มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ลพบุรี โดย ดร.วิลาศ เทพทา และ ดร.สยามล เทพทา พร้อมคณะวิจัยชนชาติพันธุ์ลุ่มน้ำป่าสัก โครงการระยะที่ 2 ซึ่งประสบความสำเร็จมาจากครั้งที่ 1 ยืนยาวผ่านมาหลายปี ต้องหยุดลงระยะหนึ่งเพราะโรคระบาดโควิด พอสร่างซาลงไปจึงจัดกิจกรรม Agent & Media Fm Trip ท่องเที่ยวชุมชนชาติพันธุ์ลุ่มน้ำป่าสัก อีกครั้ง โดยเชิญ คุณภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ ประธานเครือข่ายภาคีท่องเที่ยวไทย มาร่วมมือกันเชิญผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และ สื่อมวลชน เดินทางเข้ามาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง คราวนี้มีอำเภอวังม่วง และ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ พร้อมทั้งเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเดิมในอำเภอเสาไห้ ที่โดดเด่นเรื่องชาติพันธุ์
เรานัดหมายในช่วงหลังจากมหกรรมสงครามน้ำการเล่นสงกรานต์ เพิ่งจะปิดฉากไป แต่ยังอยู่ในเดือนเมษายนที่ร้อนระอุมากมาย การวางโปรแกรมเอาไว้เลยต้องเดินทางไปดูความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวทั้งเก่าและใหม่ยังมีจุดขายและจุดดึงดูดมากเพียงไร
จุดหมายปลายทางแรกของเราที่หมู่บ้านท่าฤทธิ์ อำเภอวังม่วง สระบุรี สถานที่กางเต็นท์แห่งใหม่ที่มองเห็นทุ่งหญ้านิวซีแลนด์ริมเขื่อนป่าสัก กับถนนที่เริ่มขยายออกไปให้กว้างเพื่อรองรับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ตามโครงการวิจัยการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากทุนทางวัฒนธรรมชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำป่าสัก จังหวัดสระบุรี บ้านท่าฤทธิ์ เหมาะแก่การรองรับการกางเต็นท์ในช่วงปลายฝนต้นหนาวมาก เพราะสนามหญ้าริมเขื่อนป่าสักสวยงามจริงๆ ถ้าช่วงหน้าหนาวจะมีสีเขียวขจีมากกว่านี้ รับรองตื่นตาตื่นใจ
บ้านท่าฤทธิ์ ยังมีฝูงควายที่น่าชมและฝูงแกะที่นำมาเลี้ยงในทุ่งแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถ นำหญ้ามาป้อนให้ฝูงแกะได้ แต่เครื่องอำนวยความสะดวกต้องมีการปรับปรุงหน่อย เรื่องห้องน้ำ/อาหาร/เครื่องดื่มที่จะรองรับ และ ขยะที่จะจัดเก็บอย่างไรต้องคิดกันให้รอบคอบ สถานที่กางเต็นท์สวยงาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้ามีนักท่องเที่ยวเข้ามามากจะทำอย่างไรดี สนใจพื้นที่กางเต็นท์ในหน้าหนาวนี้ลองปรึกษา คุณเรืองฤทธิ์ ธาสถาน เบอร์โทร 089-412-2159 ได้ทุกวัน ว่ามีความพร้อมรองรับได้ตอนไหน
เราออกเดินทางจากอำเภอวังม่วง ข้ามมาที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเข้าชมวิถีชีวิตของลาวเวียง ชาติพันธุ์อีกแห่งที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก และสายน้ำป่าสัก กลับโอบล้อมเอาไว้เหมือนอยู่ในเกาะที่มีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ที่ช่วยกันอนุรักษ์มาตั้งแต่ครั้งโบราณจากการเริ่มต้นมาอยู่ตรงจุดนี้ บ้านชุ้ง ชมชนลาวเวียงทางเข้าหมู่บ้านมีทางเดียว กับคนอาศัยไม่ถึงร้อยหลังคาเรือน อยู่กันอย่างสงบสมถะและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สวนพุทธเกษตร เป็นจุดหนึ่งที่มองเห็นถึงความเรียบง่ายตามธรรมชาติ พวกเราได้ทานอาหารพื้นถิ่นของลาวเวียงบ้านชั้น โดยเฉพาะปลาร้าสับ/ลาบหัวปลี/แกงเปรอะหน่อไม้/ไข่เจียวผักหวาน อาหารอร่อยมาก การต้อนรับแบบออบอุ่นใจทำให้ทุกคนประทับใจหายเหนื่อยกัน
หลังจากทานอาหารเสร็จ ก็สรงน้ำพระกันและเดินทางไปชม หอวัฒนธรรมลาวเวียง ในบ้านชุ้ง ไปไหว้หลวงพ่อพระพุทธรูปที่แกะสลักมาจากไม้ ได้ฟังเรื่องราวของชนชาติพันธุ์ลาวเวียงที่อพยพมาจากลาว และไฮไลท์ของบ้านชุ้งคือต้นมะขามยักษ์ ต้นมะขามปู่/มะขามย่า สองต้นยืนเคียงข้างกันตามทางลงไปสู่แม่น้ำป่าสัก เป็นต้นมะขามที่มีรากใหญ่ และใต้รากต้นมะขามสามารถลอดได้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นักท่องเที่ยวสามารถนำผ้าขาวม้ามาผูกกับต้นมะขามได้ ทุกคนที่มาตื่นเต้นไปกับต้นมะขามยักษ์กันทุกคน สนใจอยากไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตลาวเวียงบ้านชุ้ง ติดต่อที่ นายสมนึก แสนสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านชุ้ง โทร 088-010-8838
เราเดินทางไปที่วัดบ้านกอก สร้างขึ้นปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 3 ไปชมโบสถ์มหาอุดกัน จากนั้นก็เดินไปด้านหลังวัดติดแม่น้ำป่าสัก มีตลาดวัฒนธรรม ตลาดริมท่าบ้านแก้ง ซึ่งมีร้านค้ามากมาย มีการแสดงการฟ้อนรำของชนชาติลาวเวียงและการแสดงโขน รจนาเลือกคู่ จากนั้นมีการรำวงย้อนยุค เชิญพวกเราร่วมรำวงด้วยกัน สนใจติดต่อ นางปราณี บุตกง อบต.บ้างแก้ง โทร 090-994-4254
เราออกเดินทางจากบ้านแก้ง เพื่อมุ่งหน้าไปยัง โรงแรมศุภาลัยสปาแอนด์รีสอร์ท ป่าสักอยู่ในอำเภอแก่งคอย คืนนี้เราพักที่นี่และทานอาหารมื้อค่ำที่ห้องอาหารทานตะวัน มีการแสดงต้อนรับและแนะนำผู้ที่มาร่วมงานโดยมีนายทนงยุทธ จันทรกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าคล้อ อ.แก่งคอย นายธนภัทร ช่อมะกอก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ นายสฤษดิ์ จิตนอก ประธานชมรมการท่องเที่ยวแก่งคอย มาร่วมในงานจัดเลี้ยงอาหารแก่พวกเราจึงถึงเวลาพอสมควรจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ่งนี้เรายังมีภารกิจที่จะต้องทำงานอีกเยอะ เหนื่อยมาทั้งวัน คืนนี้นอนหลับอย่างสบายอารมณ์.
