หนังดีติดดาว***
จากตำนานเรื่องเล่าเขย่าขวัญ สู่ความสยองเต็มตาบนจอภาพยนตร์ ชวนขนหัวลุกของเสียง “ธี่หยด” เสียงเพรียกแห่งความหลอน จากปลายปากกาของ “กฤตานนท์” หรือ “กิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์” บุตรชายเจ้าของเรื่องราว ที่ได้นักแสดง อาทิ ณเดชณ์ คูกิมิยะ, เดนิส เจลีลชา คัป, มิ้ม รัตนวดี วงศ์ทอง, จูเนียร์ กาจบัณฑิต ใจดี, เฟรนด์ พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, นีน่า ณัฐชา เจสสิก้า,
ชอบโปรดักชันที่สร้างโลกย้อนยุคไปในช่วงปี 2510’s ได้อย่างน่าเชื่อถือ ชอบศิลปะการสร้างภาพยนตร์ถ่ายทอดออกมาสวยงามถึงขั้นวิจิตรบรรจง หนังมีตัวละครหลักและรองเยอะ แต่เดินเรื่องอยู่จริงแค่ 3-4 ตัว ถ้ายกความสยองขวัญออก นี่คือหนังที่พูดถึงความสำคัญของคนในครอบครัวที่ควรจะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันไว้ ส่วนที่ไม่ชอบก็เรื่องจังหวะการเข้าความสยองขวัญที่โจ่งแจ้งและเห็นมาแต่ไกล เลยตั้งรับได้ทันแทบทุกครั้ง ไม่ปลื้มกับตรรกะความคิดและการกระทำที่ดูไม่สมเหตุสมผลของตัวละคร หนังใช้ดนตรีโหมเข้าใส่แบบเล่นใหญ่และเกินเบอร์จนน่ารำคาญ มียิงมุกตลกที่ผิดที่ผิดทางมาหลายครั้ง จังหวะที่ควรจะสยองก็กลายเป็นหัวเราะกันทั้งโรง ด้านนักแสดงมิ้มเล่นดีสุดเชื่อว่าถูกผีจริง ส่วนแบรี่-ณเดชน์ก็เป็นแบกหนังอยู่พร้อมการแสดงได้มาตรฐานของเขา แต่บางฉากอาจเล่นใหญ่เล่นเยอะไปบ้าง
ติดให้ ** ครึ่ง
ooo
“Tokyo MER” (โตเกียว เอ็มอีอาร์) นำทีมช่วยชีวิตโดย เรียวเฮ ซูซูกิ, เค็นโต คากุ, อายามิ นากาโจ, นานาโอะ, ชินยะ โคเตะ, ฮายาโตะ ซาโนะ, ฝอง จิ, ยูริโกะ อิชิดะ กับเรื่องราวเมื่อหกเดือนต่อมาหลังหน่วย Tokyo MER ได้ถูกก่อตั้ง ก็พบเข้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเมื่อตึก Yokohama skyscraper เกิดเหตุไฟไหม้และมีผู้ติดอยู่ในตึกสูงถึง 193 ชีวิตด้วยกัน เหล่าฮีโร่ผู้ไม่มีพลังวิเศษ มีเพียงวิชาชีพกับจิตใจอันเข้มแข็งของเหล่าทีมแพทย์และพยาบาลของทีม Tokyo MER เท่านั้นที่จะเข้าไปช่วยได้
เป็นหนังที่ต่อยอดมาจากซีรีส์ 11 ตอน ในชื่อเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องดูซีรีส์ก็สามารถดูหนังได้สนุก รู้เรื่อง และเข้าใจ ชอบความตื่นเต้นเวลาทีมแพทย์เข้าปฏิบัติการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เครื่องไม้เครื่องมือ ตลอดจนวิธีปฏิบัติสะท้อนให้เห็นว่าผู้สร้างทำการบ้านมาเป็นอย่างดี หนังให้ข้อมูลตัวละครหลักได้มีมิติดี ปนดรามาที่เอาเรื่องส่วนตัวของตัวละครหลักมาขยี้ก็ได้ผลเพราะน่าติดตาม แต่กลุ่มตัวละครรองคือรู้จักแค่ชื่อ แต่จะไม่รู้จักอะไรอื่นเลย ยิ่งทีมแพทย์อีกกลุ่มที่หนังใช้เป็นฝั่งตรงกันข้าม อันนี้คือกลายเป็นตัวละครประกอบที่มิติแบนราบไปไม่โดดเด่นเกือบทุกตัว ในส่วนของโปรดักชันนั้นงานสร้างอยู่ในระดับดีพอใช้ได้ แต่ CG ลอยและปลอมแบบเห็นชัดเจน
ติดให้ ****
ooo
“เพื่อน(ไม่)สนิท” ภาพยนตร์แนวตลกดรามาในรั้วโรงเรียนของ GDH ผลงานโปรดิวซ์จาก วัน-วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ และ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ (จาก ฉลาดเกมส์โกง) ที่กำกับโดย อัตตา เหมวดี นำแสดงนำโดย โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์, จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ, ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์, ฟลุ๊ค-ธนกร ติยานนท์ และ ฟ้อนด์-ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา เมื่อ เป้ (โทนี่ อันโทนี่) เด็กม.6 ที่กำลังถูกพ่อกดดันในการสอบเข้ามหา’ลัย