หนังดีติดดาว
“แถวตรง แสบอีหลี” ของบริษัท 888 ร่ำรวย จำกัด กับการกำกับเรื่องแรกของผู้กำกับหญิงตัวเล็ก หน้าใหม่ “มินทร์ธิรา ธีรภูมิรัชพงศ์” หรือที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการจัดทำและติดตามการบริหารงานงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร งานนี้ได้นักแสดงอาทิ น้องอินเตอร์ รุ่งรดา, ตูมตาม ยุทธนา, แช็ค ชุมแพ, นะโม ธันวาพร, ดาว สเตลลา, น้องแคนดี้ สุภาภัสสร์ ซึ่งเป็นหนังเล็ก ๆ ที่เล่าเรื่องราวของโรงเรียนในชนบทแห่งหนึ่งที่ขาดแคลนครู จนทำให้เด็กเล็กและเด็กโตต้องมาเรียนรวมกันแบบไม่มีความสามัคคีเลย ทำให้บรรดาครูเลยจัดกิจกรรมเข้าค่ายกลางป่า เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่รุ่นพี่รุ่นน้องให้เกิดขึ้น แต่กลายเป็นว่าเด็ก ๆ ดันไปตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของโจรกับทหาร จนทำให้ทุกคนต่างก็หนีเอาตัวรอด ครูก็เลยต้องออกตามหา จนเกิดเรื่องวุ่นวายตามมา
สำหรับหนังคุณภาพการผลิต โดยรวมคือประมาณพวกหนังแผ่น เช่นฉากเข้าป่า แต่ป่ามีต้นเข็มที่ตัดแต่งสวยงาม ฉากสวนครัวในโรงเรียน แต่ป้ายชื่อสถานที่ถ่ายทำของจริงแขวนอยู่หราเลยนั่น screenplay พังพินาศ เรื่องราวเละเทะ เส้นเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบคือไม่มีและไม่สมเหตุผล ส่วนแอ็กชันฝั่งผู้ใหญ่คือเล่นเบอร์เกินจนน่ารำคาญ แถมนักแสดงบางคนก็เล่นได้แข็งมาก คิวบู๊ดูปลอมหนักมาก ส่วนฝั่งนักแสดงเด็กก็น่ารักกุ๊กกิ๊กไปตามวัย มุกตลกออกแนวใส ๆ ไร้พิษภัย แต่มุกฝั่งผู้ใหญ่ก็สองแง่สองงามไปจนแตะความลามกจกเปรต อีกทั้งมุก body shaming ที่ล้าสมัยก็ยังยัดเข้ามาโดยไม่สนโลกว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว หนังใช้คนมีชื่อเสียงที่มีทั้งดาราที่ไม่ค่อยมีผลงานให้เห็นแล้ว และมีไฮโซสายฮามารับบท cameo ที่เน้นความเฮฮาที่ไม่ได้มีผลอะไรกับเรื่องหลายคน แต่ก็ตลกนะ จนบางคน บางฉากคือขโมยซีนไปยาว ๆ แต่หนัง
ไม่ติดสักดาว
คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “แถวตรง แสบอีหลี” : ผู้กำกับเรื่องนี้ชื่ออะไร?
ทราบคำตอบเขียนใส่ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรศัพท์และคำตอบให้ชัดเจน ส่งมาที่
คอลัมน์ #หนังดีติดดาว
32/15 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ขอขอบคุณ “บริษัท 888 ร่ำรวย จำกัด” ที่สนับสนุนรางวัลทายปัญหา 5 รางวัล
New Line Cinema ปลุกฮีโร่สุดแกร่ง “Black Adam” นำแสดงโดย “ดเวย์น จอห์นสัน” ในบท Black Adam ซึ่งเกิดเรื่องราวที่คาห์นดักในอดีต เทธ อดัม ได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้า แต่หลังจากใช้พลังนั้นไปกับการล้างแค้น เขาถูกกักขังและกลายเป็น ‘แบล็ค อดัม’ เวลาผ่านไปเกือบ 5,000 ปี แบล็ค อดัมกลายร่างจากมนุษย์สู่เรื่องเล่าและตำนาน จนตอนนี้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมที่มาจากความโกรธแค้น และถูกฮีโร่รุ่นใหม่ในแวดวงแห่งความยุติธรรมเข้ามาท้าทาย ไม่ว่าจะเป็น ฮอว์คแมน, ดร.เฟท, อะตอม สแมชเชอร์ และ ไซโคลน
โดยหนังเล่าเรื่องได้สนุกในตัวของมันเอง ตัวละครค่อย ๆ เปิดออกมาทีละตัว เป็นสองเส้นขนานที่ดึงดูดความสนใจและรู้สึกน่าติดตามได้ดีพอสมควร แต่กับตัว Black Adam ซูปเปอร์ฮีโร่หนังใช้เวลากับตัวละครนี้เยอะจนทำให้ตัวละครออกมาดูมีมิติมากกว่าตัวละครรอง ที่มาในทรงไม้ประดับแต่ทว่ากลับเริ่มมีบทบาทมากขึ้นจนทำให้ตัว Black Adam ถูกแย่งซีนไปบางช่วง สำหรับบทหนังรวม ๆ แล้วมุ่งไปทางจะขายแอ็กชันมากกว่าขายดรามา การสร้างมิติให้ตัวละครหลักด้วยการขยี้เรื่องส่วนตัวและปูมหลังก็เลยไม่ค่อยเป็นผลเท่าไร เพราะโดนความเท่ในฉากแอ็กชันที่ตั้งใจสโลว์และฟรีซภาพเพื่อขายความเท่และความสะใจแทนดรามาไปเสีย ซึ่งเชื่อว่าคนก็อยากดูแอ็กชันเยอะ ๆ ด้วยแหละ แล้วหนังก็มีความเป็น stand alone สูงมาก ต่อให้ไม่เคยดูหนังในจักรวาล DC ที่เจ๊งกระบ๊งไปแล้วและพยายามจะฟื้นคืนชีพให้อยู่เลยสักเรื่องก็ยังสามารถดูหนังเรื่องนี้ได้สบาย ๆ แต่เพื่ออรรถรสในการชม แนะนำว่าทำการบ้านด้วยการดู Shazam เรื่องนึงก็พอแล้ว
ติดให้ ****
คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “Black Adam” : ใครรับบทเป็น ‘แบล็ค อดัม’?
ทราบคำตอบเขียนใส่ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรศัพท์และคำตอบให้ชัดเจน ส่งมาที่
คอลัมน์ #หนังดีติดดาว
32/15 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ขอขอบคุณ “วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส” ที่สนับสนุนรางวัลทายปัญหา 4 รางวัล
“TRI ANGLE OF SADNESS มัน ยอร์ช มาก” ผลงาน รูเบน ออสต์ลุนด์ ผู้กำกับชาวสวีเดนที่เก่งกาจการทำหนังที่พูดถึง “จุดอ่อน” ของมนุษย์ ที่พูดถึง คาร์ล กับ ญาญ่า กำลังสำรวจโลกแห่งวงการแฟชั่นไปพร้อม ๆ กับขอบเขตความสัมพันธ์ของพวกเขาเอง ทั้งคู่ได้รับเชิญให้ลงเรือลำหรู ที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารระดับไฮคลาสและทรงอิทธิพลมากมาย เมื่อเรือแล่นออกสู่ท้องทะเล ก็ดูเหมือนว่าพายุกำลังค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น คลื่นลมทะเลทำให้คนทั้งลำเรือมีอาการเมาคลื่น และกระทบต่อมื้ออาหารค่ำ ทำให้กัปตันสั่งให้ปิดฉากโปรแกรมท่องเรือครั้งนี้ ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะพบว่าถูกทิ้งเอาไว้บนเกาะร้างที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีกับบริกรอีกหนึ่งคน และดูเหมือนว่ามีบริกรเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่รู้จักวิธีจับปลาและเอาตัวรอดจากวิกฤตติดเกาะครั้งนี้
