บริษัท วายเคเค โฮลดิง เอเชีย จำกัด และ บริษัท วายเคเค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ซิปชั้นนำของโลก ได้กลับมาจัด กิจกรรม คลินิกฟุตบอลเยาวชน “วายเคเค เอเคเอฟซี” เป็นครั้งที่ 3 เพื่อตอบแทนสังคม หลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) โดยครั้งนี้ยังเป็นการร่วมมือกับ มูลนิธิ เรอัล มาดริด (Real Madrid Foundation) หรือ RMF เช่นเดิม ดำเนินงานโดย กลุ่ม YKK ASAO GROUP KIDS FOOTBALL CLINIC หรือ AKFC เปิดอบรมในรูปแบบคลินิกสอนฟุตบอลแก่เยาวชนผู้ด้อยโอกาส โดยมีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม คลินิกฟุตบอลเยาวชน “วายเคเค เอเคเอฟซี” ครั้งที่ 3 ขึ้น ณ สนามซุปเปอร์สตาร์ อารีน่า ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
คลินิกฟุตบอลเยาวชน “วายเคเค เอเคเอฟซี” เป็นกิจกรรมช่วยเหลือสังคมที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 โดยในประเทศไทย กิจกรรมนี้ ได้ฝึกอบรมเยาวชนผู้ด้อยโอกาสมากกว่าเจ็ดพันคน และยังดำเนินกิจกรรมนี้ในประเทศต่างๆ อาทิ บังกลาเทศ, กัมพูชา, อินเดีย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, พม่า, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, เวียดนาม เป็นต้น โดย “วายเคเค เอเคเอฟซี” จะโฟกัสไปที่การมอบประสบการณ์แสนสนุกที่จะไม่มีวันลืมให้กับเยาวชนผู้ด้อยโอกาสผ่านกีฬาฟุตบอล การที่เยาวชนนับพันคนได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ที่เรียกได้ว่า ‘ครั้งหนึ่งในชีวิต’ แบบนี้ ผ่านการฝึกฝนลูกหนังกับผู้ฝึกสอนชั้นนำ จาก มูลนิธิ เรอัล มาดริด นั้น ถือเป็นการสะท้อนความสำเร็จของกิจกรรมที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่ายังคงมีเยาวชนผู้ด้อยโอกาสที่จะได้รับประสบการณ์แบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ ในอนาคต
บริษัท วายเคเค โฮลดิง เอเชีย จำกัด มีความมุ่งมั่นมาโดยตลอดที่จะเป็นองค์กรเพื่อช่วยเหลือสังคมอยู่เสมอ โดย นายโคสุเกะ มิอิมิ ประธาน บริษัท วายเคเค โฮลดิง เอเชีย จำกัด (YHA) เผยว่า “กิจกรรมช่วยเหลือสังคมแบบนี้จะจัดขึ้นทุกๆ ปี เพราะนี่ไม่ใช่แค่โปรแกรมกีฬาฟุตบอลที่จะมอบคุณค่าให้เฉพาะเยาวชนผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น หากแต่รวมไปถึงชุมชนโดยรอบเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น เสมือนเป็นการเฉลิมฉลองร่วมกันผ่านกีฬาฟุตบอล” ซึ่งคลินิกฟุตบอลเยาวชน “วายเคเค เอเคเอฟซี” ครั้งนี้ จะจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ในระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามซุปเปอร์สตาร์ อารีน่า ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยจะมีเยาวชนผู้ด้อยโอกาส ในเขตกรุงเทพมหานคร อาทิ สมาคมสงเคราะห์เด็กกำพร้าแห่งประเทศไทย, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด, มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิบ้านนกขมิ้น, มูลนิธิดวงประทีป, คณะภคินีศรีชุมพาบาลแห่งประเทศไทย (จีเอสเอสที), มูลนิธิเพื่อเด็กและเยาวชนบ้านมหาเมฆ, มูลนิธิเพื่อการพัฒนามนุษย์ – ศูนย์เมอร์ซี่ เขตคลองเตย, มูลนิธิเซนต์มาร์ติน พร้อมผู้ฝึกสอนชาวไทยอีก 30 คน ที่จะได้กระทบไหล่ผู้ฝึกสอนระดับโลก และได้เรียนรู้ทักษะ องค์ความรู้ต่างๆ จากคลินิกฟุตบอลเยาวชน “วายเคเค เอเคเอฟซี” ครั้งนี้
