วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2565 ณ โรงแรมอมารี (ห้องดอนเมืองบอลรูม) ดอนเมืองแอร์พอร์ต ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ได้มีการจัดงานประทานรางวัลญาณสังวร “คนดีศรีแผ่นดิน” งานประกาศรางวัลเกียรติคุณคนดีของแผ่นดินตามรอยพระยุคลบาท ครั้งที่ 11 ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยมีพลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ในรัชกาลที่ 9 ประธานอำนวยการโครงการ หม่อมหลวง ชาญโชติ ชมพูนุช เป็นประธานพิธีมอบ
ภายในงานพิธีมอบรางวัลได้มีแขกผู้มีเกียรติเดินทางเข้าร่วมงานเพื่อรับมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง และในครั้งนี้ได้มี นางสาวสิริภา สัจจเดชะ ได้เข้าร่วมรับรางวัล “แก้วมณีเมขลา” “เยาวชนดีเด่นแห่งชาติ” พร้อมด้วย นางสิริยา สัจจเดชะ (มารดา) รับรางวัลญาณสังวร “คนดีศรีแผ่นดิน”
นางสาวสิริภา สัจจเดชะ อายุ 29 ปี ผู้ได้รับรางวัล “แก้วมณีเมขลา” “เยาวชนดีเด่นแห่งชาติ” ประจำปี พ.ศ. 2565 จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ภาคอินเตอร์ฯ จากนั้นได้ไปเรียนหลักสูตรปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษสาขาบริหารธุรกิจ และได้กลับมาประเทศไทยในปี พ.ศ. 2560 เริ่มรับราชการในกระทรวงศึกษา ต่อจากนั้นได้กลับมาช่วยงานกับคุณพ่อที่เปิดสำนักงานกฎหมายดูแลด้านที่ปรึกษาทางธุรกิจจนถึงปัจจุบัน
โดยส่วนตัวน้องสิริภา เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนชอบทำบุญเป็นประจำ ในยามว่างจะชวนคุณแม่ออกทำบุญช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส อย่างเช่น ได้เลี้ยงอาหารกลางวัน ได้เล่นกับเด็ก ซื้อของเล่นไปมอบให้กับสถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญาจังหวัดราชบุรี หรือในช่วงสถานการณ์โควิดปีที่ผ่านมาได้ร่วมบริจาคเงินให้กับสภากาชาดไทยเพื่อนำเงินไปพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด แม้ว่าจะเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อยที่เรามี แต่ทุกครั้งที่ได้ร่วมทำบุญจะเป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมเสมอมาโดยมิได้คาดหวังหรือมุ่งหวังผลตอบแทนแต่ประการใด คิดแต่เพียงว่าเป็นเพียงกำลังเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคนหรือกลุ่มคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ และทุกครั้งที่มีการทำบุญถือเป็นกิจกรรมที่ได้ร่วมกันกับครอบครัวทั้งคุณพ่อและคุณแม่มาโดยตลอด
นอกจากชีวิตการทำงานที่ทำอยู่ประจำและเวลาส่วนหนึ่งที่ทำกิจกรรมด้านการกุศลกับครอบครัวแล้ว ในยามว่างยังให้ความสนใจในการเล่นกีฬาโดยเฉพาะบาสเก็ตบอล และมวยไทยเพื่อเป็นการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ท้ายสุดนี้นางสาวสิริภา สัจจเดชะ ได้ฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ว่า “เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่ในสังคมรอบตัวเราที่เข้ามาอย่างรวดเร็วและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คนรุ่นใหม่ทำอะไรส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยีผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในการแชร์เรื่องราวประสบการณ์ต่าง ๆ มองว่ากิจกรรมใดที่สามารถทำให้เกิดคุณประโยชน์ต่อสังคม ขอให้ช่วยกันแชร์ส่งต่อพิกัดจุดที่ต้องการความช่วยเหลือให้มากที่สุดคือการใช้เทคโนโลยี่ได้อย่างมีคุณค่า พร้อมกันนี้ดีที่สุดคือการได้ร่วมกันทำความดีโดยอย่าไปหวังผลตอบแทนที่จะได้กลับมา เพราะเมื่อได้ทำแล้วด้วยใจอันบริสุทธิ์ที่แท้จริงความสุขที่เรามีแก่ใจก็จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้สัมผัสมากับตัวเองแล้ว”
สำหรับงานประทานรางวัล “ญาณสังวร” (ญสส.) ได้จัดขึ้นเพื่อมอบแก่ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทั้งคณะสงฆ์และฆราวาส ที่ปฏิบัติดี ประพฤติชอบ มีคุณธรรม จริยธรรม ได้เสียสละอุทิศตนเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวมและประเทศชาติ เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เพื่อปลูกฝังให้คนไทยเกิดการพัฒนาตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ ร่วมสานพลังขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมแห่งสันติสุขอย่างยั่งยืนและเป็นแบบอย่างแห่งการดำเนินชีวิตที่มีคุณค่าของคนดี และเป็นแรงบันดาลใจในการทำความดีสืบไป