การดำเนินคดี คดีพิเศษที่ 231/2556 ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ล็อตเตอรี่)
ในวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559) พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวน
คดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พันตำรวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลการดำเนินคดีพิเศษที่ 231/2556 ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ล็อตเตอรี่) ณ บริเวณโถงหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนำสำนวนคดีดังล่าว พร้อมผู้ต้องหา จำนวน 18 ราย ส่งให้อัยการคดีพิเศษ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 มีตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ นางวารุณี ดวงตาสิทธิ์ กรณีการหลอกลวงให้ร่วมลงทุนค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยกล่าวอ้างว่ามีโควต้าในการรับสลาก
กินแบ่งมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก โดยลงทุนหุ้นละ
38,000 บาท ภายหลังกลับไม่ได้รับผลประโยชน์ตามข้อตกลง เหตุเกิดหลายพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน และ จ.ตาก
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ทำการสืบสวนสอบสวนและรับเป็นเลขคดีพิเศษที่ 231/2556 แต่งตั้งคณะทำงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาโดยตลอด และสำนักคดีอาญาพิเศษ 3รับผิดชอบในการรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนการสอบสวน มีพยานหลักฐานเชื่อว่ามีผู้ที่ร่วมกระทำผิดจำนวนหลายรายในลักษณะเป็นแม่ทีมหรือแม่สาย และได้ขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา
จับกุมผู้ต้องหารวม 18 ราย มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย ดังนี้
1. นางวารุณี ดวงตาสิทธิ์
2. นายมังกร พันธ์วิไล
3. นางสาวสมร คำยอง หรือ พันธ์วิไล
4. นายพันธ์ทวี ปานแก้ว
5. นางสุภาพร ปานแก้ว
6. นางสมพร ณ คำ
7. นายปรีดา ตรองใจ
8. นางสมพร ตรองใจ
9. นายเกรียงยศ ตรองใจ
10. นางเพ็ญศรี ฟุ่มเฟือย
11. นางพัทธมน แสงทอง
12. นายสิทธิโชค ดวงตาสิทธิ์
13. นางรสสุคนธ์ ฟองมูล
14. นางณัฎฐ์ธมน มูลสม
15. นายธงชัย ช่อประดิษฐ
16. นางยุพิน วงค์เยาว์
17. นางจันทร์จิรา หรือ นันท์ลภัส พิชิตชัยยากรณ์
18 .นางสาริศา พิมพ์สว่าง
พฤติการณ์ของคดี
นางวารุณี ดวงตาสิทธิ์ ผู้ต้องหา ซึ่งมีตำแหน่งนายกสมาคมพัฒนาคนพิการจังหวัดลำพูน ได้รับสิทธิ (โควต้า) จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการซื้อสลากกินแบ่งในราคาทุนเพื่อไปจำหน่าย ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จนถึง ตุลาคม 2556 นางวารุณีฯ กับพวกที่เป็นแม่ทีมในแต่ละสายในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ตาก ทำการชักชวนผู้เสียหายให้เข้าร่วมลงทุน มีการระดมเงินทุนเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าจำนวนเงินที่ใช้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลตามสิทธิ (โควต้า) โดยผู้เสียหายต้องเสียเงินในการลงทุนเป็นหุ้น หุ้นละ 38,000 บาท โดยหวังที่จะได้รับผลตอบแทนเดือนละ 2 งวด งวดละ 1,000 บาท แต่ปรากฏว่า ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2556 เป็นต้นมา ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ร่วมลงทุนได้ มีผู้เสียหายในคดีรวม 779 ราย มูลค่าความเสียหาย 834,715,000 บาท
