เที่ยวไปกับพี่หนุ่ม – สุทน
ลงไปชมความงดงามของน้ำตกเหวนรกในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
สวัสดียามเช้าครับวันนี้พี่หนุ่ม-สุทน ได้เดินทางไป จ.ปราจีนบุรี และจังหวัดนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองผลไม้หลากหลายเช่น กระท้อน ขนุน เงาะ และทุเรียน มีรสชาติมันหวานเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ทุเรียนออกผลผลิต นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปเที่ยวปราจีนบุรีกันมาก แต่วันนี้ พี่หนุ่ม-สุทน มีเรื่องเล่าขานของน้ำตกเหวนรกมาเล่าให้ฟังเช่นเคย น้ำตกเหวนรกอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และทำไมจึงเรียกว่าเขาใหญ่?
เรื่องนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน เทือกเขาใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนในพื้นที่ 2,165.55 ตารางกิโลเมตร เชื่อมติดต่อกัน 4 จังหวัด 11 อำเภอ ซึ่งเป็นภูเขากว้างใหญ่มากๆ จึงเรียกว่าเขาใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ชาวบ้านเค้าเรียกว่า ดงพญาไฟ เพราะว่าต้องเดินทางผ่านพื้นป่าเจอสัตว์ป่า และเป็นไข้ป่าเสียชีวิตในป่ากันมาก และต่อมาเปลี่ยนมาเรียกว่า ดงพญาเย็น เหตุผลเมื่อได้เดินทางในพื้นป่าแห่งนี้จะได้ไม่เกิดอันตรายร่มเย็นนั้นเอง
เทือกเขาใหญ่ขอย้อนกลับไปประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมา พื้นป่าผืนนี้เริ่มมีชาวบ้านบุกรุกป่าเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ประมาณ 30 กว่าหลังคาเรือน โดยเฉพาะด้านเขต อ.ปากพลี เขตนครนายก พอเริ่มมีการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าถ้าหากปล่อยไว้ป่าไม้จะหมดไป และต่อมาในปี 2502 ท่านจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจราชการภาคเหนือ และเครื่องบินได้ผ่านเทือกเขาแห่งนี้ เห็นว่ามีชาวบ้านเริ่มบุกรุกทำลายป่า ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติจึงมีการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วก็ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ขึ้นมาในปี 2502
ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ได้รับสมญานามว่าเป็นมรดกโลกของกลุ่มประเทศอาเซียน ป่าเขาใหญ่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากเช่น เก้ง กวาง กะทิง เสือและช้างป่า เป็นต้น ดังนั้นถ้ามีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวปราจีนบุรี มาจากจ.นครนายก ถึงวงเวียนเนินหอม เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาใหญ่ประมาณ 24 ก.ม แล้วจอดรถยนตร์ไว้ เดินทางลัดเลาะไปตามทางประมาณ 1 ก.ม จะได้ยินเสียงน้ำตกบอกตรงๆว่าอยากเห็นน้ำตกเหวนรกฮิฮิ พอเดินสุดทางมองลงไปข้างล่าง ตอนนี้จะเริ่มสองจิตสองใจ 555 ใจหนึ่งอยากลงไปให้ถึงสุดเหวตามชื่อแต่ความลึก 60 เมตร ยังไม่จบถามนักท่องเที่ยวว่า ลงไปแล้วขึ้นมาสวยงามไหมครับ? เค้าบอกสวยงามมากมาก แต่ตอนขึ้นจากน้ำตกแล้วจะรู้สึก นี่แหละเริ่มคิดอีกครั้งหนึ่ง
แล้วพี่หนุ่ม-สุทนได้ตัดสินใจลงไปชมความงดงามของน้ำตกเหวนรก ชื่นชมความงาม ถ่ายภาพเก็บเรื่องราวมาเล่าเรื่องให้ฟังได้พอสมควร เดินทางขึ้นบันไดสูงชันมากๆ คิดว่าไหวมั้ยแต่ถึงยังไงก็ต้องกลับเพราะ คณะสื่อมวลชนเค้ารออยู่จำต้องเดินขึ้นไปตามบันได 60 เมตร ขึ้นไปพักแล้วก็พักจนถึงศาลาที่พัก บอกตรงๆว่า เหนื่อยสุดๆ และนักท่องเที่ยวเมื่อได้ลงไปเที่ยวแล้วเค้าบอกว่า(เห็นขาอ่อนสาวราว) ตอนเค้าบอกพี่หนุ่ม-สุทนยังไม่เข้าใจ จนกระทั่งเดินขึ้นบันไดจึงร้องเองว่าขอสาวราวหน่อย หมายถึงเมื่อเราเดินขึ้นบันไดแรงจะหมด ขาจะอ่อนแรงและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือราวบันไดนั้นเอง
น้ำตกเหวนรกอยู่ในเขตอ.ปากพลี จ.นครนายก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ทางด้านทิศใต้ของอุทยานฯมี 3 ชั้น ชั้นแรกลงไปในเหว 60 เมตร และขึ้นไปข้างบนอีกสองชั้นห่างกัน 150 เมตร ส่วนน้ำไหลเป็นลำธารมาตามเทือกเขาตกลงเหวมีหน้าผากว้าง 30 เมตร หน้าฝนน้ำไหลแรงมากมากเสียงจะดัง เมื่อนักท่องเที่ยวยืนชมดูจะรู้สึกหวาดเสียวน่ากลัว
ดังนั้นถ้านักท่องเที่ยวสนใจเดินทางไปเที่ยวน้ำตกเหวนรก ไปได้ช่วงหน้าฝน และเข้าปลายฝนต้นหนาวยังสามารถไปชมความงดงามของน้ำตกเหวนรกได้เช่นกัน (ขออนุญาตฝากเสนอแนะนำ น่าจะเปลี่ยนชื่อจาก น้ำตกเหวนรก มาชื่อว่า น้ำตกขาอ่อนสาวราว)
พอกลับมาถึงแยกเนินหอม แวะกราบไหว้บูชาศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ศาลแห่งนี้เค้าจัดสร้างเพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่าน ที่ทรงนำทัพจากกรุงศรีอยุธยามาพักทัพบริเวณบ้านเนินหอม เขตเมืองปราจีนบุรี การเดินทางไปน้ำตกเหวนรกนี้ ต้องขอขอบคุณ จ.ส.ต.สกล ทองคำ ผอ.ททท.สำนักงานนครนายก ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่(น้องกุ้ง) มาดูแลคณะสื่อมวลชน ชมรมนักข่าวท่องเที่ยว โดยมี พี่หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ เก็บข้อมูลมาเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังครับ