สกู๊ปพิเศษ : “อพอลโล” ต้นตำรับหมูสะเต๊ะ ชลบุรี สองพี่น้อง “มิ้น-มายด์” แตะมือสานต่อธุรกิจครอบครัว

สกู๊ปพิเศษ

โดย…ยอดเยาวพา

“อพอลโล” ต้นตำรับหมูสะเต๊ะ ชลบุรี สองพี่น้อง “มิ้น-มายด์” แตะมือสานต่อธุรกิจครอบครัว

              มีโอกาสได้รู้จัก “อพอลโล” ต้นตำรับหมูสะเต๊ะ ชลบุรี ที่เปิดมานานตั้งแต่ปี 1969 โดยเริ่มจากอากงเป็นผู้ริเริ่ม จนมาถึงรุ่นพ่อและมารุ่นลูกสาวทั้งสองที่เป็นเจนใหม่ อย่าง “มิ้น – พัชชาพลอย ปรัชญาโรจน์ และ “มายด์ – พรชนก ปรัชญาโรจน์” ที่ขอรับช่วงธุรกิจต่อจากบิดา พร้อมปรับปรุงร้านเดิมให้ทันสมัยขึ้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นให้รู้จักหมูสะเต๊ะในตำนานของชลบุรี ที่ก่อนจะเขียนข่าวก็ได้ยินชื่อมานานจากคนสนิทที่ไปทานหมูสะเต๊ะตั้งแต่รุ่นพ่อยืนปิ้ง โดยธุรกิจนี้ลูกสาวต่างสำนึกว่าทำให้ได้เรียนระดับปริญญาตรีและเลี้ยงครอบครัวจึงอยากสานต่อเพราะเห็นบิดาอายุมากยืนปิ้งหมูไม่ไหวแล้ว แต่ก็ไม่ได้อยู่บ้านเฉย ๆ ยังไปตลาดกับลูกสาวเพื่อเลือกซื้อวัตุดิบมาทำหมูสะเต๊ะแต่ละวัน หรือลงมาพูดคุยกับลูกค้าที่เคยเป็นขาประจำสมัยตัวเองยังดูแลธุรกิจอยู่ กระทั่งส่งไม้ต่อให้ลูกสาวทั้งสองที่มีความตั้งใจ มุ่งมั่น แม้เป็นงานที่เหนื่อยแต่ก็อดทนสู้ เพราะสำนึกเสมอว่าธุรกิจที่อากงสร้างเลี้ยงครอบครัวมีกินมีใช้ทุกวันนี้

              สำหรับเรามีโอกาสไปทานพอดีเป็นรุ่นลูกได้เห็นการตกแต่งร้านใหม่ ก้าวแรกที่เข้าไปในร้านรู้สึกประทับใจบรรยากาศ รอยยิ้มและการบริการมาก จากที่ทานหมูสะเต๊ะสองครั้งและถามคนสนิทยืนยันรสชาติของหมูเนื้อนุ่มไม่เหนียว ตับก็นุ่มไม่แพ้กันเพราะเป็นสูตรดั่งเดิม ขณะนั่งรอก็จะได้กลิ่นหมูสะเต๊ะปื้งจากเตาถ่านหอมชวนน้ำลายหกแล้วหกอีก นอกจากหมูสะเต๊ะ ตับสะเต๊ะแล้ว ร้านได้เพิ่มเมนูอื่นที่เป็นฝีมือของคุณแม่ อย่าง ฮ่อยจ๊อกรรเชียงปู ฮ่อยจ๊อไข่ปู แม้ทุกอย่างที่ทานไปนั้นจะเลี่ยน แต่ร้านแนะนำชามะลิเย็นชื่นใจแก้เลี่ยนได้ดีจากที่ดื่ม

