เปิดปก…อกนักเขียน
โดย…ยอดเยาวพา
“พ่ายปุณฑริก” คู่ผูกพันธะปุณ-เจเดน ที่ “Meen Meena” จัดตามกระแสเรียกร้องนักอ่าน
ตลอดปี 2565 ที่ใกล้จะหมดอีกปีในไม่กี่วันนี้ คิวสัมภาษณ์นักเขียนแน่นจนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนส่งท้ายปีก็ได้จีบนักเขียนเจ้าของนามปากกา “Meen Meena” มาเล่าถึงการสวมบทนักเขียน ในงานอดิเรก เพราะนักเขียนมีงานประจำแต่เจียดเวลาเขียนนิยายสนุกและสอดแทรกสาระแง่คิดเพื่อมอบความสุขแก่นักอ่าน สำหรับ “รพีชีวัน” (Sunlight) เป็นเรื่องแรกก็คว้าสายสะพายจาก meb มาเป็นกำลังใจให้นักเขียน ซึ่งหลังจากอ่านจบทั้ง 3 เรื่องที่ตัวละครเกี่ยวโยงกัน โดยเริ่มที่ “ม่านรักซามูไร” ไวท์กับสายหมอก ตัวนายเอกเป็นเพื่อนรักกับซัน (รพีชีวัน) และ “พ่ายปุณฑริก” (My Albino) เจเดนเป็นพี่ชายของยูนีค (รพีชีวัน) ซึ่งอ่านแยกได้นะ แต่จะสนุกมากถ้าอ่าน 3 เรื่องเลย จากเปิดอ่านเรื่องราวของซันได้สมัครเป็นนักวิจัยในโรงพยาบาล เพื่อสืบเรื่องการตายของพ่อแม่ โดยเป็นโรงพยาบาลของพ่อยูนีคและเจเดน ทำให้ทั้งซันและไวท์เกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคยังดีที่ยูนีคและสายหมอก(ที่ชอบไวท์) สั่งคนคอยตามคนรักของตนจึงไปช่วยไว้ทัน ด้านเจเดนที่ชอบซันก็หาทางใกล้ชิดโดยไม่สนว่าต้องแย่งชิงคนรักกับน้องชาย โดยทั้งเจเดนและยูนีคต่างมีความทรงจำวัยเด็กกับซันจึงอยากผูกพันธะด้วย จากได้อ่านเข้าใจคำว่า ผูกพันธะ, อัลฟ่า, โอเมก้า, เบต้า เข้าใจขึ้น ซึ่งนักเขียนบรรยายให้เข้าใจง่ายแถมไม่เบื่อภาษาใช้เรียกเพศของนิยายวาย สำหรับรพีชีวันได้สายสะพายการันตีเนื้อหาครบรส ที่พูดถึงความรักพระเอกนายเอก โดยเฉพาะทั้งยูนีคและเจเดนรักมั่นคงต่อซันคนเดียวมาตลอด แต่อุปสรรคร้าย ๆ ก็เป็นบททดสอบความรักของพระเอกและนายเอก ว่าถึงแม้ความตายรออยู่ตรงหน้ายูนีคก็กุมมือซันฝ่าไปให้ได้ เพราะต้องการรู้ว่าใครทำให้พ่อแม่ของซันและแม่ของยูนีคต้องตาย มิหนำซ้ำตอนเด็กยูนีคเกือบจมน้ำตายถ้าซันไม่บังเอิญไปเจอแล้วช่วยไว้ นอกจากความรักของพระเอกนายเอกแล้ว ก็มีความรักของครอบครัว ความรักของพี่น้องได้ปรับความเข้าใจกัน แต่ที่มองข้ามไม่ได้คือความรักของเพื่อนระหว่างซันกับไวท์ แม้จะมีปืนชี้หน้าพวกเขาก็สั่นแต่สู้ไม่ถอย ถ้าใครมีเพื่อนดีแบบไวท์เป็นโชคดีเลย แล้วด้วยตัวนักเขียนเป็นครูก็แทรกเรื่องทำดีทำเลวเอาไว้ทั้ง 3 เรื่อง อย่างในรพีชีวัน ใครสร้างกรรมไว้ก็สมควรไปนอนในคุกนะ พอจบเรื่องแรกที่อ่านเป็นลำดับ 3 ก็มาถึงคู่ “ไวท์กับสายหมอก” เรื่อง “ม่านรักซามูไร” อ่าน ๆ ไป Meen Meena พาดำดิ่งสู่ยุคนินจา เลยนึกไปถึงนินจาฮาโตริ เพราะสายหมอกสวมชุดนินจาปีนหลังคาบ้านแอบส่องไวท์ ตอนแรกแค่แอบส่อง นานวันเข้าก็แอบเข้าห้องไปส่องนายเอกแบบถึงเนื้อถึงตัว สายหมอกรุกไวท์ด้วยคำพูดคำจาทะเล้นน่ารัก บางครั้งสายหมอกรั่วก็อ่านไปขำไป แต่เวลาสายหมอกหึงไวท์ก็น่ากลัวอยู่นะ ชอบฉากสายหมอกหึงไวท์กับอาคิระ ผู้นำของอีกตระกูลหนึ่ง นักเขียนถ่ายทอดได้กินใจ สงสารสายหมอกที่ไม่ใช่คนในใจของไวท์ แต่พระเอกก็ฮึดและรุก รุกหนักมากถ้าไวท์ไม่หวั่นไหวมาถีบสายหมอกได้เลย เนื้อหาสายหมอกเร่งพิชิตใจไวท์แล้วก็มีดรามาผสม อ่านแล้วอึ้งน้ำตาซึม ที่ Meen Meena เขียนให้พี่ชายนายเอก ที่เป็นผู้นำของตระกูลและปู่ตายจากถูกฆาตกรรม โดยเรื่องนี้จะมีตระกูลซามูไร 3 ตระกูลใหญ่และหนึ่งตระกูลใหญ่นินจา มีสายหมอกเป็นผู้นำ อ่านแล้วไม่สับสนหรืองงว่าตัวละครตัวนี้มาจากตระกูลไหน ได้เห็นความสัมพันธ์ของสายหมอกและไวท์ อีกทั้งพวกเขายังช่วยกันควานหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังการตายของพี่ชายและปู่ของไวท์ โดยนักเขียนตอบแทนความโลภของคนเลวได้สะใจ แต่อดสงสารอาคิระไม่ได้ แต่ไม่บอกว่าทำไมถึงสงสารอาคิระ แม้จะมีบทบาทไม่กี่ตอนก็มัดใจเราไม่แพ้คู่ของ ‘ทาดาชิกับจิน’ เลย
และก็มาถึงเรื่องล่าสุดของนักเขียน “พ่ายปุณฑริก” (My Albino) “เจเดนคู่ปุณฑริก” นายเอกผิวเผือกยันคิ้วซึ่งเคยเห็น เก๋มากที่ถูกนำมาเป็นนายเอก เขาดูบอบบางน่าทะนุถนอม นักเขียนเลือกถูกแล้วส่งมาให้เจเดนดูแล แม้น้องปุณจะดูแรดบ้างเพราะต้องสู้ชีวิต หาเงินเลี้ยงชีพ ไม่อยากเบียดเบียนใคร แล้วทุกครั้งที่ปุณฑริกมีอะไรกับคู่นอนก็มีกฎว่า ‘ต้องสวมถุงยาง’ แต่พอมีอะไรกับเจเดนก็ลืมหมดคงเพราะเสน่ห์ของพระเอกเวอร์จิ้นที่จะถูกน้องปุณจับกินตลอดตัวสินะ นักเขียนนำพาปุณมาเจอกับเจเดนอย่างมีเหตุผล นายเอกเป็นบุรุษพยาบาล ส่วนเจเดนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ปุณและเพื่อนมาสมัครทำงาน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มต้นที่นั่น แล้วความรัก ความเอาใจใส่ของปุณฑริกค่อย ๆ ซึมซาบเข้าหัวใจอ้างว้างของเจเดนหลังอกหักจากซัน เจนเดนยกตำแหน่งแฟนปลอม ๆ ให้น้องปุณ เพื่อหลอกพ่อของตัวเองตอนแรก แต่ก็ต้องพ่ายปุณฑริก ความรักที่นึกว่าไร้อุปสรรคกลับมีคนแอบรักเจเดนโผล่มา รวมทั้งอดีตคู่นอนที่แค้นน้องปุณมากเพราะเสียหน้าจึงตั้งใจเล่นน้องปุณถึงตาย งานนี้เจเดนแค้นมากจึงบุกไปเอาคืนตัวร้ายแบบแค้นต้องล้างด้วยเลือด สำหรับพ่ายปุณฑริกมีความรักของเจเดนกับน้องปุณผสมความละมุนละไม ค่อยเป็นค่อยไปแล้วก็พ่วงความรักของครอบครัว และความรักระหว่างเพื่อนที่เหนียวแน่น