความอยากรู้อยากเห็นได้ดี จากบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความสยองขวัญสั่นประสาทที่มาในรูปแบบตุ้งแช่ ที่มาเยอะจนน่ารำคาญมากกว่าน่ากลัว แต่ปมที่ผูกไว้จะค่อย ๆ คลายมาทีละนิด แต่เอาจริง ๆ ก็พอเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร น่าเสียดายสิ่งที่หนังเก็บไว้เฉลยในตอนท้ายคือ ‘ไม่เซอร์ไพรส์’ เพราะมองออกตั้งแต่แรกแล้ว แถมยังมีหลายอย่างที่ผูกปมไว้แล้วคลายออกมาไม่เคลียร์ มีความไม่สมเหตุสมผลในแรงจูงใจถึงการกระทำบางอย่างของตัวละครที่เห็นแล้วคือมันไม่ปกตินะ แต่ทำไมตัวละครถึงปล่อยผ่านไปเฉย ๆ ล่ะ โดยรวมแล้วน่าผิดหวังและไม่สมราคาคุยที่บอกว่าหนังสร้างมาจากปลายปากกาของ Stephen King แห่งเกาหลีใต้เลยจริง ๆ
ติดให้ *
“The Burning Sea มหาวิบัติหายนะทะเลเพลิง” ถ่ายทอดเรื่องราวสุดระทึกนาทีต่อนาที ของมหันตภัยแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลเหนือ ที่เกิดพังทลายลงมาเพราะสาเหตุจากพื้นมหาสมุทรแอตแลนติกเกิดรอยร้าว จนเปลวเพลิงลุกลามไปทั่วท้องทะเล และการระบิดครั้งนี้ได้นำไปสู่ภารกิจเดิมพันชีวิตที่อันตรายยิ่งกว่าของนักวิจัยสาว โซเฟีย (คริสติน คูยาธ ทอร์ป) ที่ต้องออกตามหาผู้รอดชีวิตจากมหาวินาศครั้งนี้ใน “ทะเลเหนือ” ที่อุณหภูมิเย็นยะเยือก แล้วยังขึ้นชื่อเรื่องความดุร้ายของแรงพายุและคลื่นลมที่โหมกระหน่ำอยู่ตลอดเวลา
เป็นหนังจากประเทศนอร์เวย์ ชอบแนวคิดที่นำเอาอุปกรณ์สำรวจใต้ทะเลรูปร่างคล้ายงู มานำเสนอดูล้ำและแปลกตาดี แม้ดาราไม่คุ้นตาเพราะไม่ใช่ฝั่งฮอลลีวูด แต่ก็เล่นได้เนียนกับบทเจ้าหน้าที่สำรวจ ซึ่งตัวละครถ่ายทอดอารมณ์ออกมาให้เชื่อว่าเข้าไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นด้วย ส่วนเนื้อเรื่องและแบ็คกราวน์หนังที่เกี่ยวกับแท่นขุดเจาะน้ำมันทำได้ดี ดูสมจริง รู้สึกถึงความอันตรายในการทำงานสมจริงมาก ลุ้นระทึกไปกับภารกิจกู้ชีพและความกดดันเรื่องเวลาที่มากับภัยธรรมชาติ ชอบมากตรงผู้กำกับให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเด็ก ผลกระทบที่ลูกต้องสูญเสียพ่อไปกับงานที่ต้องทำ สื่อเรื่องผลกระทบต่อจิตใจเด็ก ๆ ได้ดีมาก และให้แง่คิดเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติแบบไม่ยั้งคิดจนส่งผลตามมาในอนาคต สะเทือนไปทั้งทวีป แม้นักแสดงไม่พูดภาษาสากลแต่อารมณ์ที่สื่อออกมาได้ดีรวมถึงพล็อตเรื่อง
ติดให้ ***