หนังแบ่งเป็น 3 องค์ และเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลัก 2 ตัว คือ นายแบบ และ อินฟลูเอ็นเซอร์ ที่เป็นแฟนกัน ที่ทั้งคู่ต้องมารู้จักกับคนอีกกลุ่มหนึ่งบนเรือ ที่ออกแบบตัวละครรองชุดนี้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ แล้วใช้ประโยชน์จากตัวละครรองชุดนี้ได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งหนังมีความยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยส่วนตัวรู้สึกว่ายาวเกินไป เพราะว่าหลายช่วงหลายตอนที่จังหวะการเล่าเรื่องแผ่วลง แล้วยิ่งเป็นหนังที่เดินเรื่องด้วยบทสนทนาด้วยนะ รู้สึกอึดอัดไปจนเกือบจะรำคาญในบางช่วงทีเดียว มีช่วงหนึ่งที่นำเสนอภาพและเสียงที่ชวนคลื่นเหียนอาเจียน สุดท้ายแล้วถ้าถอดสิ่งสมมติทั้งหมดออกไป มนุษย์เรามันก็เท่าเทียมกันทั้งสิ้น หนังมีความตลกร้าย เสียดสี จิกกัด ประชดประชันในหลายประเด็น ทั้งเรื่อง ชนชั้น เพศสภาพ ฐานะความเป็นอยู่ หน้าที่การงาน การเมืองการปกครอง แต่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ Palme d’Or มาจาก Cannes Film Festival 2022 และว่ากันว่าจะเป็นตัวเต็งในเวที Oscar
ติดให้ **** ครึ่ง
“OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ” หนัง ‘รอ’แมนติก ‘คอย’เมดี้ เรื่องล่าสุดของ “จีดีเอช” นำแสดงโดย สกาย-วงศ์รวี นทีธร (จากละคร My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน), จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน (จาก ฉลาดเกมส์โกง) กับเรื่องราวของ กาย (สกาย-วงศ์รวี) ที่ดันไปตกหลุมรัก จูน (จูเน่-เพลินพิชญา) หญิงสาวที่ดันมีแฟนอยู่แล้ว เขาจึงรอจังหวะที่จูนโสดเพื่อเข้าหา แต่พอจูนเลิกกับแฟน กายก็ดันมีแฟนซะอย่างนั้น จนดูเหมือนว่าพระเจ้าคอยกลั่นแกล้งให้ผิดที่ผิดเวลาอยู่ตลอด กระทั่งวันหนึ่ง กายจึงตัดสินใจว่าจะลองเดินหน้าสู้กับพระเจ้าดูสักตั้ง เรื่องราวความรักของคนสองคนที่จังหวะไม่เป็นใจจึงเริ่มต้นขึ้น
หนังใช้สูตร โรแมนติกคอมเมดี้ และความฟีลกูดตามสไตล์ GDH ที่ผสมความน่ารัก ความสนุกสนาน และโศกเศร้าปรุงให้รสชาติกลมกล่อมพอดี ซึ่งไทม์ไลน์ความรักของ กาย และ จูน ครอบคลุมช่วงชีวิตวัยเรียนมหาวิทยาลัยไปจนถึงวัยทำงาน ที่ให้ภาพความรักวัยเรียนน่ารัก สดใส แซมด้วยปมปัญหาที่ตัวละครต้องเจอและแก้ไข จนก้าวสู่วัยทำงาน โทนในการนำเสนอความรักก็เปลี่ยนไปเป็นจริงจังและหนักหน่วงมากขึ้น ปมและปัญหาที่คาราคาซังมานานก็ปะทุและระเบิดเอาในช่วงนี้ มีดรามาหนักจัด มีตัวละครรองและตัวประกอบที่เป็นกลุ่มเพื่อน สมาชิกในครอบครัว บทไม่ได้เด่นแต่เป็นการสร้างมิติให้กับเรื่องราวได้ดี แล้วเส้นเรื่องที่ลากยาวจากวัยเรียนมาสู่วัยทำงานตัวละครผ่านความสมหวังและความเจ็บปวด ตลอดจนความล้มเหลวและความสำเร็จทำให้ กาย และ จูน ได้เข้าใจความรักในโลกแห่งความเป็นจริงที่ว่า รักในวัยเรียนคือ ความรักที่สดใสและโลกสวย ทุกอย่างดูดีมีความหวัง แต่รักในวัยทำงานคือ ความรักที่ต้องผ่านบททดสอบจากชีวิตจริง นี่คือภาพสะท้อนของความรักที่ชัดเจนมาก ๆ ว่าคู่ไหนจะไปรอด คู่ไหนจะไปร่วง
ติดให้ ****
คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ” : พระเอก-นางเอกในเรื่องชื่อจริงว่าอะไร?