               สาธยายเมนูอาหารไปแล้ว คราวนี้ไปทำความรู้จักผู้บริหารเจนใหม่  โดยเริ่มที่พี่สาวสายมาร์เก็ตติ้งจบจากเอแบค มิ้น – พัชชาพลอย ปรัชญาโรจน์ เล่าว่า “หวัดดีค่ะมิ้น เป็นทายาทรุ่นที่สามของอพอลโลหมูสะเต๊ะ ปกติมิ้นต้องตื่นตีห้าเพราะต้องเตรียมวัตถุดิบใหม่ทุกอย่าง เช่นน้ำจิ้มถั่ว เราต้องตื่นมาทำตั้งแต่เช้าก็เพื่อเตรียมความสดใหม่ที่ต้องทำวันต่อวันค่ะ โดยหน้าที่จ่ายตลาดเลือกวัตถุดิบหนูจะเป็นคนไปเลือกเอง เราจะรู้ว่าหมูต้องเลือกส่วนไหนมาปิ้งให้นุ่มหรือตับก็เช่นกัน ถั่วเลือกยังไง หรือเครื่องเคียงเลือกยังไง แต่ก็จะมีคุณพ่อไปตลาดบ้างช่วงหนูยุ่ง ตอนนี้คุณพ่ออายุหกสิบสี่แล้วยังแข็งแรงค่ะ แต่ก็จะไม่ให้ท่านไปไกลแค่ให้ออกไปเจอบรรยากาศข้างนอกบ้าง หนูกับน้องเราจะแบ่งงานกัน โดยหนูจะรับช่วงเช้า ตั้งแต่ตีห้าจนถึงสี่โมงเย็น ส่วนน้องมายด์จะมารับช่วงต่อบ่ายสามโมงถึงหนึ่งทุ่มค่ะ ก็คือผลัดกัน ไม่ท้อนะคะ เพราะเรารักอาชีพการบริการด้วย ก็เป็นอาชีพของครอบครัวเราเอง คือเรามีวันนี้ได้ตั้งแต่รุ่นแรกทำมาค่ะ เรารู้สึกภูมิใจ เพราะเป็นอาชีพที่ส่งเราเรียนและเรามีกินมีใช้เพราะอาชีพของอากง อาม่าของพ่อของแม่ค่ะ

               จากที่ตัดสินใจสานต่อธุรกิจคุณพ่อหนูกับน้องต้องอดทน หนูเรียนจบมาร์เก็ตติ้งจากเอแบค ส่วนน้องมายด์จบบัญชีจากมหา’ ลัยจุฬาฯ แต่ก่อนหน้าหนูทำงานบริษัทมาประมาณแปดปีก็เลยตัดสินใจออกจากงาน มาแตะมือกับน้องมายด์สานต่อธุรกิจหมูสะเต๊ะ ไม่อยากให้ชื่อเสียงของอพอลโลหมูสะเต๊ะหายไป แต่ก่อนเริ่มทำก็คุยกับน้องมายด์ว่า ต้องอดทนนะ เพราะก็เห็นอยู่ตอนคุณพ่อยืนปิ้งหมูเอง แล้วสอง ใจเราชอบมั้ย เพราะเราต้องอยู่กับมันทุกวัน แต่หนูชอบนะ เพราะเราเห็นมาตั้งแต่เด็ก เวลากลับจากโรงเรียนหรือวันหยุดเราก็ช่วยคุณพ่อแม่ ซึ่งก่อนที่หนูจะตัดสินใจสานธุรกิจหนูเคยทำงานเป็น customer service มาก่อน หนูก็ชอบงานบริการอยู่แล้วค่ะ ตัวน้องมายด์เองก็ชอบ เพราะเราสองคนเห็นมาตั้งแต่เด็ก แล้วนอกจากหมูสะเต๊ะที่ร้านยังมีฮ่อยจ๊อกรรเชียงปู ฮ่อยจ๊อไข่ปูคุณแม่ทำเอง และกุนเชียงเป็นของน้องชายแม่ ทุกอย่างสั่งได้ส่งทั่วประเทศ สั่งที่เบอร์ 092-212-2411, 080-096-4159 และรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ด้วยค่ะ ถ้าใครคิดถึงอพอลโลหมูสะเต๊ะสมัยก่อนอยากขอให้ลองมาชิมกันอีกครั้งมันมีการปรับไปตามสมัย แต่รับประกันคุณภาพและรสชาติอาหารยังคงเดิมค่ะ”

