สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก นำทีมโดย พล.โทพิชญ์ โชติสุต ผู้อำนวยการฯ พร้อมกับ พ.อ.โยธิน ชัยมงคล พ.อ.หญิงพรหมพร พาราษฎร นำ “สื่อมวลชน”เข้าเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในค่ายทหารสังกัดกองทัพบก ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ พร้อมทั้งปลดป้าย”เขตทหารห้ามเข้า”กลายมาเป็น”ยินดีต้อนรับ”สู่ค่ายทหารศูนย์การเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ และ โครงการ “ทหารพันธ์ุดี”ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ในการปลูกพืชผักที่เป็นอาหาร และ เก็บเมล็ดพันธุ์ผักเหล่านั้นแจกจ่ายให้ประชาชนที่ต้องการนำเมล็ดพันธุ์ผักไปปลูกขยายต่อ นับว่าเป็นแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงวางรากฐานให้กับ”ทหารพันธุ์ดี”
การเดินทางมาครั้งนี้เป้าหมายอยู่ที่เชียงราย/เชียงใหม่ ใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน มีสื่อมวลชน/ผู้ประกอบการท่องเที่ยว นายทหารอีกหลายนายที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน เราผ่านมาแล้ว 2 วัน วันนี้เป็นวันที่ 3 พวกเราจะต้องเดินทางออกจากโรงแรมเอ็ม บูทีค รีสอร์ท หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วออกเดินทางไปยังค่ายเม็งรายมหาราช มณฑลทหารบกที่ 37 ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จุดหมายปลายทางอยู่ในค่ายทหารแห่งนี้ เพื่อขึ้นไปกราบรอยพระบาทของ “พระบาทสมเด็จมหาชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพระองค์ทรงฝากรอยพระบาทเพื่อเป็นกำลังใจให้กับบรรดาเหล่าทหารหาญในช่วงสงครามแย่งชิงประชาชน ในช่วงหนึ่งที่มีสงครามตามแนวชายแดน ในอดีตที่ผ่านมา
รอยพระบาทของพระองค์ท่านอยู่ในศาลาจตุรมุข 4 ทิศสามารถขึ้นไปกราบไหว้ได้ทุกวัน ซึ่งสถานที่อยู่บนเนินดอยซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่มากนัก รถตู้สามารถขึ้นไปจอดข้างบนได้เลย พวกเรามากราบรอยพระบาท เสร็จแล้วฟังรายงานในภาคปฏิบัติ และ ร่วมกันถ่ายรูปหมู่หน้าอาคารจตุรมุขแล้ว ทางค่ายทหารนำชาวคณะ ออกเดินทางจาก ค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อไปยัง”พิพิธภัณฑ์จอมพล”ซึ่งอยู่นอกค่ายทหาร แต่ยังอยู่ในเขตทหาร “พิพิธภัณฑ์จอมพล”นี้คือเป็นบ้านพักของ อดีตนายกรัฐมนตรี จอมพล.ป.พิบูลยสงคราม มีอาวุธยุทโธปกรณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เก็บรักษาเพื่อเป็นฐานการเรียนรู้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ต่อไป เราอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้พอสมควรแก่เวลา เพราะเราต้องเดินทางจากเชียงรายไปยังเชียงใหม่ เป้าหมายอยู่ที่ห้วยตึงเฒ่า อาร์มี่แลนด์ดินแดนทหาร
เราเดินทางจากเชียงรายเพื่อไปเชียงใหม่ ตามถนนสายเชียงราย/ดอยสะเก็ด เรามาถึงเชียงใหม่บ่ายๆแล้ว รับประทานอาหารเที่ยงกันที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ ถนนเลียบคลองชลประทานแม่แตง จนเรียบร้อย ระหว่างเดินทางไปยังโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า โดยการดูแลของมณฑลทหารบกที่ 33 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งมีทางวิ่งของจักรยาน อยู่รอบอ่าง มีจุดชมวิวในมุมสูง มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่กราบไหว้บูชา มีหุ่นฟางคิงคองยักษ์ ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของห้วยตึงเฒ่า และ ยังมีบ้านกังหัน ดินแดนเลี้ยงแกะ ซึ่งสามารถเดินทางไปให้อาหารแกะได้เลย นอกจากนี้ในห้วยตึงเฒ่ายังมีบ้านพักให้เช่าค้างคืนได้ หรือมีจุดพักกางเต็นท์ และ จุดตกปลา เล่นน้ำ และ นั่งเรือในอ่างน้ำที่กว้างมากไปกว่า 300 กว่าไร่ วันที่เราไปเยี่ยมห้วยตึงเฒ่า ฝนตกหนัก พวกเราต้องย้ายเข้าไปฟังรายงานของสถานที่ห้วยตึงเฒ่าในห้องประชุมเพื่อให้ พ.อ.เฉลิมพล ศรีทะ ผู้จัดการสำนักงานโครงการส่งเสริมท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า กล่าวต้อนรับ พล.โท พิชญ์ โชติสุต เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวในเขตห้วยตึงเฒ่า ซึ่งมีมากมาย เราฟังบรรยายสรุปจนเสร็จสิ้นประวัติความเป็นมาของห้วยตึงเฒ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริอีกโครงการหนึ่ง ของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 เราไปเยือนในช่วงเย็นยิ่งมีฝนตกหนักอย่างนี้ ความมืดในหน้าหนาวมาเร็ว แสงในท้องฟ้ามืดครึ้ม ยากแก่การคอนโทรลภาพให้สวยงามดั่งใจได้ การเก็บภาพในรายละเอียดจึงแตกต่างกันไป แต่ยอมรับว่าห้วยตึงเฒ่า คือแหล่งพักผ่อนหย่อนใจในเขตทหารที่มีราคาถูกมากกว่าแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เราอยู่ในห้วยตึงเฒ่าจนความมืดโรยตัว จึงออกเดินทางมาทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารเหนือ ครัวเพชรดอยงาม ที่ตกแต่งร้านสวยงามในสไตล์ล้านนา อาหารเหนือแสนอร่อย หลังจากอิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้า เรากลับมาถึงโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ เพื่อพักผ่อน รุ่งเช้าวันพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร อำลาเชียงใหม่ มาเยือนเพียงวันเดียว ระหว่างทางแวะซื้อของฝากจาก ตลาดทุ่งเกวียน อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง และ แวะมาทานอาหารเพื่อสุขภาพมื้อกลางวันที่ จังหวัดตาก ก่อนเดินทางกลับยาวๆจนถึงกรุงเทพฯ
ขอขอบคุณ สำนักงานการท่องเที่ยวกองทัพบก โดย พล.โทพิชญ์ โชติสุต ผู้อำนวยการฯ พ.อ.โยธิน ชัยมงคล พ.อ.หญิงพรหมพร พาราษฎร และ จ่ายุทธ ที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางในทริปท่องเที่ยวครั้งนี้ กับเพื่อน ๆ สื่อมวลทุกคนทุกสำนึกที่ร่วมสนุกกับการเดินทางร่วมกัน โอกาสหน้าคงได้มาร่วมงานทริปท่องเที่ยวครั้งนี้ด้วยกันอีก ดในครั้งนี้ความสนุกสุดเหวี่ยงและประทับใจจนไม่อาจลืมเลือนได้เลย.