ได้รู้ข่าวการรับนักศึกษาเข้าเรียนโดยการทำหนังสั้นส่งประกวด เขาจึงเกิดไอเดียในการนำเรื่องของ โจ (จั๊มพ์ พิสิฐพล)เพื่อน(ไม่)สนิทที่นั่งโต๊ะติดกัน แต่ดันโชคร้ายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมาทำเป็นหนังสั้นด้วยความเชื่อที่ว่า “ทำหนังเกี่ยวกับคนที่จากไป ยังไงแม่งก็ซึ้ง” แต่เรื่องก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเป้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำหนังเลยแม้แต่น้อย! แถมยังเจอขวากหนามในคราบมนุษย์อย่าง โบเก้ (ใบปอ ธิติยา) เพื่อนสนิทตัวจริงของโจ ที่โชว์สปิริตเสนอตัว ขอมาช่วยทำหนังสั้นเรื่องนี้แบบที่เป้ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธมันยังไงดี ภารกิจวายป่วงในการทำหนังสั้นที่มีอนาคตของเป้เป็นเดิมพันจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับค้นพบ “ความลับ” อะไรบางอย่างที่โจซ่อนไว้ ซึ่งอาจจะกระทบต่อความทรงจำ และก้อนความสัมพันธ์ที่อยู่ในใจพวกเขา
หนังเล่าเรื่องราวได้เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ตัวละครแต่ละตัวก็โดดเด่นในบทบาทของตัวเองมากยิ่งขึ้นๆ นักแสดงนำทุกคนเล่นได้ดีทีเดียวพาเข้าถึงอารมณ์ตัวละคร ส่งความรู้สึกถึงคนดูได้เต็มที่มากขึ้นตามเรื่องราว ส่วนเนื้อเรื่องที่ดูเหมือนไม่ซับซ้อนตอนแรก ก็มีเรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้น และลายเซ็นของหนังค่าย gdh ต้องทำออกมาให้ได้รู้สึกประทับใจ ฟีลกูดที่ดูแล้วทำให้ทุกคนที่เคยมีเพื่อนร่วมเรียนมาด้วยกันได้กลับไประลึกถึงอดีตในช่วงที่เรียนแน่ ๆ รวมทั้งให้มุมมอง แง่คิด ในการเลือกที่จะกระทำ รวมถึงผลของการกระทำนั้นด้วยแล้ว ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้ทำตามอย่าง เป็นเรื่องแสดงถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่เคยมีความผูกพันจึงได้อยากรำลึกเลยถ่ายทอดออกมาในแบบที่เลือกกระทำถือเป็นตัวอย่างที่ดี
ติดให้ ****
ooo
คำถามภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อน(ไม่)สนิท” เพื่อนคนไหนถูกนำเรื่องราวมาทำหนังสั้น ?
ทราบคำตอบเขียนชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร. และคำตอบให้ชัดเจนลงไปรษณียบัตรส่งมาที่
คอลัมน์ “หนังดีติดดาว”
32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ที่ตอบถูก 3 ท่านจะได้รับของรางวัลจาก “GDH” (ขอบคุณสนับสนุนของรางวัลเล่นเกม)
ooo
ต้อนรับอะนิเมชันเรื่องดัง “Digimon Adventure 02 – THE BEGINNING” ที่ทาง CARTOON CLUB ได้จับมือกับ WARNER BROS. PICTURE เข็นขึ้นจอยักษ์พร้อมเปิดการผจญภัย โดยเรื่องราวเกิดขึ้นปี 2012 หลังจากการผจญภัยในโลกดิจิทัลผ่านไปสิบปีปี จู่ ๆ ก็มีดิจิทามะขนาดยักษ์ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าเหนือโตเกียวทาวเวอร์ พร้อมกับข้อความหนึ่งที่ปรากฏขึ้นทั่วโลก คือ “มอบเพื่อนให้กับทุกคน ส่งดิจิมอนให้กับคนทั้งโลก” ไดสุเกะ และเพื่อน ๆ กำลังรวมตัวกันอยู่ที่ร้านราเม็งได้เห็นข่าวในทีวีว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปีนโตเกียวทาวเวอร์ ในมือมีดิจิไวซ์ พวกไดสุเกะจึงตามไป และได้พบกับ รุย ซึ่งบอกว่า เขาคือ มนุษย์คนแรกที่ผูกสายสัมพันธ์กับดิจิมอน แต่ตอนนี้เขาไม่มีดิจิมอนอยู่ด้วย เพราะรุยเชื่อว่ามนุษย์กับดิจิมอนไม่ควรพบกัน เป็นเพราะเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นเมื่อสิบห้าปีก่อน ไดสุเกะและเพื่อน ๆ รวมทั้งดิจิมอนคู่หู จึงต้องรวมพลังกันเพื่อจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย โดยมีสายสัมพันธ์ของพวกเขากับดิจิมอนคู่หูเป็นเดิมพัน!
ไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ แต่พอทำอะนิเมชันเลยอยากดู เปิดเรื่องเข้าใจง่าย ดำเนินเรื่องไม่เยิ่นเย้อ เป็นเรื่องราวการผูกสัมพันธ์ระหว่างไดสุเกะและเพื่อน ๆ กับดิจิมอนคู่หู ที่ต่างช่วยรุย ซึ่งในอดีตเคยผูกสัมพันธ์กับดิจิมอนชื่อ ‘อุ๊กโกะมอน’ ในวันเกิดของเขาตรงระเบียงห้องท่ามกลางหิมะตก ฉากนั้นทำเอาน้ำตาซึม นักพากย์ถ่ายทอดออกมาได้กินใจ และเลือกเสียงพากย์เหมาะกับดิจิมอนและพวกไดสุเกะ สีสันของเหล่าดิจิมอนก็สดใส น่ารักแตกต่างกันไป เนื้อเรื่องเน้นการร่วมแรงร่วมใจ สอดแทรกแง่คิดสายใยครอบครัว สายใยระหว่างพวกไดสุเกะกับดิจิมอนคู่หูที่ถึงแม้ดิจิไวซ์สลายไปแต่ความสัมพันธ์ยังอยู่ ส่วนของกราฟฟิคฉากต่อสู้ทำออกมาตื่นเต้น เสียงซาวน์ตูมตามลั่นโรงไม่กลบเสียงพากย์ สรุปเมื่อรุยย้อนเวลากลับไปได้แทนที่จะพูดกับอุ๊กโกะมอน แต่รุยเลือกพูดกับแม่ตัวเอง เพราะความสุขของรุยแท้จริงแล้วคือได้รับความรักจากแม่นั่นเอง แต่ตอนจบจะดีมากถ้าให้เห็นไข่แตกเป็นดิจิมอนอุ๊กโกะมอนจะซึ้งกว่านี้
ติดให้ *** ครึ่ง
ooo
“CONFINEMENT บ้านกักวิญญาณ” ผลงานของผู้กำกับมือรางวัล “เคลวิน ตง” ที่ได้สองนักแสดงเก่ง รีเบคก้า ลิม มารับบท หวังซื่อหลิง และ ซินเธีย โคห์ มารับบท อาชิง-พี่เลี้ยง ที่มาร่วมตามไล่ล่าสืบค้นความจริงที่แสนระทึกขวัญที่ซ่อนอยู่ภายใต้ปริศนาของบ้านหลังนี้?
