30 มีนาคม 2566 ที่ห้อง บอลล์รูมชั้น 6 โรงแรม Amari Watergate สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 พร้อมเลือกตั้งนายกสมาคมฯวาระใหม่
ทั้งนี้ ได้มีการสรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวในวันที่ 27 มีนาคม 2566 มีจำนวน 60,724 คน รวม 1 – 27 มีนาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 1.95 ล้านคน ส่วนนักท่องเที่ยวสะสม ตั้งแต่ 1 มกราคม – 27 มีนาคม 2566 รวม 6,233,515 คน และคาดการณ์ใน Q1/2566 จะมีนักท่องเที่ยวถึง 6.47 ล้านคน คิดเป็น 60% ของ Q1/2562
สำหรับนักท่องเที่ยวจีนรายวัน ณ วันที่ 27/3 เพิ่มขึ้นมาเป็นอันดับ 1 จำนวน 10,928 คน ตามด้วย มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย เกาหลีใต้
ส่วนนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ 1 มี.ค. – 27 มี.ค. 2566 แยกตามประเทศ มาเลเซีย 287,375 คน จีน 229,702 คน รัสเซีย 158,133 คน อินเดีย 104,825 คน เกาหลีใต้ 103,128 คน
คาดการณ์นักท่องเที่ยว Q1/2566 มาเลเซีย 900,000 คน รัสเซีย 600,000 คน จีน 500,000 คน เกาหลีใต้ 450,000 คน และอินเดีย 350,000 คน ตามด้วย อเมริกัน เยอรมัน บริติช ลาว เวียดนาม
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า (ATTA) กล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับสมาชิกและคณะกรรมการที่ได้ไว้วางใจให้ผมกลับมาเป็นนายกสมาคมฯอีกครั้ง ส่วนในเรื่องสถานการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้าถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนวาระของรัฐบาลไปในรูปแบบใด จะมีรัฐบาลใหม่หรืออย่างไรเรื่องของการท่องเที่ยวก็คงไม่น่าห่วง สำหรับเราเองต้องการนักการเมืองที่เข้ามาดูแลด้านการท่องเที่ยว รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรีที่มาใหม่ต้องให้ความสนใจพัฒนากระทรวงท่องเที่ยวให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงพัฒนาบุคลากรช่วยกันสร้างเสริมเพิ่มงบประมาณการสนับสนุนสู่องค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งการคมนาคมที่ต้องเดินทางสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กรต้องร่วมมือกัน ผู้ประกอบการเองก็ต้องมีความพร้อมในเรื่องสถานประกอบการด้านบริการ โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก ต้องพร้อมเสมอเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เริ่มหลั่งไหลเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องแล้ว”
การประชุมในวันนี้ นอกจากจะแจ้งข้อมูลของนักท่องเที่ยวที่เริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นเรื่องของวาระใหม่ที่ คณะกรรมการต่างเห็นพ้องยกมือสนับสนุนและไว้วางใจให้เป็นนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ต่ออีกสมัย
“ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราเองก็ทำงานกันอย่างหนัก ไม่มีรายรับเลย โดยที่จริงแล้วสมาคมแอตตาเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำหร ในขณะเดียวกันเราก็มีรายจ่ายเรื่องของพนักงานที่สนามบิน ทางแอตตาก็ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างประหยัดและระมัดระวังมากขึ้น แต่กิจกรรมกิจการส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ต้องทำไปด้วย ทั้งนี้ก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐช่วยกันทำ เพื่อให้แอตตาได้เดินหน้าได้ แอตตาเราก็มีสมาชิกหลายคนที่เก่ง ๆ และเป็นมืออาชีพที่มืประสบการณ์สูงอยู่แล้วช่วยกันทำการตลาดให้เดินหน้าได้ต่อไป” นายศิษฎิวัชร กล่าวทิ้งท้าย