ดีเอสไอร่วมกับกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ๙ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวบกลุ่มแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงผู้เสียหาย มีมูลค่าความเสียหายกว่า ๑๒ ล้านบาท
เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจเอกทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ พันตำรวจโทไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ และร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี รองผู้บัญขาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ สนธิกำลังกับกองบังคับการสืบสวน สอบสวนตำรวจนครบาล ๙ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำหมายจับของศาลอาญาธนบุรี เข้าทำการจับกุมตัวนายจาน ซ่าง บิน (JHAN SHANG-BIN) หรือนายหัว สัญชาติไต้หวัน ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายในประเทศไทยหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายเป็นจำนวนหลายสิบล้านบาท
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ ผู้เสียหายได้เข้าพบพนักงานสอบสวน คดีพิเศษ สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เพื่อแจ้ง กรณีถูกชายที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยราชการต่างๆ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลอกลวงด้วยการโทรศัพท์ติดต่อผู้เสียหายในลักษณะ แก๊งคอลเซนเตอร์และหลอกลวง ให้ผู้เสียหายนำเงินฝากเข้าบัญชี เงินฝากของบุคคลต่างๆ หลายครั้ง หลายธนาคาร รวมเป็นจำนวนเงินประมาณ ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สิบสองล้านบาท) เหตุเกิดระหว่างวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงสั่งการให้ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมา ดำเนินคดี การสืบสวนพบว่า นายจาน ซ่าง บิน (JHAN SHANG-BIN) สัญชาติไต้หวัน ร่วมกับพวก กระทำความผิดฐานฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และในการสืบสวนยังพบว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆ อีกหลายรายที่ถูกกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้หลอกลวง เหตุเกิดในหลายพื้นที่ต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเกี่ยวพันกัน ดังนั้น เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้สนธิกำลัง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมตัว นายจาน ซ่าง บิน พร้อมของกลาง ได้แก่ เงินสด จำนวน ๒๕๐,๐๐๐ บ. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน ๕ เล่ม บัตรเอทีเอ็ม จำนวน ๗ ใบ โทรศัพท์มือถือ ๒ เครื่อง และการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน ๓ เครื่อง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ประสานข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพื่อสืบสวนขยายผลต่อไปให้ถึงตัวการอื่นๆ ซึ่งมีทั้งคนต่างชาติและคนไทย และจะได้นำเรื่องดังกล่าวเพื่อขออนุมัติเป็นคดีพิเศษต่อไป
อนึ่ง ในการจับกุมตัวผู้ต้องหาในครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย จากการตรวจสอบประวัติต้องโทษในประเทศไต้หวันปรากฏว่านายจาน ซ่าง บิน มีประวัติต้องโทษ คดีเกี่ยวกับยาปลอม คดีเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร และเป็นผู้เสพยาเสพติด