            ต่อด้วยน้องสาวสายบัญชี จากมหาวิทยาลัยจุฬาฯ มายด์ – พรชนก ปรัชญาโรจน์ เสริมต่อว่า “ชื่อมายด์นะคะ เป็นทายาทรุ่นพี่สาม นับจากอากงเป็นคนเริ่มหมูสะเต๊ะ แล้วเป็นคุณพ่อก็มาเป็นรุ่นหนูกับพี่ ตอนนี้มายด์อายุ 28 ค่ะ คือจริง ๆ อากงทำหาบเร่มาก่อนค่ะ แต่ตึกนี้เซ็งตอนปีที่ ยานอพอลโลขึ้นปี 1969 อากงก็เลยตั้งชื่อร้านอพอลโล พอมารุ่นหนูกับพี่มิ้นก็มารีโนเวท เพราะแต่ก่อนที่คุณพ่อขาย ซึ่งหนูเกิดมาก็เป็นบ้านหลังนี้แล้ว วันหยุดหนูก็จะช่วยคุณพ่อ คือเห็นธุรกิจนี้มาตั้งแต่เด็ก แล้วพอเรียนจบมาเห็นคุณพ่อยืนปิ้งหมูนาน ๆ เขาปวดขา หลัก ๆ คุณพ่อจะทำเองทุกอย่าง แต่ทีนี้คุณพ่ออายุเริ่มเยอะ ปีนี้หกสิบกว่าแล้วค่ะ หนูกับพี่สาวเลยคุยกันอยากรับช่วงกิจการต่อ แต่เราเป็นคนรุ่นใหม่คือตึกมันค่อนข้างโทรม ของเราอร่อยอยู่แล้วเนอะ (หัวเราะ) อาจจะชมตัวเองนิดนึง ก็เลยมองว่าเราอยากจะปรับให้มันเข้ากับยุคสมัยด้วย ถ้าเด็ก ๆ รุ่นเรามาเขาก็รู้สึกอยากเข้าร้านเลยทำการรีโนเวทร้านให้ตอบโจทย์ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ด้วยค่ะ จากรีโนเวทแล้วรุ่นใหม่มาเยอะขึ้นนะคะ จากเด็ก ๆ ที่ไม่เคยเข้าร้านหมูสะเต๊ะมาก่อน แต่เด็กรุ่นใหม่ก็จะมองว่าหมูสะเต๊ะจะกินเป็นมื้ออาหารได้มั้ย แต่ก็มีเด็กมาเยอะขึ้นค่ะ (เล่าไปยิ้มไป) และลูกค้าประจำเป็นเด็กเพิ่มขึ้นค่ะ

               สมัยคุณพ่อปิ้งหมูสะเต๊ะไม้ละ 2 บาท พอมารุ่นมายด์จะเป็นไม้ละ 7 บาท จะมีหมูและก็ตับเหมือนเดิม สูตรได้มาจากอากงเลย คือตอนตกลงกับคุณพ่อว่าจะลงมาทำคุณพ่อก็สอนสูตรมายด์กับพี่มิ้นว่าผสมสูตรยังไง เสียบหมูยังไง มายด์กับพี่สาวต้องทำเป็นหมดเลย แต่พ่อก็มองว่าลูกสาวจะทำได้มั้ย เพราะไม่เคยทำมาก่อน แต่พอคุยกับคุณพ่อจริงจังว่าเราจะทำนะ คุณพ่อบอกต้องไปรู้ตั้งแต่เลือกซื้อหมู หั่นหมูยังไง เสียบหมูยังไง หมักหมูยังไง น้ำจิ้มทำยังไง จนพี่สาวกับหนูลองไปเรียนกับคุณพ่อจนคุณพ่อเห็นว่าเราสองคนทำได้ก็ค่อย ๆ ปล่อย สำหรับรายได้โอเคขึ้นนะคะ นอกจากหมูสะเต๊ะ ตับสะเต๊ะที่เป็นพระเอกของร้านแล้ว มายด์อยากจะฝากเมนูของทอด ฮ่อยจ๊อกรรเชียงปู ฮ่อยจ๊อไข่ปูคุณแม่เป็นคนทำเอง จริง ๆ คุณแม่ทำฮ่อยจ๊อมานานมากแล้วเรียนจากอาม่าอากงแต่ทำกินเองและทำไหว้ เหมือนพอคุณแม่ทำเราชิมไปเรื่อย ๆ เริ่มอร่อยก็เลยเอามาขายในร้านด้วยค่ะ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากฝากไว้ค่ะ

               ถ้าร้านอพอลโล ต้นตำรับหมูสะเต๊ะอยู่ปากซอยท่าเรือพลีเป็นร้านที่มายด์และพี่มิ้นดูแล แต่ก็มีร้านญาติพี่น้องรวมกันประมาณห้าสาขา ถ้าจะมาทานเลี้ยงสังสรรค์ในร้านโทรจองได้ที่ 080-096-4159 ค่ะ มายด์ขอฝากร้านหมูสะเต๊ะอพอลโล ปากซอยท่าเรือพลี ที่ร้านมีเมนูหลากหลาย หมูสะเต๊ะ ตับสะเต๊ะ ฮ่อยจ๊อกรรเชียงปู ฮ่อยจ๊อไข่ปู สาหร่ายไส้กุ้ง กุ้งกระเบื้อง ที่อร่อยอีกเมนูข้าวผัดปูก้อนค่ะ ถ้าใครมาชลบุรีก็แวะมาทานนะคะ ร้านเปิดทุกวันเวลา 7 โมงถึงหนึ่งทุ่มค่ะ”

Related posts