เอ็ม พิคเจอร์ส มาพร้อมพ่อบ้านสุดเก๋า “The Way of the Househusband พ่อบ้านสุดเก๋า เดอะมูฟวี่” เมื่อ “ทัตซึ คนอมตะ” (ฮิโรชิ ทามากิ) พ่อบ้านสุดแกร่งผู้เป็นอดีตยากูซ่าตัวเป้ง ต้องหวนคืนสู่สังเวียนเพื่อร่วมศึกประชันเสียงหัวเราะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด กับมาเฟียสไตล์อิตาลีจอมโหด “คอนโดะ” (โคทาโร่ โยชิดะ) ที่เข้ามากว้านซื้อที่ดินในเมืองนี้และหวังจะซื้อที่ดินของสถานเลี้ยงเด็กคาริว ทำให้คนจริงอย่างทัตซึนั้นยอมไม่ได้ งานนี้จึงต้องผนึกพลังกับเกลอเก่าสุดกวนอย่าง “มาสะ” (จุน ชิซง) ลูกน้องผู้ภักดี, “โทระจิโร่” (เคนอิจิ ทาคิโตะ) อดีตยากูซ่าสายบู๊ที่กลายเป็นคนขายเครป และ “โคฮารุ” (มาริกะ มัตสึโมโต้) น้องสาวตัวแสบของโทระจิโร่ ที่เป็นอดีตหัวหน้าแก๊งนักเลงมาช่วยกันหยุดยั้งสงครามแห่ง ‘งานเทศกาลฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์’ จึงเปิดฉากขึ้น
หนังมีต้นฉบับเป็นมังงะและมีการทำเป็นซีรีส์มาก่อน พอมาเป็นหนังก็ยังคงความเป็นมังงะแบบหลุดโลกโดยไม่สนในหลักการหรือเหตุผลใด ๆ ในการเล่าเรื่องและปล่อยมุก ตัวละครหลักและตัวละครรองที่ออกแบบมาได้อย่างบ้าบอคอแตกขั้นสุดไปจนถึงเรื่องราวที่กาวหนักมาก ส่วนพล็อตเรื่องค่อนข้างสับสนและวุ่นวาย เพราะตัวละครเยอะแถมยังมีการผูกปมและสร้างสถานการณ์ที่ปั่นป่วนให้ตัวละครต้องเผชิญเยอะเลยกลายเป็นทุกอย่างมันถูกตีและคนให้ปนกันจนดูแล้วเหนื่อยแทนตัวละคร แต่ด้วยความที่เป็นหนังเน้นเบาสมอง ทุกอย่างมันก็เลยออกไปในทางทีเล่นทีจริงไปจนถึงละเลยเหตุและผลทั้งมวลแบบที่มังงะเรื่องนึงควรจะมี แต่ก็มีประเด็นที่ดีมากแฝงอยู่ โดยพูดถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ที่ยกครอบครัวเป็นแกนสำคัญที่สุดของสังคม ไม่ว่าข้างนอกจะเป็นอย่างไรแต่ถ้าข้างในบ้านเข้มแข็ง สมาชิกของครอบครัวก็จะมีที่ให้กลับไปพักพิงกายพักพิงใจ แล้วหนังได้ทีมงามพันธมิตรพากย์ทำให้ดูสนุก ก็ต้องยอมรับในฝีไม้ลายมือของทีมพากย์นี่แหละเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาความขำให้ทวีคูณขึ้น
ติดให้ * ครึ่ง
“ใจฟู สตอรี่” ที่นำแสดงโดย พชร จิราธิวัฒน์, ภัณฑิรา พิพิธยากร, ณัฏฐ์ กิจจริต, เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ผลงานการกำกับของ พฤกษ์ เอมะรุจิ กับเรื่องราวของคน “ใจฟีบ” ที่ต้องให้ความรักช่วยแก้ให้ “ใจฟู” กับความรักสุดฟิน สุดฟูของ 5 คู่หนุ่มสาว กับ ตอน คนแปลกหน้า “เดี่ยว” หนุ่มคนเขียนบทหนังผู้ไม่พิสมัยตอนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง กำลังรู้สึกตีบตันเมื่อต้องทำงานทั้ง ๆ ที่แม่ป่วยหนักอยู่ใน ไอ.ซี.