ในส่วนของรายชื่อผู้ฝึกสอนจาก มูลนิธิ เรอัล มาดริด ที่จะมาถ่ายทอดกลวิธีและเทคนิคต่างๆ ให้กับผู้ฝึกสอนชาวไทยนั้นไล่รายชื่อมาตั้งแต่ นายคาร์ลอส กุสตาโว อัลเบิร์ต การ์เซีย นายเฮคเตอร์ วิเซนเต ฮอร์เก้ และ นายวิกเตอร์ โลเปซ ปาเชโก้ ด้านผู้ฝึกสอนชาวไทยจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ โดยหลังจากการฝึกอบรมด้านทฤษฎีและการฝึกสอนเสร็จแล้ว ผู้ฝึกสอนชาวไทยทั้ง 30 คน จะไปสมทบกับเหล่าโค้ช จาก มูลนิธิ เรอัล มาดริด เพื่อช่วยฝึกสอนเยาวชนผู้ด้อยโอกาสทางสังคมต่อในอีก 2 วันที่เหลือ
ทีมผู้ฝึกสอน จาก มูลนิธิ เรอัล มาดริด นั้น มีประสบการณ์การฝึกสอนมามากกว่าทศวรรษ ได้นำเทคนิคระดับโลกของพวกเขามาสู่เด็กหลายล้านคนทั่วโลกที่มีความหลงใหลในฟุตบอล ความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรมไม่ใช่อุปสรรคสำหรับผู้ฝึกสอน เพราะฟุตบอลเป็นภาษาสากล รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กๆ ถือเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการเปิดคลินิกฟุตบอลนี้
บรรยากาศงานแถลงข่าวครั้งนี้ นายโคสุเกะ มิอิมิ ประธาน วายเคเค โฮลดิง เอเชีย จำกัด ให้เกียรติมาร่วมงานเป็นการส่วนตัว ร่วมด้วย นายเคเซ ทาคาชิมะ กรรมการผู้จัดการ และ นายสุรพงษ์ ตั้งพากเพียรกิจ ผู้จัดการแผนกธุรการ 2 ผู้บริหาร ตัวแทน จาก บริษัท วายเคเค (ประเทศไทย) จำกัด พร้อม นายอันเดรส มุนตาเนอร์ บอราโญ่ ผู้จัดการเขต (แคมป์และคลินิก) ของ มูลนิธิ เรอัล มาดริด เป็นตัวแทนสโมสร ในฐานะคณะกรรมการระดับวีไอพี มาร่วมพูดคุยภายในงาน โดย นายแอลซัน อึ้ง ผู้จัดการฝ่ายขายส่วนภูมิภาคของ บริษัท วายเคเค โฮลดิง เอเชีย จำกัด รับหน้าที่กล่าวปิดงานแถลงข่าวในครั้งนี้ อย่างสวยงาม
โดยผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม คลินิกฟุตบอลเยาวชน “วายเคเค เอเคเอฟซี” ทุกคน จะได้รับชุดอุปกรณ์ครบชุด จากทาง วายเคเค และ มูลนิธิ เรอัล มาดริด ประกอบไปด้วย เสื้อ กางเกง ถุงเท้า รองเท้าฟุตบอล ใบประกาศนียบัตร และเหรียญที่ระลึกในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ และนอกจากนี้ ทาง วายเคเค ยังจะมอบอุปกรณ์กีฬาฟุตบอลและอุปกรณ์ฝึกซ้อมที่ใช้ในกิจกรรมครั้งนี้ให้แก่ชุมชนที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย ซึ่งถือเป็นการทำงานเพื่อสังคมอย่างแท้จริง เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่จะกระตุ้นความหลงใหลคลั่งไคล้ของเด็กๆ ให้ทำตามความฝันสำหรับหลายๆ ปี จากนี้ต่อไป