กรุงเทพฯ 22 กุมภาพันธ์ 2556 บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ประกาศความสำเร็จในปี 2565 ด้วยยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2564 จากการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกตลาด ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายที่เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยผลประกอบการที่ดีที่สุดมาจากธุรกิจอาหารซึ่งเป็นธุรกิจหลักในประเทศไทยและเวียดนามที่มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 บริษัทยังตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องโดยคาดหวังปัจจัยบวกจากการที่จีนเปิดประเทศ ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการบริโภค สินค้าภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน TWPC เป็นผู้นำในตลาดแป้งมันสำปะหลัง ไทยวายังเตรียมเดินหน้าลงทุน ในพลังงานหมุนเวียนเพื่อตอบโจทย์ต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้น และในอีก 3 ปีข้างหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายการ ดำเนินงานในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร แป้งมันสำปะหลัง และธุรกิจพิเศษไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากขึ้น
TWPC เป็นบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการดำเนินงานใน 5 ประเทศ โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง มีพอร์ทโฟลิโอที่ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้บริโภคและ ผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและแป้งมันสำปะหลังดัดแปร ซึ่งเป็นวัตถุดิบและโซลูชันด้านอาหารในการประกอบ อาหารสำหรับ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการด้านอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกจากแป้งมันสำปะหลังภายใต้ แบรนด์ ROSECO แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงการเปลี่ยนแปลง ด้านสิ่งแวดล้อม แต่บริษัทยังคงทำผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นผลมาจาก กลยุทธ์การเสริมความแข็งแกร่งในด้านการขายและการตลาดระดับโลก ห่วงโซ่อุปทาน และความสามารถด้านดิจิทัล
นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การออกแบบและ พัฒนาพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและสมดุลสำหรับตลาดโลก เป็นหัวใจสำคัญในกลยุทธ์ของบริษัท นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดในเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรอุตสาหกรรม และอาหารแบบครบวงจรจาก “ฟาร์มสู่ผู้บริโภค” ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่รายในภูมิภาค เราได้ทุ่มเทเวลาในช่วง 3 ปีที่ผ่าน มา เตรียมความแข็งแกร่งให้พร้อมคว้าโอกาสหลังโควิค โดยเสริมศักยภาพให้กับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบของบริษัทและพัฒนาความสามารถด้านซัพพลายเชนและทีมขายสำหรับตลาดโลก การเตรียมการเหล่านี้ทำให้ไทยวาพร้อมรับการฟื้นตัวของตลาดหลังโควิค ที่วัตถุดิบและอาหารในราคาที่คุ้มค่าจะมีความต้องการมากขึ้น”
“สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 เรายังคงมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมก้าวเข้าสู่ ตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐ ให้กว้างและลงลึกมากขึ้น บริษัทเล็งเห็นแนวโน้ม ความต้องการบริโภคสินค้าในประเทศจีนที่กลับมาฟื้นตัวจากการเปิดประเทศในปี 2566 รวมถึงความต้องการจาก ลูกค้าที่มองหาโซลูชั่นด้านอาหารที่สามารถตรวจสอบแบบย้อนกลับได้ มีความคุ้มค่า และสะดวกต่อผู้บริโภค ทางไทยวาได้ตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับการส่งมอบโซลูชันด้านอาหารให้รวดเร็วและครอบคลุมกว่าเดิม นอกจากนี้ กลยุทธ์ของเรายังมุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B ทั้งในประเทศไทย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย และทั่วโลก โดยความต้องการสินค้าในพอร์ทโฟลิโอทั้งหมดของไทยวามีการเติบโตมากยิ่งกว่า ในช่วงก่อนโดวิค-19 ในปีนี้เราจะเดินหน้าทำงานอย่างรวดเร็วและเต็มที่ โดยพัฒนาสิ่งใหม่ๆ จากกลยุทธ์ด้าน นวัตกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์ของเรา ตัวอย่างความสำเร็จ เช่น ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นของเราที่ปัจจุบันเป็นสินค้าที่ เติบโตรวดเร็วที่สุดในไทย รวมถึงในภูมิภาคนี้”
สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตจนถึงปี 2568 ไทยวาวางแผนที่จะสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายอย่างมาก ในทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยขยายทั้งฐานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย และการทำการตลาด จาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง พร้อมทั้งเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งทางของการดำเนินงานในประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย โดยบริษัทสามารถทำกำไรและรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่านับตั้งแต่ปี 2560 รวมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ใหม่มากกว่า 20 รายการในระหว่างช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้ไทยวาสามารถตอบสนองความ ต้องการของตลาดอาหาร แป้งมัน วัตถุดิบออร์แกนิค และวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืนทั่วโลกได้
การทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ นับเป็นความสำเร็จที่สำคัญของไทยวา ในฐานะหนึ่งใน บริษัทเกษตรอุตสาหกรรมอาหารแบบ B2B ชั้นนำของเอเชีย
ธุรกิจเกษตรอาหารกิจระดับโลก ความท้าทายเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้เป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของเราที่จะต้องให้บริการลูกค้าทั่วโลกได้อย่าง รวดเร็วและดียิ่งขึ้น โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา การดำเนินงานขายและการตลาดทั่วโลกของบริษัทเพิ่มขึ้นใน อัตราที่สูงมาก ปัจจุบันเราไปบริการลูกค้าและแบรนด์แบรนด์ชั้นนำระดับโลก และยังเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชด้านๆ จากฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และในฐานะบริษัทชั้นนำด้านเกษตรและอาหารแบบ B2B ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจะเดินหน้าสร้าง ความแข็งแกร่งในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง” นายโฮ กล่าวเสริม
TWPC ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับรางวัล Steward Leadership 25 ซึ่งเป็น รางวัลที่มอบให้กับบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการรับมือความท้าทายด้านสังคมในปัจจุบัน และในปีที่ผ่านมาบริษัทยัง คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2565 หรือ HR Asia Best Company to Work for in Asia 2022
ยิ่งไปกว่านั้น ไทยวาจะรุกลงทุนในด้านพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียน มากกว่า 15 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็น ศูนย์ และเป็นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในฐานะองค์หลัก ในปี 2565 บริษัทยังได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ใน ด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่ผลิตจากแป้งมัน สำปะหลังครั้งแรกในโลก และเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหา พลาสติกที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสินค้า พิเศษที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA products) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่จะมีส่วนสร้างการเติบโตให้กับไทยว่าได้อย่างมีนัยสำคัญ