ยู. ได้เจอกับ “บัว” ที่ต้องมาเฝ้าไข้เหมือนกัน จากคนแปลกหน้าที่ดูประหลาดปนน่ารัก เธอกลายมาเป็นเพื่อนคู่คุยคู่คิดที่ช่วยทำให้บทหนังและหัวใจของเดี่ยวเปลี่ยนไป, ตอน คนตรงข้าม “โขม” หนุ่มวัย 30 นิด ๆ เป็นฝ่ายไอทีของบริษัทที่หยุดทำงานมาหลายวัน โขมชอบเล่นเกมและชอบการเอาชนะในทุก ๆ เรื่อง จึงพนันกับ “กอล์ฟ” เพื่อนร่วมงานว่าเขาจะทนอุดอู้อยู่ในคอนโดได้ครบ 14 วันหรือเปล่า และเขาก็ทำกิจกรรมไปเรื่อยจนลามไปถึงการใช้โดรนออกไปซื้ออาหาร แต่โดรนดันบินพุ่งไปที่ระเบียงห้องตึกตรงข้าม ซึ่งเป็นห้องของ “จิงจิง” โขมจึงจีบจิงจิงให้ได้ภายในเวลาไม่เกิน 14 วัน เพราะพนันกับเพื่อนถ้าเขาชนะจะได้เงิน 2 หมื่น พร้อมเบียร์อีก 3 ลัง และโขมผู้ชอบเอาชนะจึงตัดสินใจทำบางสิ่งโดยไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์จะลงเอยอีท่าไหน?, ตอน คนข้างบ้าน “เต๋อ” กับ “ชาเย็น” นักเรียนชั้น ม.ปลายบ้านอยู่ติดกัน แต่ที่ต่างกันราวกับอยู่คนละมิติ ชาเย็นเป็นเด็กเรียนดีมีรูปโชว์ขึ้นป้ายหน้าโรงเรียนตลอด ในขณะที่เต๋อก็ดังในด้านความไม่เอาอ่าว แถม “ครูนภาพร” ผู้เป็นทั้งแม่เต๋อและครูสอนภาษาไทยคอยจะเปรียบเทียบเขากับชาเย็นจนเต๋อเซ็งบ่อย ๆ แต่เมื่อชาเย็นได้รับทุนพิเศษไปเรียนที่จีน 3 เดือน ก่อนไปเธอขอให้เขาช่วยไปดูแลอาม่าที่ต้องอยู่บ้านตามลำพัง และแล้วเต๋อก็เกิดความรู้สึกดี ๆ กับชาเย็นโดยไม่รู้ตัว, ตอน คนที่เกลียด “อ๊อด” หนุ่มวัย 20 ต้น ๆ อดีตเด็กแว้นที่ผันตัวมาเป็นไรเดอร์ส่งของเพื่อเลี้ยงดูพ่อที่ขับแท็กซี่ที่กำลังป่วยหนัก และน้องสาววัยประถมต้น อ๊อดเชื่อเอาเองว่าเขาคือมือวางอันดับ 1 ในการรับ-ส่งของยามนี้ แต่แล้วความเชื่อของอ๊อดก็พังทลายลง เมื่อวันหนึ่งอ๊อดได้เจอกับ “สาวลึกลับ” ที่เป็นไรเดอร์สาวคู่แข่ง พวกเขาท้าซิ่งแข่งกันทุกวันจนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ประหลาด โดยที่อ๊อดก็ยังไม่เคยเห็นหน้าคู่แข่งเลยด้วยซ้ำ, ตอน คนแอบชอบ “เสือ” หนุ่มวัย 24 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อ เขาชอบทำงานกะกลางคืนเพราะลูกค้าน้อย และได้เจอ “จ๋า” พยาบาลสาว ที่มักจะมาขอคำแนะนำจากเสือว่าจะซื้ออะไรไปเป็นของฝากให้ “หมอหนุ่ม” หมอฟันที่จ๋าแอบรักอยู่ โดยที่จ๋าไม่รู้เลยว่า เสือก็แอบรักจ๋าอยู่อีกทีเช่นกัน
ชอบความฉลาดในการเขียนบทที่เอาบทหนังมาทับซ้อนกันไว้ในหนังอีกที แล้วเดินเรื่องไปข้างหน้าผ่านเรื่องสั้น 4 เรื่องที่พูดถึงความรักที่แตกต่างกันไปตามวัยของตัวละครในแต่ละเรื่อง โดยเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกันเลยแต่ใช้ 1 เรื่องเป็นแกนกลางในการควบคุมทิศทางและการเคลื่อนที่ของเส้นเรื่อง สำหรับความรักก็มีทั้งน่ารักกุ๊กกิ๊กตามประสาวัยรุ่น บ้างก็มีความจริงจังเพราะตัวละครเป็นวัยทำงาน บางอันอาจจะไม่ค่อยสมเหตุผลหรือเหนือจริงไปบ้าง ไม่ก็โอเวอร์เกินเหตุไปนิด โดยรวมหนังมีโลกสีชมพูเกินเบอร์ แต่หนังก็มีบาดแผลหลายอย่างและหลายครั้งที่ทำให้อารมณ์สะดุดและไปไม่สุด ทว่าชอบการถ่ายภาพและจัดแสง คือบางฉากเห็นแล้วตกใจในความสวยของแสง โปรดักชันรวม ๆ ก็โอเคไม่มีหลอกตาว่าปลอม เรื่องนักแสดงก็สอบผ่านทุกคน ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักที่ถ่ายทอดมุมมองความรักในแต่ละรูปแบบออกมาได้น่าสนใจ และตัวละครรองบางตัวออกมาสร้างสีสันพร้อมขโมยซีนได้อย่างน่ารักน่าจดจำ