หนังเดินเรื่องแบบไม่เร่งรีบ แล้วยังจงใจปล่อยข้อมูลที่ไม่ปะติดปะต่อกันมาให้ก่อน ช่วงแรกไปจนถึงกลางเรื่องคือ ดูไปอึดอัดไปจนเกือบเข้าขั้นรำคาญ ชั้นเชิงในการเข้าความสยองขวัญก็ไม่เท่าไหร่นัก แถมผีก็ออกแนวทุนต่ำ โดยเอานักแสดงมาใส่ชุดรุ่มร่าม ใส่วิกผมยาว แล้วแต่งหน้าแต่งตาให้ดูเละเทะแค่นี้เลย แต่ปรากฏว่าพอผ่านครึ่งเรื่องเริ่มกระชับ และเดินหน้าอย่างรวดเร็ว จิ๊กซอว์รายละเอียดที่ไม่สมบูรณ์ก็เริ่มต่อกันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น แล้วก็เฉลยทุกอย่างออกมาทำให้ดูสนุกขึ้นส่วนปมที่ผูกไว้ต้นเรื่องมาสนุกเอาช่วงท้ายนี่
ติดให้ ** ครึ่ง
ooo
“Dear David ตามหลอก ตามหลอน” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงของนักวาดการ์ตูนออนไลน์ เมื่อผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “จอห์น แมคเฟล” (Anna and the Apocalypse) ดึงเรื่องราวที่เขาประทับใจในโลกออนไลน์ โดยย้อนกลับไปในปี 2017 เคยเกิดกระแสไวรัล สุดโด่งดังที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายบนทวิตเตอร์ เมื่อ “อดัม เอลลิส” นักวาดการ์ตูนหนุ่ม ได้ทวิตข้อความว่า อพาร์ตเมนต์ของเขานั้นถูกผีเด็กเข้ามาสิงสู่ ซึ่งเป็นผีเด็กหัวบุบที่มีชื่อว่า ‘เดวิด’ คอยตามรังควานเขาทั้งในฝันและโลกจริง ซึ่งอดัมก็ได้ทวิตข้อความอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ชวนขนลุกที่เขาได้เจอภายในห้องของตัวเองไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายที่อ้างว่าถ่ายติดผีเดวิด หรือแม้กระทั่งคลิปสัตว์เลี้ยงของเขาในห้องที่พร้อมใจเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูเหมือนรอใครบางคน
หนังทำออกมาจากพื้นฐานเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริง แม้เรื่องราวอาจจะไม่ได้ดูสยองขวัญ แบบเละเทะ หรือให้ดูน่ากลัวเท่าไหร่ แต่ก็สามารถทำให้กลัวได้ ดูไปก็สะดุ้ง เป็นการเล่าเรื่องและทำให้สัมผัสความน่ากลัวได้เยี่ยมดีมาก เหมือนมีอะไรตามอยู่จริง ๆ นั่งดูยังคิดว่ามีใครตามดูอยู่ แต่บางฉากก็ไม่สมเหตุสมผล ส่วนของนักแสดงตัวเอกเล่นได้ดีมาก เป็นเพศทางเลือกที่เล่นได้เข้าขาเป็นธรรมชาติสุด ๆ การถ่ายทอดความรักชายรักชาย ซึ่งคนมีความรักแบบนี้ดูแล้วน่าจะอิน เพราะนักแสดงถ่ายทอดความรัก ความสัมพันธ์ออกมาดี สำหรับการเก็บรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการสื่อสาร โปรแกรมแชต ทำได้ตรงตามกาลเวลาความนิยมในขณะนั้น ชื่อเรื่องเป็นหนังผี ซึ่งผีและปีศาจก็ไม่ค่อยโผล่บ่อย แต่ทำให้ดูไปก็กลัว หลอนตลอดทั้งเรื่อง
ติดให้ *** ครึ่ง
ooo
ภาพยนตร์อะนิเมชัน “Lonely Castle In The Mirror” หมาป่าโดดเดี่ยว ปราสาทเดียวดาย ในกระจก สร้างจากสุดยอดผลงานของ สึจิมุระ มิซึกิ นิยายขายดีที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ การันตีด้วยรางวัลชนะเลิศ Japan Bookseller Award (本屋大賞 / Honya Taisho ประจำปี 2018) ซึ่งเป็นรางวัลที่ร้านหนังสือทั่วประเทศโหวตให้หนังสือที่อยากขายที่สุดแห่งปี ด้วยคะแนนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ กับเรื่องราวของ โคโคโระ เด็กนักเรียนม.ต้น ที่สูญเสียที่อยู่ของตัวเองที่โรงเรียน และขังตัวอยู่แต่ในห้อง วันหนึ่งในช่วงบ่ายของเดือนพฤษภาคม จู่ ๆ กระจกในห้องของเธอก็เปล่งแสง และดูดเธอเข้าไป เมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เธอพบคือปราสาทใหญ่ที่ราวกับหลุดออกมาจากนิทาน กับเด็กม.ต้นคนอื่นที่ไม่รู้จักอีก 6 คน แล้วก็มีเด็กผู้หญิงที่ใส่หน้ากากหมาป่า ผู้เรียกตัวเองว่า “ท่านหมาป่า” ปรากฎตัวออกมา