แม้ยามพบอุปสรรคก็ช่วยกันฉุดให้ผ่านมันไปได้ และ Meen Meena ก็ไม่ลืมใส่แง่คิดดี ๆ เรื่องของเวรกรรม ที่คนทำเลวได้รับกรรมอย่างสาสมใจนักอ่านทีเดียว เมื่ออ่านจบบริบูรณ์ทั้ง 3 เรื่อง นักเขียนถ่ายทอดตัวละครออกมามีชีวิตชีวา มีเสน่ห์จนทำให้นักอ่านหลงรัก ขนาดเรายังหลงสายหมอกและพี่คีย์เลย ก็ถึงเวลาพูดคุยกับนักเขียนผู้ให้กำเนิดตัวละครแต่ละเรื่อง โดย นางสาวธัญลักษณ์ เกษหอม หรือ ต๋า ได้เปิดอกพูดคุยว่า
“ชื่อเล่น ต๋า นะคะ เนื่องจากชื่อนามปากกาคือ Meen Meena นักอ่านจึงเรียก ไรต์มีน ค่ะ ปัจจุบันต๋าทำงานหลักมีอาชีพครูค่ะ ส่วนงานเขียนเป็นงานอดิเรกที่เสมือนโลกอีกใบสำหรับให้ต๋าพาหัวใจและร่างกายที่เมื่อยล้าได้หลบไปพัก โดยผลงานเรื่องแรกที่ต๋าเขียนออกมาคือ “รพีชีวัน” (Sunlight) เป็นแนวโอเมก้าเวิร์ส (Omegaverse) หมวดYayoi หรือแนว Y นั่นเองค่ะ จากนามปากกา “Meen Meena” ซึ่งเหตุผลของการตั้งนามปากกานี้ก็เพราะว่าต๋าเกิดเดือนมีนาคม เป็นชาวราศีมีน อีกทั้งการลงมือเขียนนิยายครั้งแรกก็คือเดือนมีนาคมค่ะ เป็นช่วงที่ชีวิตลงตัวและภาระบางอย่างได้เบาบางลง จึงอยากลองทำอะไรใหม่ ๆ ซึ่งการเป็น ‘นักเขียน’ ก็เป็นความใฝ่ฝันที่ต๋าอยากจะเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เพราะความจำเป็นและโอกาสในเส้นทางชีวิต จึงทำให้การเป็นนักเขียนถูกพับเก็บไว้ในหัวใจของเด็กกำพร้าคนหนึ่งค่ะ
ซึ่งพอจุดไฟความฝันก็เริ่มจากการเขียนแนววายเลยค่ะ นิยายสร้างชื่อก็ต้องเป็นเรื่องแรก รพีชีวัน อีกเช่นกันค่ะ เพราะเส้นเรื่องและบุคลิกตัวละครเป็นแนวที่นักอ่านค่อนข้างชื่นชอบ เนื้อหาอ่านง่าย โรแมนติก อบอุ่นหัวใจ แต่ถ้าถามถึงพระเอกนายเอกที่นักอ่านพูดถึงคงต้องแยกเป็นเรื่องค่ะ โดยพระเอกที่ถูกจดจำและพูดถึงบ่อยต้องยกให้ ‘สายหมอก’ จากเรื่อง “ม่านรักซามูไร” ค่ะ เพราะความโบ๊ะบ๊ะไร้มาดพระเอกกลับแฝงความเท่พร้อมเป็นที่พึ่งและปกป้องคนรักของตัวเองได้อย่างสะดุดหัวใจนักอ่าน จนนักอ่านชอบบอกว่า สายหมอก เป็น ‘ลูกเขยคนโปรด’ บ่อย ๆ ค่ะ
ส่วนนายเอกที่นักอ่านเอ็นดูมากพิเศษคือ ปุณ ปุณฑริก จากเรื่อง พ่ายปุณฑริก ค่ะ ด้วยลักษณะจำเพาะของน้อง เป็นคนผิวขาวเผือกจากโรคแอลบินิซึม และนิสัยสุดแสบกร้านโลกขัดกับชื่อที่แปลว่า ดอกบัวหลวงขาว แต่อีกด้านกลับมีความนึกคิดที่เกินวัย เพราะความเป็นเด็กกำพร้า สูญเสียพ่อแม่แต่ยังเด็ก จะอยู่รอดได้ก็คงต้องแข็งแกร่งทางด้านจิตใจมากพอพร้อมทั้งความเฉลียวฉลาด
