ไปกราบสักการะหลวงปู่สนธ์ และชมศิลปะความงดงามของโบสถ์ที่วัดเขาคอก
สวัสดีทุกท่านครับวันนี้พี่หนุ่ม-สุทนยังคงอยู่ที่ จ.นครนายก เนื่องจากรองประวัติ มุ่งเจริญรัตน์ รอง ผอ.ททท.สำงานนครนายก ได้นำคณะสื่อมวลชน ชมรมนักข่าวท่องเที่ยวเดินทางไปเก็บข้อมูลในโครงการไหว้พระ 108 วัด ของ จ.สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก เช่นเคย พี่หนุ่ม-สุทน ก็มีเรื่องราวต่าง ๆ ของวัดเขาคอก อ.บ้าน จ.นครนายก มาเล่าให้ฟังอีกแล้ว เพราะน่าสนใจมากสำหรับความเป็นมาของวัดเขาคอกและหลวงปู่สนธ์พระอริยะสงฆ์เจ้าภาคอีสาน แต่ท่านได้เดินธุดงค์มาชายป่าขุนเขาเขตนครนายก
เราเริ่มกันที่พระครูวิบูลวุฒิกิจหรือพระอาจารย์ณรงค์ชัย เจ้าอาวาสวัดเขาคอก ได้เล่าให้พี่หนุ่ม-สุทนฟังถึงเรื่องราวความเป็นมาของหลวงปู่สนธ์. หลวงปู่สนธ์ท่านเป็นพระอาจารย์วิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาที่เป็นป่าดงดิบในภาคอีสานในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และท่านได้เดินธุดงค์มาปักกรดอยู่กับพระอาจารย์ลีที่ชายป่าเขตนครนายก เมื่อหลวงปู่สนธ์กับพระอาจารย์ลีนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ ปรากฏว่ามีเสือโค่รงตัวใหญ่เดินเข้ามาที่กรดของท่านวนสามรอบ หลวงปู่สนธ์ตกใจมากแต่พระอาจารย์ลี บอกให้สงบนิ่งแล้วแผ่เมตตา และเสือตัวนั้นก็เดินเข้าป่าไป
ต่อมาพระอาจารย์ลีได้ชวนให้หลวงปู่สนธ์ไปปักกรดที่วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เนื่องจากหลวงปู่สนธ์กับพระอาจารย์ลีเป็นพระสหธรรมร่วมกันเดินธุดงค์แล้วนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานกันมา. หลวงปู่สนธ์ท่านบอกว่าชอบพื้นที่บริเวณนี้ท่านขอไม่ไปวัด อโศการาม และต่อมามีชาวบ้านได้ออกมาหาของป่าก็พบเห็นว่าพระภิกษุปักกรดในป่าจะมีข้าวหรืออาหารอะไรฉัน ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงปู่สนธ์เดินทางไปรับบาตรภายในหมู่บ้านแล้วหลวงปู่สนธ์ได้เดินทางไปจำพรรษาอยู่ในถ้ำพุทธฉาย (ปัจจุบันคือโรงเรียนจปร.)
ต่อมาหลวงปู่สนธ์ได้มาสร้างวัดเล็ก ๆ ขึ้นมาคือวัดเขาคอก แต่เมื่อหลวงปู่สนธ์ออกมาจากถ้ำพุทธฉายแล้วเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น หินถล่มลงมาปิดปากถ้ำและชาวบ้านเชื่อกันว่าภายในถ้ำพุทธฉายคงมีทรัพย์สินของทหารญี่ปุ่นซ่อนอยู่ในถ้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
https://www.youtube.com/watch?v=x3qyR6wgEcw
และต่อมาหลวงปู่สนธ์ก็มรณภาพลงในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2532 ด้วยอายุ 97 ปี แต่สังขารไม่เน่าและแข็งกลายเป็นหิน แต่พระอาจารย์ณรงค์ชัยท่านบอกว่าหลวงปู่สนธ์เคยบอกว่าเรายังไม่ตายเพียงแต่สังขารเสื่อมไปก่อน ดังนั้นทางวัดเขาคอกจึงพบเห็นงูเห่าตัวใหญ่มากในวันที่ 24 มีนาคม 2547 งูเห่าเข้ามาที่กุฏิแล้วเคาะกระจกมีพระอาจารย์ณรงค์ชัยรวมถึงพระสงฆ์และสามเณรและญาติโยมที่มาทำบุญเห็นงูเห่ากันทั่วก็ตกใจ แต่งูเห่าตัวนั้นไม่ทำร้ายใครแล้วก็เข้าป่าไป เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสองครั้ง พระอาจารย์ณรงค์ขัย เชื่อว่าหลวงปู่สนธ์ท่านเดินทางมาในร่างกายของงูเห่า มาเยี่ยมชมภายในวัดเขาคอก นี่คือความเชื่อของวัด
ส่วนปัจจุบันวัดเขาคอกเป็นวัดที่น่าเดินทางไปศึกษาความเป็นมาของการจัดสร้างโบสถ์ซึ่งพระอาจารย์ณรงค์ขัยท่านได้เดินทางไปประเทศอินเดียแล้วพบสถูปเจดีย์ของพระพุทธเจ้าและสัญญาลักษณ์ของพระเจ้าอโศกมหาราชคือสิงห์โต เมื่อพบแล้วพระอาจารย์ณรงค์ชัยท่านได้จำแบบมา เมื่อเดินทางกลับมาก็ได้มาสร้างเป็นโบสถ์ขึ้นบริเวณวัดเขาคอก
เป็นเรื่องราวของศิลปะบวกความเชื่อทางพระพุทธศาสนา และพระเจ้าอโศกมหาราชผู้เผยแพร่ศาสนาพุทธเข้ามาในสุวรรณภูมิ ดังนั้นวัดเขาคอก อ.บ้านนา จ.นครนายก น่าเดินทางไปเที่ยวชมศิลปะและกราบบูชาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์และบูชาหลวงปู่สนธ์ รวมถึงชมศิลปะการสร้างโบสถ์ที่สุดยอดเยี่ยมมากหาชมได้ยาก
สำหรับการเดินทางไปวัดเขาคอก ไปแยกโรงเรียนนายร้อย จปร ตรงไปถึงป้อมยามเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 2 ก.ม. ถึงวัดเขาคอก หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนครนายก โทรศัพท์ 03731-2282 หรือ 03731-2284 ได้ทุกวันเวลาราชการ