เป็นหนังที่ให้ข้อมูลตัวละครและเรื่องราวน้อยมากในช่วงแรกจนดูแล้วอึดอัด อีกทั้งยังมีความแฟนตาซีที่ไม่อธิบายที่มาที่ไปของโลกในอีกมิติหนึ่งเลย ทำให้รู้สึกถามหาเหตุและผลอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเส้นเรื่องเดินไปเกือบจะครึ่งทางก็จะเริ่มเข้าใจในทุกอย่างที่ไม่เข้าใจในตอนต้น ว่าประเด็นที่หนังต้องการนำเสนอจริง ๆ คือเรื่องของการกลั่นแกล้งกันในหมู่วัยรุ่น แต่นำเสนอผ่านความเป็นแฟนตาซี ที่ให้ตัวละครที่ผ่านประสบการณ์ชะตากรรมเดียวกันมารวมตัวกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความไว้เนื้อเชื่อใจกัน จนทำให้ตัวละครทั้งหมดมีกำลังใจในการฟันฝ่าอุปสรรคและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ติดให้ **** ครึ่ง
ooo
“อยากตาย อย่าตาย มรณาคาเฟ่” (Death Is All Around) โดยผู้กำกับ : โบ๊ท ธนณัฐ สุขเจริญ ที่นำแสดงโดย เซ้นต์ ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา, ฝน ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล, แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์, บาส สุรเดช พินิวัตร์, ดุล ร่มจำปา, เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ, คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ (เฟิด Slot Machine), เซ้ง วิชัย แซ่ฟ่าน และ สุนิล พล (หมอสุนิล)
โดยหนังทำออกมาได้แนวคิดดีมาก ชัดเจนในเนื้อเรื่อง และธีมฉากร้านคาเฟ่ แต่ในส่วนของฉากแสดงอื่น ๆ กลับดูไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่นัก ทำให้ดูแล้วรู้สึกจัดฉากเสียมากกว่า บวกกับการกำกับถ่ายภาพไม่สมดุลย์กัน ในส่วนของนักแสดงเล่นเน้นไปทางเท่ ดูดี เก๊กหล่อทำให้ถ่ายทอดออกมาไม่เป็นธรรมชาติ กลายเป็นดูฝืน ๆ เพราะต้องคอยเก๊กเลยทำให้ดูขัด ๆ ในช่วงที่เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้น แต่สำหรับเหล่าแฟนคลับคงจะชอบแหละ ซึ่งหนังเป็นแนวคิดเรื่องราว Helper ผู้ช่วยวิญญาณ แง่มุมใหม่ แปลกดี เพียงแต่นักแสดงเล่นไม่เป็นธรรมชาติเท่านั้น
ติดให้ ***
ooo
“14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand” ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ภายใต้การกำกับของผู้กำกับ “เป้ -นฤบดี เวชกรรม” (จาก low season สุขสันต์วันโสด) ครั้งนี้มาพร้อมกลุ่มเพื่อนซี้ในวัย 14 ที่สร้างเรื่องไม่มีแผ่ว ตัวแทนเด็กมัธยมยุค 2000 จากจังหวัดจันทบุรี ที่ประกอบด้วย 4 หนุ่มว้าวุ่น วุ่นว๊ายวุ่นวาย นำทีมโดย กัน (ภูผา-อินทนนท์ แสงศิริไพศาล), ม่อน (โยชิ-สุริยาวิชญ์ ถนอมชัยสนิท), ต่าย (เล็ก-ธีรเวช สุภาวงษ์), วัด (วีเจ-นพรุจ ตันธนวิกรัย) และอีก 2 สาวสุดคิวท์ แต่บวกลบ คูณ หาร ได้ผลลัพธ์ความแสบเกินเบอร์ นำโดย ผิง (แฟร์รี่-กิรณา พิพิธยากร) และ ซาร่า (โมเน่ต์BNK48-ภาริตา ริเริ่มกุล)