ในส่วนของการออกผลงานนั้นต๋าค่อนข้างจะช้ากว่านักเขียนอาชีพ เพราะด้วยงานหลักเป็นครู ต๋าจึงต้องทุ่มเวลาและทำหน้าที่ในส่วนนั้นให้เต็มที่มิเช่นนั้นคงมีคำครหาตามมาแน่ ๆ ถึงอย่างนั้นก็อยากให้นักอ่านเข้าใจและคอยเป็นกำลังใจให้ต๋าด้วยนะคะ เพราะการเป็นนักเขียนคือพื้นที่ปลอดภัย พลังชีวิตหมดเมื่อใดก็จะแอบมาขอชาร์จแบตฯจากแฟน ๆ นักอ่าน พร้อมทั้งมอบพลังใจกลับไปให้ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานสุดความสามารถเช่นกันค่ะ โดยจะมีการวางแผนไว้ว่าปีหนึ่งต้องออกผลงาน 1-2 เรื่องให้ได้ค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มีปกดองอยู่ 2 เรื่อง เกิดจากการวางพล็อตแล้วถึงจะคอมมิชชันปกไว้ค่ะ แอบกระซิบว่าเป็นแนวบู๊ ๆ เท่ ๆ สายมิตรภาพลูกผู้ชายค่ะ
จริงค่ะ ที่ช่วงนี้มีนิยายวายถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์เยอะมาก รู้สึกว่าทั้งสื่อและสังคมเปิดกว้างมากขึ้น ในการนำเสนอและรับชมผลงานแนวใหม่ ๆ ที่ถูกผลิตขึ้น ซึ่งเห็นได้จากแอปพลิเคชันมากมายที่เผยแพร่ สะท้อนให้เห็นความนิยมของบุคคลในสังคมส่วนหนึ่ง รวมถึงการเข้าใจและยอมรับความรักที่ไม่จำกัดเพศแบบดั้งเดิม ถ้าในมุมของนักเขียนคงปลื้มปริ่มและภูมิใจมากที่ตัวละครในจินตนาการซึ่งเป็นเพียงตัวอักษร ถูกนำมาถ่ายทอดให้มีชีวิตชีวาผ่านนักแสดงแล้วผู้รับชมชื่นชอบ พูดถึงผลงานเรื่องนั้น ๆ ต๋าก็หวังว่าสักวันผลงานของตัวเองคงจะมีสักเรื่องที่ทัชใจนักอ่านหรือผู้กำกับสักท่าน แล้วถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ให้ตัวละครมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ค่ะ
กล่าวถึงแพลตฟอร์มสำหรับลงผลงานตัวอักษรที่กำลังปรับเปลี่ยนระบบการใช้งานอยู่ในช่วงนี้ ซึ่งมีความเข้มงวดมากขึ้นในการเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าปกที่ไม่โป๊เปลือย การจำกัดอายุของนักอ่าน ค่อนข้างส่งผลกระทบสำหรับนักเขียนในเรื่องรายได้และยอดเข้าอ่านไม่น้อยเลยค่ะ เพราะนักอ่านบางท่านมีปัญหาการยืนยันอายุไม่ผ่านบ้าง หรือหน้าปกที่ลดการดึงดูดความสนใจของนักอ่านลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต๋าคิดว่าในชุมชนพื้นที่ขนาดใหญ่ของแพลตฟอร์ม นักเขียนและนักอ่านจะสามารถปรับตัวและเคารพกฎเกณฑ์ที่มีมาตรฐานที่ชัดเจนได้เช่นกันค่ะ คราวนี้มาพูดถึงเรื่องการทำเล่มนิยายบ้าง ตรงนี้น่าจะเป็นกระบวนการที่หินมากสำหรับนักเขียนทำมือเลยก็ว่าได้ เพราะต้องทำเสมือนตัวเองเป็นสำนักพิมพ์เลยค่ะ ตั้งแต่การพิสูจน์อักษร จัดรูปเล่ม โปรโมตผลงาน การตลาด จนขั้นตอนสุดท้ายคือแพ็กส่งให้ถึงมือนักอ่านอย่างปลอดภัยที่สุด ทำเอาเมื่อยและถอดใจนับครั้งไม่ถ้วนเลยค่ะ แต่ในเมื่อคุณนักอ่านวางใจ เชื่อใจสั่งจองหนังสือกับเราแล้ว