ทราบคำตอบเขียนใส่ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรศัพท์และคำตอบให้ชัดเจน ส่งมาที่
คอลัมน์ #หนังดีติดดาว
32/15 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ขอขอบคุณ “จีดีเอช” ที่สนับสนุนรางวัลทายปัญหา 3 รางวัล
มงคลภาพยนตร์ ต้อนรับฮาโลวีนด้วยภาพยนตร์เรื่อง “Prey for the Devil สวดส่งไปลงนรก” กับการต่อกรกับปีศาจร้ายในหนังสยองขวัญแห่งปีผลงานขวัญผวาจาก “แดเนียล สแตมม์” (จาก The Last Exorcism) ซึ่งชวนระทึกกับความหลอน เมื่อปีศาจร้ายหลุดจากนรก กัดกินจิตใจมนุษย์ และกำลังต่อกรกับพระเจ้า ท่ามกลางหายนะที่ยากเกินรับมือของ ซิสเตอร์แอน แม่ชีสาวที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ หรือ คำสาปจากนรก เมื่อเธอคือคนเดียวที่ปีศาจอยากลองดี
หนังขับเคลื่อนเรื่องราวผ่านอดีตของตัวละครเอก ที่หยอดปมไว้ให้รู้สึกอยากรู้และน่าติดตาม คู่กับเหตุการณ์ในปัจจุบันที่ตัวละครเอกค่อย ๆ พยายามช่วยเหลืออีกตัวละครด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ช่วงเวลาทั้ง 2 นี้จะตัดสลับกันไปมา ก็รับรู้และปะติดปะต่อเรื่องราวกันไป ที่จริงมันก็หนังไล่ผีแบบฝรั่งที่เราเคยดู ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นมายังไงก็เป็นแบบนั้นเลย หนังไม่ได้เน้นจังหวะเข้าแบบตุ้งแช่เท่าไหร่ เหมือนตั้งใจขายของด้วยบทที่ผูกปมและเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ เร้าความอยากรู้ของคนดู แล้วเฉลยในสิ่งที่ตั้งใจเล่นให้หงายหลังเสียมากกว่า โดยส่วนตัวช่วงแรกไปถึงช่วงกลางคือดูสนุกนะ เพราะหนังเล่นกับความอยากรู้ อยากเห็นในเรื่องราวและปมที่ผูกไว้ อีกทั้งมีลูกล่อลูกชนให้ชวนติดตาม แต่ทุกอย่างกลับแผ่วลงเมื่อปมที่ผูกไว้ได้เฉลยในช่วงโค้งสุดท้ายไปเสียงั้น
ติดให้ ** ครึ่ง
“แอน” ภาพยนตร์ระทึกขวัญของผู้กำกับ คงเดช จตุรันต์รัศมี ที่นำแสดงโดยนักแสดงหญิงแถวหน้า เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ, ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์, วี วิโอเลต วอเทียร์, อิ๊งค์ วรันธร เปานิล, มิวสิค-แพรวา สุธรรมพงษ์, ก้อย อรัชพร โภคินภากร และ มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร กับเรื่องราวสุดระทึกของ แอน เด็กสาวที่ตื่นขึ้นมาบนเกาะแห่งหนึ่งตามลำพัง เธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร และมาที่นี่ได้อย่างไร แต่ตอนนี้ เธอต้องรีบหาวิธีเอาตัวรอดและออกจากสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้
ต้องมีสมาธิในการดูและห้ามลุกไปเข้าห้องน้ำเด็ดขาด หนังจะผูกปมทับซ้อนกันไปเรื่อย ๆ ปริศนาที่วางไว้จะมีความเชื่อมโยงกับตัวละคร แอน มากหน้าหลายตาที่ทยอยกันมาปรากฏตัวในเส้นเรื่องที่มีทั้งเดินหน้า ถอยหลัง สลับ ทับซ้อน ไขว้กันไปมาตลอดเวลา เก็บข้อมูลไว้ก่อน ค่อย ๆต่อจิ๊กซอว์แล้วเดี๋ยวทุกชิ้นจะขยับเข้าหากันจนกลายเป็นภาพที่คนดูจะเข้าใจ ชอบการตัดต่อและลำดับภาพมาก ในส่วนของนักแสดงที่ผลัดและสลับกันเข้ามารับบท แอน ก็มีหลายสิบคน แต่ละคนก็ทำหน้าที่กับบทบาทที่ได้รับดี ทั้งส่งและเสริมสิ่งที่หนังกำลังผูกปมทับไปซ้อนมา โดยหวังผลในระดับที่ต้องสั่นสะเทือนเมื่อทุกอย่างได้รับการเฉลยในช่วงท้าย คิดว่าคนดูน่าจะมีเสียงแตก เพราะด้วยความที่เป็นหนังดูยากและต้องใช้สมาธิสูง เชื่อว่าต้องมีทั้งคนที่เข้าใจและมึนงงกับทุกสิ่งอย่างแน่นอน
ติดให้ **** ครึ่ง