เป็นหนังแนวย้อนยุคยี่สิบปีก่อน เกี่ยวกับความรักของวัยรุ่นที่ทำออกมาดีทีเดียว อีกทั้งนักแสดงแต่ละคนแสดงได้น่ารักสดใส สำหรับเนื้อเรื่องค่อนข้างเรียบง่าย ดูเป็นแนวที่ไม่หวือหวาอาจจะไม่ได้มีอะไรให้ประทับใจมาก แต่ก็เป็นเรื่องราวในความทรงจำที่ดูทั่วไปดี ฉากในเรื่องเน้นใช้ป้ายช่วยบอกวันเวลาในยุคนั้น แต่ก็มีจุดพลาดอยู่บ้างที่เผลอเอาฉากที่มีอาคารพึ่งก่อสร้างเสร็จไม่กี่ปี มาร่วมอยู่ด้วย ทำให้สามารถจับผิดหนังได้ ในส่วนนักแสดงนำชายหญิงเล่นได้ดี ส่งความรู้สึกถึงคนดูได้เต็มที่ แต่เหล่านักแสดงคนอื่นยังดูมีเล่นแข็ง ๆ ฝืนธรรมชาติอยู่บ้างนิด ๆ นะ ซึ่งเป็นหนังเรียบง่ายดูได้ทั่วไป ควรชวนเพื่อน ๆ กลุ่มสนิท หรือเพื่อนที่ชอบกันไปดูก็จะอิน เพราะกลุ่มเพื่อนย่อมมีเรื่องเมาส์กันแน่
ติดให้ ***
ooo
“โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ตอนฟากฟ้าแห่งยูโทเปียของโนบิตะ” ผลงานกำกับของ “โดยามะ ทาคุมิ” ซึ่งมีผลงานกำกับใน “โดราเอมอน” ฉบับโทรทัศน์มามากมาย! เป็นเรื่องราวของ โนบิตะพบเกาะรูปพระจันทร์เสี้ยวปริศนาบนฟ้าและยืนกรานว่า “นั่นแหละคือยูโทเปียที่ฉันตามหา!” จึงได้ออกเดินทางตามหาเกาะนั้นกับพวกโดราเอมอนด้วยเรือเหาะกาลเวลา ที่มีชื่อว่า “ไทม์เซ็พเพอลิน” หลังจากที่ตามหาในยุคสมัยและสถานที่ต่าง ๆ จนเจอ ก็ได้พบว่าที่นั่นคือ [พาราดาเปีย] ดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ที่ทุกคนสมบูรณ์แบบได้ราวกับความฝัน! ณ ที่แห่งนั้น พวกเขาได้พบกับ โซเนีย หุ่นยนต์แมวที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง พวกโดราเอมอนและโซเนียได้ทำความรู้จักและสนิทสนมกัน แต่ดูเหมือนว่าแดนสวรรค์แห่งนี้จะมีความลับอันยิ่งใหญ่ถูกซ่อนไว้…พวกโนบิตะจะสามารถแก้ปริศนาของแดนสวรรค์แห่งนี้ได้หรือไม่!? การผจญภัยในยูโทเปียที่ลอยอยู่บนฟ้ากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
โดราเอม่อน ตอน ฟากฟ้ายูโทเปียของโนบิตะ เป็นการผจญภัยครั้งใหม่ของเหล่าของเพื่อนที่เรารู้จักกันดี หนังหยิบเอาเอกลักษณ์ของตัวละครและสารพัดของวิเศษมาใช้อย่างได้ผลที่ทำให้หัวเราะกับความสนุกและยิ้มให้กับความทรงจำ โดยเส้นเรื่องเริ่มต้นอย่างเรียบง่าย วุ่นวายตอนช่วงกลาง ก่อนที่จะไปขมวดและสรุปในตอนท้ายได้อย่างน่าประทับใจกับมิตรภาพระหว่างเพื่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเสน่ห์และความบริสุทธิ์ในแบบของ Fujiko Fujio หายไปเยอะ และไม่มีทางที่ลูกศิษย์และผู้สืบทอดจะทำได้เหมือน โดยส่วนตัวมีปัญหากับเสียงพากย์ไทย เมื่อเวลาตัวละครพูดพร้อมกันคือจะฟังไม่รู้เรื่องเลย แต่หนังมีประเด็นดีในเรื่องของการบอกให้รู้ว่าความสมบูรณ์ในทุกสิ่งอย่างนั้นไม่มีอยู่จริง สิ่งที่ควรทำคือ ยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบนั้นและใช้ชีวิตให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ติดให้ ** ครึ่ง
ooo