ติดให้ ****
มงคลภาพยนตร์ ส่งภาพยนตร์กรีดหัวใจเรื่อง “Wandering “รัก” พาตัว” ที่ได้นักแสดงมากฝีมือมาถ่ายทอดอารมณ์กินใจผู้ชม อย่าง ซึสึ ฮิโรเสะ และ โทริ มัตสึซากะ ร่วมด้วย ริวเซย์ โยโกฮามะ ผลงานกำกับฯ และเขียนบทโดย อีซางอิล กับเรื่องราวของ ซาระสะ เด็กสาวที่มีเหตุให้ไม่อาจกลับบ้านได้กับ ฟูมิ นักศึกษาชายผู้โดดเดี่ยวที่ชวนเด็กสาวกลับบ้านตนด้วยกัน เมื่อฤดูร้อนแสนสุขที่ทั้งคู่ต่างได้พบกับที่พักพิงใจจบลง ฟูมิกลับกลายเป็น ผู้ต้องหาคดีลักพาตัว ส่วนซาระสะกลับกลายเป็น สาวผู้เคราะห์ร้าย หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป 15 ปี ทั้งคู่กลับมาพบกันโดยบังเอิญ ข้างกายทั้งคู่ต่างมีคนรักอย่าง เรียว และ ทานิ อยู่แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้เจาะลึกถึงจุดลึกที่สุดของมนุษย์
หนังขยับเส้นเรื่องพร้อมกับตัดสลับเหตุการณ์ในอดีตเข้ามาเป็นระยะ โดยทั้ง 2 เส้นเรื่องนี้จะค่อย ๆ เติมเต็มเรื่องราวระหว่างกัน โดยประเด็นพูดถึงความรักต้องห้ามระหว่างผู้ชายวัยหนุ่มกับเด็กผู้หญิงวัยแรกแย้ม ที่ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไป 15 ปี ฝ่ายชายเป็นหนุ่มเต็มตัวและฝ่ายหญิงก็เป็นสาวสะพรั่งแล้วก็ตาม แต่ด้วยชนักติดหลังคนทั้งสองกับเรื่องราวในอดีตที่กลายเป็นข่าวดังไปทั้งประเทศ ทั้งคู่จึงถูกสังคมตีตราซ้ำเมื่อเป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่ได้รับความเห็นใจ ซึ่งหนังยังพูดถึงความรัก 2 รูปแบบ หนึ่งคือคู่ที่ตัดสินใจอยู่กินด้วยกันก่อนแต่งงาน อีกหนึ่งคู่ที่ไปมาหาสู่กัน แต่ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหน ต่างก็มีปัญหาที่แตกต่างกันไปทั้งนั้น และมันก็เป็นเรื่องของคน 2 คนที่จะต้องช่วยกันแก้ไป แต่ตัวแปรก็อาจจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ฯลฯ ที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา ซึ่งเป็นหนังดีแต่ดูไม่สนุก ยิ่งดูจิตใจยิ่งดำดิ่งลงไปเรื่อย ๆ จากรายละเอียดที่หนังใส่เข้ามาและตัว“ซึสึ ฮิโรเสะ”และ “โทริ มัตสึซากะ” ก็ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้น่าสงสาร ดูไปก็ลุ้นและสงสารพวกเขา บทสรุปความรักยิ่งใหญ่กว่าทุกอุปสรรคแม้แต่ร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของพระเอก
ติดให้ **** ครึ่ง