ย่อมต้องทำให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกกระบวนการจะผ่านไปอย่างราบรื่น การทำงานประสานกับบุคคลที่มีความสามารถ มีส่วนเกี่ยวข้องให้รูปเล่มนิยายออกมาสวยและถูกใจที่สุดย่อมต้องมีการสื่อสารและเวลาที่คลาดเคลื่อน หนักสุดคงเป็นปัญหาสุขภาพที่ตัวเราเองไม่สามารถควบคุมได้ว่าจะเจ็บจะป่วยในระหว่างทางตอนไหนบ้าง ทว่าจบท้ายด้วยการพักผ่อนหรือหลบหายไปสักพักค่ะ
สำหรับการเขียนนิยายที่เป็นงานอดิเรกของต๋าทางครอบครัวรู้และสนับสนุนให้กำลังใจเต็มที่เลยค่ะ ส่วนนักเรียนมีรู้แค่บางคน เพราะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำสำหรับนักเรียนที่สนใจด้านการเขียนนิยายเช่นกันค่ะ
ในส่วนของการวางพล็อต ‘รพีชีวัน’ ก็เริ่มวางพล็อตคู่รองไปพร้อม ๆ กันค่ะ เพราะเส้นเรื่องแสดงความสำคัญและความสัมพันธ์ของคู่รองจนอยากให้มีภาคแยกขึ้นมาค่ะ ส่วนคู่ของเจเดนใน ‘พ่ายปุณฑริก’ มาจากคำเรียกร้องของนักอ่านค่ะ เพราะอยากให้คุณเจสมหวังในความรักค่ะ
ขอพื้นที่ตรงนี้กราบขออภัยและขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่รอและไม่ถอดใจจากต๋าด้วยนะคะ ที่ปล่อยให้รอนาน แต่อยากให้รู้ไว้ว่าต๋าไม่ไปไหนนะ สุดท้ายขอฝากผลงานในจักรวาลทั้งสามเรื่อง คือ รพีชีวัน, ม่านรักซามูไร และพ่ายปุณฑริก พร้อมเรื่องสั้นอย่าง จดหมายใต้โต๊ะกับก้อนกระดาษที่ถูกขยำไว้ ให้ติดตามกันด้วยนะคะ โดยมีอีบุ๊กวางขายใน Meb, ธัญวลัย, รวมถึงรายตอนใน Readawrite และ Fictionlog ด้วยค่ะ ส่วนตอนนี้แบบรูปเล่มสวยงามจับต้องได้อย่าง “พ่ายปุณฑริก” มีพร้อมจัดส่ง สามารถติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Meen Meena หรือทวิตเตอร์ @Meenmeena12 ได้เลยค่ะ
และสำหรับผลงานที่จะเปิดพรีออร์เดอร์ในระยะเวลาใกล้นี้คือเรื่อง “ฤๅลมหนาวจะหยุดไต้ฝุ่น” เป็นแนวดรามาหน่วง ๆ หัวใจ ในความสัมพันธ์ของคนที่เพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนก็ไม่ได้เป็น ปากด่าแต่ใจอ่อนยวบ สุดท้ายแล้วจะลงเอยแบบไหน ฝากทุกคนไปติดตามด้วยนะคะ”
เฉลยคำถามนิยายของนามปากกา “หนูณิช” : คุณอาเพื่อน และ พี่ชายเพื่อน
คำถามนิยายของนามปากกา “Meen Meena” 3 เรื่องที่ตัวละครเกี่ยวโยงกันมีชื่อเรื่องอะไร?
ทราบคำตอบเขียนใส่ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรศัพท์และคำตอบให้ชัดเจน ส่งมาที่
#คอลัมน์เปิดปก…อกนักเขียน
32/15 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ขอบคุณนักเขียนนามปากกา “Meen Meena” ที่สนับสนุนนิยาย 3 เล่ม เป็นรางวัลทายปัญหา
หมดเขตส่งคำตอบในวันที่ 31 มกราคม 2566