“มงคลซีนีม่า” ส่ง “Hopeless คน-จน-ตรอก” การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ “ซงจุงกิ” ผลงานโดยผู้กำกับ “คิมชางฮุน” หนังว่าด้วยเรื่องราวของ เด็กหนุ่มที่อยากย้ายออกจากเมืองบ้านเกิดที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อนและความรุนแรง เพื่อไปใช้ชีวิตสงบสุขกับแม่ แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เมื่อเขาต้องเข้าไปพัวพันกับหัวหน้าใหญ่ของแก๊งอาชญากรรม และนั่นทำให้เขาต้องถลำลึกสู่โลกนอกกฎหมายสุดอันตรายเกินกว่าที่ตัวเขาจะรับมือ
หนังเล่าเรื่องราวของ ยอนกยู เด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่ค่อย ๆ ดำดิ่งลงสู่โลกอาชญากรรมได้อย่างน่าเชื่อถือ เพราะปูพื้นฐานตัวละครนี้มาแน่นด้วยการมีตัวละครรองอย่าง แม่ พ่อเลี้ยง และลูกติด ให้ภาพของครอบครัวที่แตกสลายมาเป็นสารตั้งต้น ส่วนตัวละคร ชีกุน ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกสีเทาปนดำ หนังไม่เล่าอะไรเลยช่วงแรก แต่ก็ใส่ข้อมูลบางอย่างที่ลึกลับและมีปมที่น่าติดตามเข้ามาในตอนกลางเรื่อง แต่ด้วยพื้นฐานไม่แน่นก็เลยไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ตัวละครคิดและทำสักเท่าไหร่นัก บทหนังมีความพายเรืออยู่ในอ่าง ทั้งที่การแสดงของทั้งคู่นั้นยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเลย แต่เส้นเรื่องไม่ได้แสดงว่าตัวละครมีพัฒนาการอะไรนอกจากคิดและทำในเรื่องชั่ว ๆ โดยที่ไม่ได้รู้สึกผิดหรือมีความคิดจะแก้ไข แต่โดยส่วนตัวก็ยังรู้สึกโอเคกับช่วงแรกและช่วงกลางของหนังที่ปูเรื่องราวได้น่าเชื่อถือ แต่ไม่ชอบช่วงท้ายที่เลือกจะจบในแบบที่ขัดแย้งกับความคิด การกระทำ และตัวตนของตัวละคร
ติดให้ **
ooo
“Target” ทาร์เก็ต เป้าเชือด หนังนำแสดงโดย ชินฮเยซอน, คิมซองกยุน, คังแทโอ, อีจูยอง, อิมซองแจ, อิมชอลซู, กึมแซรก โดยผู้กำกับ พัคฮีกน ว่าด้วยเรื่องราวของ ซูฮยอน (ชินฮเยซอน) หญิงสาวที่เพิ่งย้ายเข้าบ้านใหม่ ได้ซื้อเครื่องซักผ้ามือสองผ่านแอปฯ ขายของมือสอง แต่กลับพบว่ามันใช้งานไม่ได้ เมื่อพบว่าตัวเองถูกหลอกแถมรำคาญกับความไม่รับผิดชอบของผู้ขาย เธอจึงโพสต์ข้อความเตือนผู้ใช้คนอื่นและเรียกคนขายว่าเป็นนักต้มตุ๋น มิหนำซ้ำยังแจ้งความกับตำรวจด้วย โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคนขายเป็นฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตที่ใช้ตลาดมือสองออนไลน์เพื่อล่อเหยื่อของเขา ความคิดเห็นของเธอทำให้เขาพลาดในการหาเหยื่อรายใหม่ ดังนั้นเธอจึงกลายเป็นเป้าหมายต่อไป เธอเริ่มถูกคุกคามในหลากหลายรูปแบบ ทั้งโทรศัพท์หยาบคาย การเรียกเก็บเงินค่าอาหารจำนวนมากที่เธอไม่ได้เป็นคนสั่ง และเสียงเคาะประตูยามวิกาลจากชายแปลกหน้า เรื่องราวเริ่มร้ายแรงขึ้นเมื่อซูฮยอนพร้อมทั้งตำรวจเดินทางไปยังที่อยู่ของผู้ส่งและพบศพของผู้หญิงคนหนึ่ง
เป็นหนังที่เริ่มต้นมาด้วยการปูพื้นตัวละครเหมือนเป็นคอมเมดี้ แต่พอใส่เกียร์เดินหน้าแล้ว เส้นเรื่องขยับไปพร้อมสร้างความไม่น่าไว้วางใจในสิ่งที่ตัวละครต้องเจอได้ทันที ยิ่งเรื่องเดินไป ความเป็นทริลเลอร์ก็ยิ่งเด่นชัด ดูแล้วตื่นเต้นและลุ้นระทึกมาก ๆ ชอบช่วงต้นและช่วงกลางของเรื่องสร้างความกดดันในสิ่งที่ตัวเอกต้องเจอและสร้างความตื่นเต้น พร้อมลุ้นระทึกไปกับการรับมือและแก้ปัญหา แต่ไม่ชอบช่วงท้ายที่จังหวะการเล่าเรื่องดูเร่งรีบไป และเหตุการณ์ พฤติกรรมในช่วงท้ายก็แสดงดูเล่นใหญ่เกินเบอร์ไปหน่อย กล่าวถึงเรื่องการซื้อของออนไลน์และมิจฉาชีพในโลกไซเบอร์ เป็นประเด็นที่เราสามารถ relate ได้ทันที ก็เลยทำให้อินกับเรื่องราว หนังสอดแทรกข้อคิดในเรื่องของการใช้อินเตอร์เน็ตและใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี
ติดให้ **** ครึ่ง
ooo
“Freelance” จ็อบระห่ำ คนถึกระทึกโลก ฝีมือผู้กำกับ “ปิแอร์ โมเรล” เคยโชว์ผลงานโดดเด่นอย่าง Taken ครั้งนี้มากับ จอห์น ซีนา มารับบทบอดี้การ์ดจำเป็น พร้อมด้วย อลิสัน บรี, ฮวน พาโบล ราบา, คริสเตียน สเลเทอร์, อลิซ อีฟ เรื่องราวของบอดี้การ์ดจำเป็นต้องพานักข่าวสาวที่กำลังจะสัมภาษณ์จอมเผด็จการ แต่เจ้ากรรมดันเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อประเทศเกิดรัฐประหาร ทำให้ทั้งคู่ต้องหาทางรอดออกจากแดนเถื่อนแห่งนี้ให้ได้
จุดขายของเรื่องคือ จอห์น ซีนา ซึ่งบทบาทส่วนใหญ่และภาพจำในภาพยนตร์ก็เป็นแนวตลกเบาสมอง แต่เรื่องนี้ใช้เฮียได้ไม่ค่อยคุ้มเท่าไร เพราะจะตลกก็ไม่สุด จะบู๊แบบดุดันก็กั๊กๆ มิติตัวละครก็เลยแบนไปนิด หนังเดินเรื่องเร็ว เปิดมาทำความรู้จักตัวละคร แล้วก็เริ่มเข้าสู่ภารกิจเลย และมีจุดให้คิดตามหรือสงสัยอยู่บ้างว่าจริง ๆ เเล้วภารกิจที่ล้มเหลวไปเมื่อหลายปีก่อนนั้นแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของใคร ตอนที่เผยความจริงก็ไม่ถึงกับว้าว แต่อย่างน้อยก็เพิ่มสีสันให้หายจืดชืดได้บ้าง รวม ๆ แล้วก็เป็นหนังที่พอดูได้ แต่อย่าไปคาดหวังอะไรมาก
ติดให้ **
ooo
“The Black Demon” หนังแนวระทึกขวัญ- สยองขวัญผสมวิทยาศาสตร์ ที่นำแสดงโดย จอช ลูคัส, เฟอร์นานดา อูเรโฆล่า, เฮคเตอร์ ฆิเมเนซ, ฮูลิโอ ซีซาร์ ซีดิลโย, จอร์จ เอ. ฆิเมเนซ, ราอุล เมนเดซ โดยผู้กำกับ เอเดรียน กรันเบิร์ก เมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อทริปพักผ่อนในฝันของครอบครัวกลายเป็นฝันร้าย พอล ที่ได้พาครอบครัวไปเที่ยวเม็กซิโกในระหว่างที่เขาต้องทำงานตรวจสอบแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัท พวกเขาออกไปสู่กลางทะเล แต่กลับพบว่าแท่นขุดเจาะนั้นถูกทิ้งร้าง มีเพียงคนงานเล็กน้อยที่อยู่ในสภาพหวาดกลัว บางคนบอกอย่างเสียสติว่าแท่นถูกบางอย่างโจมตี และมันก็คือเพชฌฆาตพันธุ์ทมิฬ ที่เคยเป็นเรื่องเล่าในตำนานโบราณของท้องถิ่นเม็กซิโก พอลต้องหาทางเอาชีวิตรอดและพาครอบครัวขึ้นฝั่งให้ทันท่ามกลางอาณาเขตของฉลามสุดโหด ก่อนจะเกิดสงครามระหว่างมนุษยชาติและธรรมชาติขึ้น
เปิดเรื่องมาด้วยความน่าสนใจด้วยการวางฉากให้เป็นเมืองเล็กริมทะเลที่ผู้คนดูไม่น่าไว้วางใจและไม่ชอบคนนอก ทำให้น่าติดตามว่าอะไรคือสาเหตุ แต่เมื่อเรื่องราวเดินหน้าไปถึงจุดที่จะนำเสนอจริง ๆ มันก็กลับเข้าสู่ขนบธรรมเนียมของหนังแนวที่มีสูตรสำเร็จของมันเองที่ไม่ว่าจะกี่เรื่องก็หนีกันไม่พ้น มิติตัวละครแบนและพัฒนาการน้อยไปหน่อย CG อยู่ในระดับดี แต่น่าเสียดายหนังตบจังหวะฉลามโผล่แล้วตัดภาพไปที่ตัวละคนอื่นในฉากอื่น เรียกว่าแทบจะไม่ได้เห็นความสยดสยองของฉลามบนจอเลย เนื้อหาเสนอประเด็นเรื่องของการที่มนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อมจนเกิดความผิดปกติและวิปริตขึ้นในธรรมชาติ แต่ก็ยัดเยียดและสั่งสอนเข้ามามากเกินไปจนรู้สึกแอบรำคาญ
ติดให้ * ครึ่ง
ooo