การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 2/2566 เท่ากับ 72 อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติมาก และลดลดกว่าไตรมาสที่ผ่านมา สะท้อนถึงความกังวลของผู้ประกอบการและรายได้ที่ลดลง โดยในไตรมาสหน้า 3/2566 ผู้ประกอบการมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเป็น 80 ด้านการฟื้นตัวของรายได้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วประเทศกลับมาประมาณร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ด้านการจ้างงานธุรกิจที่พักแรมประมาณร้อยละ 10 ที่ระบุว่ายังขาดแคลนแรงงาน
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. กล่าวว่า เรามี 2 ข่าวดี และ 2 ความท้าทาย ข่าวดีแรกคือ 7 เดือนติดต่อกันที่เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เกิน 2 ล้านคนต่อเดือน ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 12.8 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายครึ่งปีแรก 13 ล้านคนเพียงเล็กน้อย และเราได้ปลดล๊อคโรงแรมขนาดเล็กให้เข้าสู่ระบบได้อย่างถูกกฎหมายและปลอดภัย ส่วน 2 ความท้าทาย คือ ตัวเลขนักท่องเที่ยวในไตรมาสนี้เริ่มชะลอตัวลง และการฟื้นตัวของรายได้เป็นลักษณะ K Shape คือ 34% ของผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่ม อีก 34% รายได้ลด โดยผู้ที่รายได้เพิ่ม คือ ผู้ที่มีทุน มีความรู้ และมีนวัตกรรม ดังนั้น สทท. ขอฝากรัฐบาลชุดใหม่ให้เร่งออกนโยบายพัฒนา SME ท่องเที่ยว และเติมบูสเตอร์ช๊อต ดันแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้ง Inbound และไทยเที่ยวไทยควบคู่กัน
ว่าที่ร้อยตรีอเนก นุรักษ์ รองประธาน สทท. กล่าวเสริมว่า เรากำลังเดินหน้านโยบาย 4 เติม เติมทุน เติมลูกค้า เติมความรู้ เติมนวัตกรรม อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ร่วมกับ สสว. เติมความรู้ และเติมนวัตกรรม ในโครงการ SME Restart 2566 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 5 ภาค
นายกิตติ พรศิวะกิจ ประธาน Smart Tourism สทท. กล่าวว่า สทท. ได้พัฒนาหลักสูตร Smart Tourism ที่พัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรม ยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้เก่งขึ้น มีรายได้และผลกำไรมากขึ้น สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งด้าน Smart Technology / Green Tourism & SDG / Health & Wellness & Tourism เราอัพเดต Marketing Tech ใหม่ๆ ที่ใช้ได้ทันที เช่น การใช้ ChatGPT / Tiktok / Influencer / เสี่ยวหงชู / Metaverse และมีการเติมทุน สนับสนุนการใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ สสว. และ DEPA
นายกรณรงค์ ทองหนู รองประธาน สทท. ด้านตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ กล่าวว่า สทท. กำลังดำเนินการโครงการ บัสทัวร์ทั่วไทย เฟส 2 เพื่อส่งเสริมการเดินทางข้ามจังหวัด ข้ามภาค กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เป็นการต่อยอดความสำเร็จของโครงการแรก ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากบริษัทนำเที่ยวและรถบัส โดยเฟสนี้ ททท. และ สทท. ได้มีการปรับกระบวนการทำงานให้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการท่องเที่ยว
นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ ประธานอนุกรรมการที่พักแรมขนาดเล็ก สทท. กล่าวเสริมว่า การปลดล๊อคโรงแรมขนาดเล็ก จะทำให้ที่พักแรมกว่า 50,000 แห่ง ห้องพักรวมกว่า 2 ล้านห้อง ได้เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งนำไปสู่การได้มาตรฐาน การพัฒนาเรื่องความปลอดภัย การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย การสร้างรายได้ให้กับประเทศ และการสร้างงานไม่ต่ำกว่า 500,000 ตำแหน่ง
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. กล่าวเสริมว่า สทท. พร้อมเดินหน้าอย่างไร้รอยต่อและยินดีร่วมงานกับทุกพรรคการเมืองและทุกสมาคม เป้าหมายใหญ่คือการขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย ให้เป็นที่หนึ่งของโลก เพื่อเป็นกลไกในการฟื้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ สร้างความอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชุมชนและคนไทยทั้งประเทศ